

เรียบเรียบข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก pantip
ใครที่ได้ติดตามดูรายการตีสิบ เมื่อวันอังคาร ที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา คงจะพอรู้คร่าวๆ แล้วว่า คุณวิทวัส ได้สัมภาษณ์แขกรับเชิญ ซึ่งเป็นญาติของ "ต้น ทิค แทค โท" โดยทางญาติได้ติดต่อรายการตีสิบ เพื่อมาขอออกรายการ และให้เหตุผลว่าการมาออกรายการดังกล่าวอาจจะช่วยคุณต้นฟื้นความทรงจำได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ต้น ทิค แทค โท ความจำเสื่อม เนื่องจากติดยาเสพติดทำให้เกิดอาการทางจิต รวมถึงพฤติกรรมเปลี่ยน จนกระทั่งป่วยจำอะไรไม่ได้. . . อ่านมาถึงตรงนี้แล้วอาจทำให้หลายๆ คนงงได้ว่า "ต้น ทิค แทค โท" นี่คือใคร? แล้วไปติดยาเสพติดและความจำเสื่อมได้อย่างไร วันนี้เรามีคำตอบค่ะ . . .
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 12 ปีที่แล้ว ถ้าเอ่ยถึงวง "ทิค แทค โท" ที่ประกอบไปด้วย 3 หนุ่มหล่อ "ต้น ตี๋ เป้" เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักพวกเขา เพราะเป็นบอยแบนด์ในยุคแรกๆ ที่นำกระแสเจป็อปมาบุกเบิกตลาดในเมืองไทย ซึ่งเรียกได้ว่าดังมากๆ วงหนึ่ง ด้วยหน้าตาที่หล่อ เท่ น่ารัก บวกกับความขี้เล่นจนกลายเป็นเสน่ห์ ทำให้พวกเขาได้รับความนิยมมากในหมู่สาวๆ
ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ กระแสความโด่งดัง ก็ค่อยๆ ลดน้อยลงตามกาลเวลา ประกอบกับต้นสังกัดคือค่ายคีตา มีเหตุต้องปิดตัวลง ทำให้วง "ทิค แทค โท" ค่อยๆ จางหายไปในความทรงจำของผู้คน ไม่มีใครทราบว่าพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่จู่ๆ รายการ "ตีสิบ" ก็ได้รับการติดต่อมาจากทางครอบครัวของ "ต้น ทิค แทค โท" หรือ "ต้น-วิฑูรย์ ตปนิยาภรณ์" เพื่อจะขอพา "ต้น" มาออกรายการเพื่อช่วยฟื้นความทรงจำให้กับต้น และเพื่อหาชีวิตที่หายไปของ "ต้น" กลับคืนมา ที่สำคัญอยากให้ชีวิต "ต้น" เป็นอุทาหรณ์ให้กับเด็กๆ และเยาวชน หลังจากเขากลายเป็นคนความจำเสื่อม จำไม่ได้แม่กระทั่ง "แม่" เนื่องจากเสพยาเสพติดมากเกินขนาด และเสพมาเป็นเวลานานหลายปีๆ
ไม่เคยมีใครจะคาดคิดว่าเด็กหนุ่มที่มีอนาคตในวงการบันเทิง จะหันหน้าไปพึ่งยาเสพติดได้ เพราะในช่วงที่โด่งดัง "ต้น" เกิดหลงเดินทางผิด เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด กว่าที่ทางบ้านจะทราบเรื่อง "ต้น" ก็สูญเสียความทรงจำไปแล้ว จากที่เมื่อก่อนเขาจะเป็นคนร่าเริง ใจดี ไม่เคยดุ ด่า พอเสพยาเสพติดก็กลายเป็นอีกคนหนึ่งไปเลย เช่น หงุดหงิดง่าย โวยวาย ถึงขนาดเกิดประสาทหลอน เนื่องจากกินยานอนหลับเกินขนาด จนเกิดอาการเอ๋อ จำได้บ้างไม่ได้บ้าง บางวันก็ไปนั่งที่ขอบริมระเบียงคอนโดมิเนียม แล้วหันมาถามน้องสาวว่า...ถ้าพี่กระโดดลงไปจะเจ็บไหม โชคดีที่น้องสาวหันไปคว้าทัน
ทั้งนี้ คุณแม่จารีพร ตปนิยาภรณ์ เปิดใจในรายการตีสิบตอนหนึ่งว่า ปกติน้องต้นเป็นเด็กร่าเริง พอดีที่มีคนโทรมาบอกแม่ให้มารับน้องต้นที เพราะแม่กับน้องต้นไม่ได้อยู่ด้วยกัน ตอนที่แม่ไปเจอน้องต้นครั้งแรกตกใจมาก เพราะเค้าโทรมมาก โกนผมไปหมดเลย ทั้งๆ ที่น้องต้นเป็นคนรักผม ห่วงหล่อมาก แม่ก็เลยพากลับบ้าน ตอนนั้นแม่ก็ไม่รู้ว่าติดยา จนสังเกตอาการไปเรื่อยๆ ก็เริ่มรู้แล้วว่าน้องต้นคงติดยา เพราะชอบนั่งเหม่อ พูดคนเดียว พูดจาไม่รู้เรื่อง เก็บตัว บางครั้งก็ไปหยิบไก่ดิบๆ จากตู้เย็นมากิน แม่เลยพาไปรักษา ซึ่งตอกแรกน้องต้นไม่ยอมไป เก็บตัวเงียบอยู่ในห้อง ไปไหนก็ไม่ไป ชวนไปไหนก็ส่ายหน้าตลอด จนเห็นไม่ไหวแล้ว แม่เลยพาไปรักษาที่โรงพยาบาลศรีธัญญา ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าน้องต้นเป็นโรคจิตเภท ที่เกิดจากเสพยาเสพติดมากเกินไป จนไปกัดกินสมอง ทำให้สมองเสื่อม ทำให้เกิดอาการประสาทหลอน หูแว่ว เห็นภาพหลอน ซึ่งคุณหมอก็ให้กินยารักษามาเรื่อย เพราะโรคนี้รักษาไม่หายขาด
"ต้นเป็นคนคิดมาก ชอบเอาเรื่องต่างเก็บมาคิด ชอบเก็บเงิน สมัยก่อนต้นเรียบร้อย มากราบแม่ประจำ แต่ตั้งแต่ใช้ยาก็เปลี่ยนไป ตอนที่มีอาการหนักๆ จำคนในบ้านไม่ได้เลย ไม่ยอมอาบน้ำ เพราะอาบไม่เป็น จนคุณแม่ต้องอาบน้ำให้ แต่อาการตอนนี้ดูสดใสกว่าตอนที่แย่ที่สุดมาก ครอบครัวก็ยิ้มได้ ที่เห็นต้นดีขึ้น เสียดายเด็กดีๆ แต่ปัจจุบันน้องต้นก็กินยารักษาอยู่เรื่อยๆ ก็ดีขึ้นมาก ทำงานอะไรได้เล็กน้อย ดูแลตัวเองได้บ้าง บุคลิกตอนนี้น้องต้นเหมือนเด็กๆ ยิ้มง่ายแต่ก็กลับไปหน้าขรึมได้ในทันที แต่ก็ดีใจที่เห็นเค้ายิ้มได้ หัวเราะได้ ถึงแม้ว่าจะไม่เหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าพอจำเรื่องราวต่างๆ ได้ ช่วยตัวเองได้ แม่ก็พอใจแล้วค่ะ" คุณแม่ กล่าว
คุณแม่ กล่าวอีกว่า คุณแม่ขอฝากผู้ปกครอง ลูกๆ ที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นหัวเลี้ยวหัวต่อ ควรให้ความดูแลใกล้ชิด ถ้าพลาดแม่บอกเลยว่าเหมือนตายทั้งเป็น เพราะต้องทุกข์ทรมานใจที่เห็นลูกป่วย ถ้าลูกเริ่มผิดปกติ หรือพลาดไปแล้วก็ขอให้ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ถ้าเห็นว่ามีอาการผิดปกติ พฤติกรรมเปลี่ยน ก็ควรจะให้ความดูแลใกล้ชิด ดูว่ามีอุปกรณ์ เช่น ไฟแช็ค เข้าห้องน้ำนานๆ เก็บตัว ให้ความเอาใจใส่ แต่อย่ากดดัน หรือไปจ้องจับผิด ให้ความรักความดูแล ควรจะพาลูกไปบำบัดแต่เนิ่นๆ อย่าให้ลูกอาการหนัก ให้กำลังใจลูกและครอบครัว ดูตัวอย่างแม่ ที่มีความอดทนดูแลต้น จากอาการหนักกว่านี้มาก จนดีขึ้น ให้ความรักลูกแม้ว่าจะป่วยอยู่ อย่าเห็นเป็นคนอื่นไกล
"ต้น" ในวัย 31 ปี แม้จะแก่ขึ้นตามกาลเวลา แต่ก็ยังคงความหล่อไว้ได้เสมอ และก็ค่อยๆ พยายามฟื้นความจำตัวเองให้กลับมาเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม ทีมงานกระปุกดอทคอมก็ขอเป็นกำลังใจให้ "ต้น ทิค แทค โท" สู้ต่อไปและกลับมาสดใสอีกครั้งพร้อมกลับหวนมาจับไมค์ร้องเพลงให้แฟนเพลงได้ฟังอีก...
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ







