เปิดตัว เปิดใจ หนุ่มอารมณ์ดี ยิ้มมีเสน่ห์ เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์
แนะนำตัว
เกรท : ครับชื่อ เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์นะครับ จบจากมหาวิทยาลัยรังสิต คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบภายในโดยปกติเป็นคนอารมณ์ดี ไม่ค่อยเครียด เวลาเจอปัญหาก็มักจะยิ้มสู้กับมัน เป็นคนจริงจังกับงาน
ยิ่งถ้าเป็นงานที่ต้องทำกับคนอื่นด้วยแล้วจะยิ่งใส่ใจ เพราะไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเสียงานเพราะเรา
ชีวิตครอบครัว
เกรท : ตอนเด็กๆ เกรทอยู่ที่เพชรบูรณ์ครับ คุณแม่มีธุรกิจส่วนตัว คุณพ่อ รับราชการตำรวจ มีพี่น้อง 3 คน เกรทเป็นพี่คนโต มีน้องสาว 1 คน และก็น้องชายอีก 1 คนครับ น้องสาวเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยหอการค้า ส่วนน้องชายคนเล็กก็กำลังจะจบเรียน ม.6 เตรียมเอนทรานซ์
ชีวิตวัยเรียน
เกรท : เกรทเรียนอยู่ที่เพชรบูรณ์ ตั้งแต่เด็กๆ ตอนอนุบาลก็เรียนโรงเรียน อนุบาลแถวบ้าน จนถึงตอนมัธยมก็ได้เข้าไปเรียนที่จุฬาภรณ์วิทยาลัย ที่ลพบุรี เพราะว่าคุณลุงเป็นผู้อำนวยการอยู่ เป็นโรงเรียนประจำที่เกี่ยวกับทางด้านวิทยาศาสตร์ล้วนๆ เลย ตอนแรกเกรทเองก็ไม่ได้เตรียมตัว ที่จะเรียนวิทยาศาสตร์มาก่อนเพราะตอนแรกคุณแม่อยากให้เกรทเรียนจบปริญญาตรีจบแล้ว ก็กลับมาทำธุรกิจที่บ้าน ผลยทำให้หนักเหมือนกัน ในช่วงแรกๆ และเหตุที่ต้องไปเรียนโรงเรียนประจำเพราะว่าโรงเรียน แถวบ้านเกรท ค่อนข้างต่างจังหวัด มีภาพรวมที่ดูแล้วไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก สภาพแวดล้อมไม่ค่อยดีเท่าที่ควร คุณแม่กลัวว่าเกรทจะไปคบเพื่อน ที่ไม่ดี เลยตัดปัญหาส่งให้ไปอยู่กับคุณลุง คุณป้า ด้านคุณป้าเองก็เป็นอาจารย์ สอนภาษาอังกฤษที่จุฬาภรณ์วิทยาลัยเหมือนกัน ทางด้านการเรียนของเกรท ตัวเกรทเองก็ไม่ใช่คนเรียนเก่งอะไรมากนัก แถมยังเป็นคนออกจะขี้เกียจอ่านหนังสือด้วยซ้ำแต่การที่เราเลือกเรียนสายวิทย์ ซึ่งมันก็เป็นสายที่ยาก เลยทำให้เราต้องกระตือรือร้นมากขึ้น ต้องอาศัยถามเพื่อนบ้าง อ่านหนังสือเองบ้าง เพื่อที่จะได้ทำข้อสอบได้ครับ
วีรกรรมในวัยเรียน
เกรท : เรื่องแรกเลยก็คือ เริ่มจากการที่เพื่อนๆ ชวนไปงัดห้องคอม เพื่อนั่งเล่นเกมส์ โดยส่วนตัวเกรทเองแล้วไม่ได้อยากเล่นเท่าไหร่ แต่ที่ไปก็เพราะเห็นเพื่อนไป โดยปกติที่โรงเรียนก็จะมียามเดินตรวจอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว พอยามเห็นแสงสว่างออกมาจากห้องคอมก็เดินมาดูเลยทำให้โดนจับได้ นั่นก็เป็นแค่คดีแรก ส่วนคดีถัดมาหนักและก็รุนแรงกว่าเดิมมาก ซึ่งไม่ขอแนะนำให้ใครมาทำแบบผมนะครับ เรื่องก็คือว่าในช่วงเวลาสอบมันจะมีช่วงเวลาว่างๆ อยู่ ทำให้ไม่รู้จะทำอะไร ยิ่งถ้า พรุ่งนี้ไม่มีสอบด้วยแล้ว ก็รู้สึกเบื่อๆ เลยคิดที่จะหาอะไรทำ เพื่อนๆ ก็ ชวนกันเล่นไพ่ค่าเวลา ด้วยการที่เราเล่นไพ่โดยทั่วไป เวลาเล่นเราก็จะลุ้นจนเพลินทำให้ส่งเสียงดัง เสียงมันดังแค่ในห้องไม่เท่าไหร่มัน
ดันดังไปข้างนอกด้วย เลยทำให้อาจารย์จับได้และในครั้งนั้นก็เลยต้องเข้าห้องปกครองไปตามระเบียบ
ประสบการณ์ที่ได้รับจากการที่อยู่โรงเรียนประจำ
เกรท : ก็ได้เรื่องการใช้ชีวิตกับคนอื่นๆ ครับ การอยู่ร่วมกัน ทำให้อัธยาศัย ของเราดีขึ้น ถ้าเกรทเรียนโรงเรียนมัธยมแถวบ้านเกรทคงได้กลับไปเจอคุณแม่ ด้วยสายตาของคนเป็นแม่แล้ว ยังไงก็ยังคง มองว่าเราเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ แต่พอได้มาอยู่แบบนี้ทำให้เกรทโตขึ้น เรียนรู้อะไร ด้วยตัวเองได้มากขึ้น หัดทำอะไรเอง มันทำให้เราโตขึ้นทั้งตัว และความคิดครับ และเป็นการดีที่ผมได้อยู่โรงเรียนประจำ เพราะทำให้ ผมไม่ต้องปรับตัวอะไรมากเวลาที่ผมได้ย้ายมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ครับ
ความพลิกผันของชีวิตวัยเรียน
เกรท : ก็เริ่มจากตอนที่ ม.1 - ม.6 เราเรียนวิทย์ เราจะเรียนแบบสบายๆ ก็คงจะไม่ได้เพราะมันก็ยากเหมือนกัน พอเรียนจบมา แล้วก็เลย คิดต่อว่า จะเรียนอะไรต่อดี ตอนที่เรียนสายวิทย์วิชาที่ชอบมากที่สุด ก็คือชีววิทยา เพราะมันได้วาดรูป พวกเซลล์ต่างๆ เกรทเป็นคน ชอบวาดรูปอยู่แล้ว บวกกับว่าตอนนั้นเกรทก็ชอบดูหนังสือ พวกแต่งบ้านด้วย จริงๆ ตอน แรกคุณป้าก็ถามว่าเกรทยังอยากเรียน สายวิทย์ต่อรึเปล่า ปกติเกรทเป็นคนขี้เกรงใจ แต่ครั้งนั้น เกรทอยาก ที่จะตัดสินใจเองบ้าง เพราะอย่าง น้อยๆ มันก็เป็นอนาคตของ เรา เกรทเลยเลือกที่จะสอบเข้าที่มหาวิทยาลัยรังสิต คณะศิลปกรรม สาขาออกแบบตกแต่งภายใน ทางมหาวิทยาลัยรังสิตเค้ามีให้สอบ แบบ Pre-entrance เกรททำข้อสอบได้ในระดับหนึ่ง ก็เลยได้เข้ามาเรียนในคณะนี้
เริ่มเข้าวงการ
เกรท : จากตอนที่อยู่ปี 2 เกรทเล่นฟุตบอลอยู่ รุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยเค้าก็ได้ เข้ามา ถามว่าสนใจอยากไปเล่นหนังไหม เรื่องหมากเตะฯ จะให้เกรท ไปลอง Casting แต่เราก็ไม่รู้หรอกว่า Casting คืออะไร ตอนนั้นก็สนใจ
เพราะอยากหารายได้เอง แต่ก็ไม่ได้เล่นเรื่องนี้หรอกนะครับ ส่วนผลงานชิ้นแรก ก็คือ โฆษณา Cute Press ก่อน ที่ จะได้มาเล่นโฆษณาตัวนี้ ก็นานเหมือนกัน เพราะต้องไป Casting มาหลายงานเหมือนกัน ทั้งเขินทั้งอาย แต่พอได้ทำก็รู้สึกดี ส่วนงานที่ประทับใจก็จะเป็นงานโฆษณาตัวที่ 2 ของเกรท โฆษณาของ Bangkok Airway เพราะได้เที่ยวฟรีที่ญี่ปุ่น และ อีกโครงการหนึ่งที่ทำให้เกรทได้เข้ามาเป็นที่รู้จัก ก็คือโครงการ Guys Challenge คือในตอนนั้นเกรทถ่ายโฆษณาของ KTC อยู่แล้วพี่ที่โมเดลลิ่งที่เป็นออกาไนซ์แฟชั่นโชว์ ที่เกรทไปเดิน แฟชั่นด้วยบ่อยๆ
เค้าเป็นคนส่งเกรทเข้าประกวด บังเอิญที่ตอน นั้นเกรท ใกล้เรียนจบแล้วด้วย ทำให้มีเวลาดูแลตัวเองมากขึ้น เล่นฟิตเนส ดูแลเรื่องกิน แล้วมีโครงการนี้เข้ามาพอดีก็เลยเป็น อะไรที่เหมาะมากครับ
ผลงานที่กำลังจะมีและความรู้สึกที่ได้รับ
เกรท : ละครครับ ตอนนี้กำลังจะมีผลงานละครเรื่อง คุณกระบือสื่อรัก ของยูม่า และอีกเรื่องก็คือ รักเธอยอดรัก ของควิซแอนด์เควซ ในเรื่องของ คุณกระบือสื่อรัก เกรทรับบทเป็นรุ่งโรจน์ เป็นสัตวแพทย์ เพื่อนของพระเอก เล่นคู่กับจินนี่ ธนิดา กาญจนวัฒน์ ตอนแรกพอรู้ว่าได้แสดงละครเกรทเองก็รู้สึกเกร็งๆ ตื่นเต้นกับครั้งแรก แต่ถ้ามาถามว่าเห็นบทละครแล้วหนักใจไหมกับบท ก็รู้สึกว่าไม่หนักใจเท่าไหร่นัก เพราะในบทไม่ค่อยแตก ต่างจากตัวจริงมาก ที่ไกลจากตัวจริงก็คือ ต้องรับบทเป็นสัตวแพทย์ ซึ่งเกรทเองไม่รู้เรื่องสัตวแพทย์เลย แต่บุคลิกตัวละครไม่ต่างจากตัวของเกรทเท่าไหร่ก็เลยไม่ทำให้หนักใจมากนัก แต่เกรท ก็ต้อง ทำการบ้านเยอะขึ้นเพราะว่า ต้องเล่นกับนัก แสดงมืออาชีพหลายคนเหมือนกัน อย่างพี่ต่าย ณัฐพล พี่เอส วรฤทธิ์ ผมก็ขอฝากผลงานด้วยนะครับ ตอนนี้ก็มีทั้งพิธีกร ที่บางทีก็อาจจะมีตะกุกตะกักบ้าง เพราะเกรทเพิ่งได้มาทำเป็น ครั้งแรก และก็งานด้านละคร ก็จะพยายามเล่นให้เต็มที่ให้ผลงานออกมาดีที่สุดครับ ยังไงก็ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
นายเกรท เขาอ้อนมาขนาดนี้แล้ว ก็อย่าลืมติดตามชมละครของนายเกรท เรื่อง คุณกระบือสื่อรัก ได้เร็วๆ นี้ทางช่อง 3
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก