รูมเมท เพื่อนร่วมห้อง. . .ต้องแอบรัก? (Motif Plus)
กำหนดฉาย : 11 มิถุนายน 2552
แนว : ดราม่า / โรแมนติก / เพลง
นำแสดง : วิทวัส สิงห์ลำพอง, อภัสนันท์ วรภิรมย์รักษ์, นีรนาท วิคทอเรีย โคทส์, มัฒธณิตาศ์ เศวตวิธยะธาดากุล, ภูดิศ สุริยวงศ์
กำกับ : กรัณย์ คุ้มอนุวงศ์ (คริตกะจ๋า บ้าสุด...สุด)
เว็บไซต์ทางการภาพยนตร์
If Music be the Food of Love, Play on
Twelfth Night
William Shakespeare
Roommate เป็นเรื่องราวของเพื่อนนักศึกษาที่เรียนอยู่เชียงใหม่ 4 คน พวกเขาเป็นสมาชิกวงดนตรี The Roommate ด้วยกัน ประกอบด้วย
โน๊ต มือกีตาร์ ปี 1 ฝีมือดี ชอบทำทุกอย่างที่ ยากและสูงส่ง ยกเว้นเรื่องเรียน
ป๊อป คีย์บอร์ด เพื่อนร่วมชั้นของโน้ตที่ภายนอกดูเป็นสาวห้าว แต่ลึกๆ จิตใจอ่อนไหว
โม มือเบส รุ่นพี่ปี3 สาวเปรี้ยวกล้าแสดงออก แต่อย่ามองมาก เดี๋ยวอาย
อี๊ด หัวหน้าวง มือกลองรุ่นเดียวกับโม ชอบแกล้งโมแทนการบอกรัก โมเลยไม่รู้ซักที ว่าไอ้ที่แกล้งน่ะ เพราะชอบแกล้ง หรือแกล้งชอบกันแน่
วง The Roommate มีกฎว่า สมาชิกในวงต้องมาอยู่ร่วมกันในบ้าน Roommate เพราะพวกเขาเชื่อว่า การมาใช้ชีวิตเป็นรูมเมทในบ้านเดียวกัน จะทำให้พวกเขาได้รู้จักกันเป็นอย่างดี สนิทใจกัน และสามารถแชร์ความคิดและความรู้สึกต่างๆ ได้ อันจะส่งผลให้มีผลงานทางดนตรีที่ดี โดยพวกเขามีเป้าหมายที่ฝันร่วมกันว่า อยากมีเพลงเป็นของตัวเอง และพวกเขาจะเปิดคอนเสิร์ตบนดาดฟ้าบ้าน Roommate ทันทีที่เพลงเสร็จ
ในขณะนั้น "พิงค์นครบาร์" ที่วง The Roommate เล่นประจำอยู่ มีปัญหาลูกค้ากำลังร่อยหรอลงทุกที เจ๊ใหญ่เจ้าของบาร์เลยสั่งว่าวงต้องมีนักร้องสาวคนใหม่เพื่อมาช่วยเรียกลูกค้า แต่โน้ตไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะกลัวนักร้องใหม่จะเข้ากับพวกเขาไม่ได้ เลยแกล้งตั้งสเปกของนักร้องสาวของวงไว้ให้ยากและสูงส่ง คือ เสียงดี สูง สวย หมวย ขาว ขายาว หน้าลูกครึ่ง แต่จากนั้นไม่นานโน๊ตก็ได้พบสาวที่มีคุณสมบัติตรงกับ สเปกของเขาทุกอย่าง เธอคือ "แอน" เพื่อนเก่าของ ป๊อบ ซึ่งในตอนที่ทั้งคู่เรียนมัธยมปลายด้วยกัน แอนกับป๊อบเป็นเพื่อนที่สนิทกันเกินเพื่อน
แอน นักร้องนำคนใหม่ เพื่อนสนิทของป๊อป สวย สูง ขาว ที่เข้ามาให้วงดนตรีที่สุขสงบต้องรวนเรใจตุ่มๆ ต่อมๆ โดยเฉพาะกับโน๊ต
ทั้งบาร์และวงคึกคักขึ้นทันทีเมื่อได้แอนมาร่วมวง และร่วมใช้ชีวิตในบ้านRoommate
ในความคึกคักนั้น ก็มีความรักที่เป็นความลับในบ้าน Roommate แอบแฝงตัวอยู่ เพราะจริงๆ แล้วที่แอนมาเชียงใหม่เพราะ แอนต้องการรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับป๊อปให้เหมือนเมื่อสมัยเรียนด้วยกัน แต่ป๊อปอยากให้เรื่องนั้นเป็นแค่อดีต ป๊อบไม่สามารถที่จะกลับไปคบกับแอนแบบนั้นได้อีกแล้ว เพราะป๊อบ เริ่มรู้ใจตัวเองว่า เธอรู้สึกกับโน้ตมากกว่าความเป็นเพื่อน แต่เธอก็ไม่สามารถบอกความรู้สึกนี้ให้โน้ตรู้ได้เลย เพราะ โน้ตได้แอบมาสารภาพกับเธอแล้วว่า โน้ตต้องการจีบแอน สาวที่ตรงสเปกเขาทุกอย่าง โดยที่โน๊ตไม่รู้ว่าความรู้สึกที่แอนมีต่อป๊อบนั้นจะทำให้แอนคิดกับโน้ตได้แค่คำว่า เพื่อน
ความรักที่รักกันเป็นวงกลมนี้ ดูเหมือนจะมีบทสรุปที่ไม่มีใครจะสมหวังในความรักของตัวเองได้
ยิ่งไปกว่านั้น ความรักที่เป็นความลับนี้ อาจสั่นคลอนความเป็นเพื่อนของชาวRoommate ได้ เพราะการเป็นรูมเมทกันและต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเดียวกันทั้งกลางวันและกลางคืน จะเป็นตัวเร่งให้ความลับนี้ ต้องเปิดเผยขึ้นมาสักวัน และเมื่อวันนั้นมาถึงไม่มีใครรู้เลยว่าความเป็นเพื่อนของพวกเขาจะเป็นอย่างไร ความผูกพัน การเป็น Roommate และ ความฝันร่วมกันเรื่องเพลงของพวกเขาจะสามารถเกาะเกี่ยวมิตรภาพและคำว่าเพื่อนเอาไว้ได้หรือไม่
If Music be the Food of Love, Play on
Twelfth Night
William Shakespeare
นักแสดง
วิทวัส สิงห์ลำพอง (บอล) รับบท "โน้ต"
ในเรื่องรับบท โน้ต เป็น นักศึกษาปี 1 วรรณคดีอังกฤษ แต่โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ไม่ชอบเรียน จะเป็นพวกที่ชอบนั่งหลับในห้อง แต่เผอิญมีเพื่อนร่วมวงดนตรีที่เรียนอยู่ห้องเดียวกันคอยให้ลอกเล็กเชอร์ ซีร็อกซ์เล็กเชอร์มา คอยติวให้ ก็เลยสบายๆ ก็เหมือนเป็นเด็กนักเรียนที่ขี้เกียจนิดหน่อย แต่ตัวโน้ตเค้ามีความเด่นตรงเป็นนักดนตรีที่มีความสามารถ เป็นนักกีต้าร์ขั้นเทพ นอกจากเล่นกีต้าร์เก่งแล้ว ตอนที่อยู่ในวงเนี่ยทุกคนก็คาดหวังว่าโน้ตจะแต่งเพลงแรกของวงให้ได้ เพราะตอนนี้ที่เล่นจะเอาเพลงเก่าๆ ของคนอื่นมาร้องใหม่ตามประสานักดนตรี วงดนตรีใหม่ และตอนนี้ความฝันของวงก็คืออยากจะมีเพลงสักเพลงเป็นของตัวเอง โน้ตก็รับภาระนั้น แต่ด้วยความที่โน้ตมีนิสัยอย่างนึงคือมีนิสัยที่คิดว่าสิ่งที่ "ใช่" เนี่ยจะต้องยุ่งยากซับซ้อน ต้องเท่ห์ ต้องเทพ มันก็เลยทำให้การแต่งเพลงไม่จบซักที ทั้งๆ ที่มันเริ่มต้นมีเมโลดี้ที่ดีแล้ว แต่โน้ตก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่ซับซ้อน มันยังไม่ฟังดูแล้วได้ถ้วย ได้เหรียญ เพราะฉะนั้นคาแรกเตอร์ของโน้ตเนี่ยคือคนที่คิดว่าสิ่งที่ใช่จะต้องซับซ้อนและยุ่งยาก และไม่เคยมองหาอะไรง่ายๆ มีความเชื่อมั่นในตัวเอง เป็นนักดนตรีที่เก่ง
ในเรื่องคาแรกเตอร์ของ โน้ต ก็คงจะคล้ายๆ กันกับบอล ในมุมการเป็นนักเรียน เพราะบอลก็เป็นนักเรียนที่ไม่ค่อยเรียน โน้ตก็เป็นนักเรียนที่ไม่ค่อยเรียน แต่ต่างกันในมุมที่โน้ตเป็นนักดนตรี แต่บอลไม่ได้เป็นนักดนตรี เพราะฉะนั้นความต่างตรงนี้ ที่โน้ต เป็นนักดนตรีที่เก่งเนี่ย ทำให้บอลต้องฝึกหัดให้เล่นแล้วคนเชื่อ ซึ่งก็มีพี่ที่เป็นนักดนตรีอาชีพ ชื่อ ครูแอ๊ด มาสอนอยู่ 2-3 เดือน ก็พยายามจะแกะคอร์ด แกะไลน์โซโล่ที่มันจะต้องใช้ในหนังให้ได้ อันนี้มันเป็นสิ่งที่แตกต่างกับตัวเอง คือต้องพัฒนาความเป็นนักดนตรีให้ดูในหนังแล้วเชื่อ
ก่อนเปิดกล้องก็มีการเรียนการแสดงกับครูเงาะ ซึ่งก็เป็นครูการแสดงเดิมที่เคยได้เรียนกันตอนที่บอลแสดงเรื่อง Season Change ก็คุ้นเคยกันไปแล้ว และครูเงาะก็มาปรับให้บอลเป็นคาแรกเตอร์นี้มากขึ้น ส่วนที่ Workshopเยอะคงจะเป็นในเรื่องดนตรีที่พอรู้ตัวว่าต้องเล่นปุ๊ปก็ต้อง workshop ดนตรีเลย กับ "ครูแอ๊ด" ซึ่งเป็นมืออาชีพ ในการสอนพี่เค้าจะบอกว่าให้จับให้ท่าเหมือนจับคอร์ดถูกก็พอ แต่บอลก็อยากจะเล่นให้ได้จริงๆ มาเล่นแรกๆ มาจับเอาให้มันไม่บอดเนี่ย นิ้วมันก็จะเจ็บ ก็เลยอาจจะเสียเวลาไปหน่อย แต่จริงๆ แล้วมันก็แค่จับผิวๆ ก็ได้ แต่เรารู้สึกเหมือนมันไม่ Feel ถ้าเราจับแล้วตีคอร์ดแล้วอะไรมันไม่ดังเนี่ย ก็เลยพยายามเล่นให้มันใกล้เคียงที่สุด นิ้วก็เจ็บระบมไปหมด แต่ก็ทำให้เรารู้สึกชอบกีต้าร์ขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งหลังจากที่เรื่องที่แล้วเราฝึกกลอง เรื่องนี้เราได้มาฝึกกีต้าร์ ไม่รู้ว่าเรื่องต่อไปจะมีฝึกคีย์บอร์ดรึเปล่า อาจจะทำให้บอลเล่นดนตรีได้ทุกชนิดในการถ่ายหนัง
เรื่อง Roommate เป็นหนังความรักที่เราไม่เคยเห็นในหนังเรื่องอื่น โดยเฉพาะหนังไทย มันเป็นเรื่องความรักที่ บอลไปรักนุช ซึ่งรับบท แอน และแอนไปชอบป๊อป แต่ป๊อปซึ่งเล่นคีย์บอร์ดเนี่ย รับบทโดย อลิซ กลับมาชอบ บอล มันเป็นความพัวพัน ที่ต้องหลบซ่อนในความรักแบบวนไปวนมา เป็นวงกลม ก็เป็นรักที่แตกต่าง แต่เมื่อต้องมาอยู่ในบ้านเดียวกัน เจอกัน 24 ชั่วโมง ความอึดอัด ความอะไร มันคงจะสนุกสนานดี เลยคิดว่าจุดที่รู้สึกคงเป็นเรื่องที่มันแตกต่าง ในความแตกต่างมันทำให้เรามีการแสดงที่น่าสนใจ
บอลว่าหนังเรื่องนี้ทำให้เราได้รู้ว่าการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน มันต้องมีการพูดคุยถ้อยทีถ้อยอาศัยกันครับ แล้วก็เหมือนกับว่าต้องใส่ใจในกันและกันให้มากขึ้นครับ
อภัสนันท์ วรภิรมย์รักษ์ (อลิซ) รับบท "ป๊อป"
คาแรกเตอร์ในเรื่องเป็น ป๊อป เป็นมือคีย์บอร์ดที่อยู่วงดนตรี รูมเมท ซึ่งมีสมาชิก 4 คน มี โน้ต เล่นกีต้าร์ ที่รับบทโดย บอล มี โม เล่น เบส รับบทโดย เอ็มมี่ มี พี่นนน์ ตีกลอง ในคาแรกเตอร์เป็น อี๊ด เป็นเพื่อนกัน 4 คน อยู่บ้านเดียวกัน รวมวงกัน อลิซกับบอล ป๊อปกับโน้ตอยู่ปี 1 ส่วน โมกับอี๊ดอยู่ปี 3 แต่วงเค้ามีปัญหา เพิ่งเปลี่ยนนักดนตรีไป เค้าก็เผอิญไปเห็นป๊อปกับโน้ตเล่นดนตรีตอนงานเฟรชชี่เค้าก็เลยเลือกมา เราก็เลยได้เป็นนักดนตรีประจำวง แต่มีกฏของวงคือย้ายเข้ามาอยู่บ้านเดียวกัน เราก็เลยได้เข้ามาเป็นรูมเมทกัน ได้ใช้ชีวิตด้วยกัน
ตัวป๊อป ในอดีตตอนอยู่ ม.5 ม.6 เป็นผู้หญิงที่ดูห้าวๆ ในหมู่เพื่อน ตัดผมสั้น แล้วก็เล่นกีต้าร์ก็ดู แต่พอมาอยู่มหา'ลัย อยู่ปี 1 เราเริ่มรู้สึกว่าจริงๆ เราก็เป็นผู้หญิงคนนึง ที่มีความรู้สึกแบบว่า..ชอบผู้ชาย ในเรื่องก็คือเราชอบ โน้ต แต่ก็ต้องเก็บความรู้สึก เพราะความรู้สึกที่รักเพื่อนเนี่ย เราในฐานะตัว ป๊อป คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ยิ่งความเป็นเพื่อนอย่างที่เป็นรูมเมทกันเนี่ย มันไม่ใช่แค่มาเรียนแล้วเจอกันไป แต่มันอยู่กัน 24 ชั่วโมง มันมีความเป็นวงดนตรี มันเหมือนว่าเป็นอะไรที่ยาก ถ้าเราตัดสินใจที่จะบอกเค้า ถ้าเราบอกว่าชอบเค้า แล้วเค้าไม่ชอบเรา มันอาจจะทำให้วงดนตรีนี้แตก มันอาจจะทำให้บ้านรูมเมทนี้ไม่มีต่อไป มันเลยเหมือนเป็นความลับที่ต้องเก็บเอาไว้ในใจ
จนกระทั่งวันนึง มี แอน ซึ่งรับบทโดย น้องนุช ซึ่งในเรื่องเหมือนเป็นความรักของเราในวัย ม.5 ม.6 ที่เราก็ยังไม่รู้ว่าเราเป็นยังไง เค้าขึ้นมาเชียงใหม่ เค้าจะมาตามว่าทำไมเราไม่ติดต่อไป ที่เราไม่ติดต่อไป เพราะรู้สึกว่ามันควรจะจบได้แล้ว เราเปลี่ยนไปแล้ว เค้ามาทวงถามมันก็เลยยิ่งยุ่ง เพราะเรามีความลับที่บอกโน้ตไม่ได้ แล้วยังจะมีความลับกลัวว่าคนจะรู้ว่าเรามีความรู้สึกยังไงกับแอนในอดีต
แล้วที่ยุ่งกว่านั้นคือโน้ตก็มารักแอน มาชอบแอน เพราะเป็นสาวในสเป๊คของโน้ตเลย เสียงดี สูง สวย หมวย ขาว ขายาว หน้าลูกครึ่ง โน้ตก็เลยจะจีบแอน ส่วนแอนก็มาทวงความสัมพันธ์กับป๊อป แต่ป๊อปกลับแอบรักโน้ต อันนี้คือคาแรกเตอร์ของป๊อปที่อยู่ในหนังเรื่องนี้ ก็เป็นคาแรกเตอร์ที่น่าสนใจ เคยอ่านบทก็เออเรื่องนี้น่าสนใจ พอเค้าเลือกมาเล่นก็เลยไม่รีรอ
ในเรื่อง ตัวป๊อป ต้องเล่นคีย์บอร์ด เราก็ต้องมาเรียน กับพี่ที่เป็นมืออาชีพ เป็นครูสอนเปียโน สอนคีย์บอร์ด เวลาเรียนเค้าจะมีออฟฟิศที่เป็นเหมือนบ้านของหนังเรื่องนี้ เค้าก็จะนัดเราไปพร้อมกัน นัดครูไปพร้อมกัน แล้วก็เรียนพร้อมกัน แต่แยกเรียน ห้องนึงเรียนกีต้าร์ ห้องนึงเรียนคีย์บอร์ด ห้องนึงเรียนกลอง แล้วพอถึงจุดนึงเค้าก็ให้ลองเล่นรวมกันบ้าง
ในเรื่องนี้ อลิซ ต้องร้องเพลงด้วย แต่ไม่ได้เป็นเพลงในหนังนะคะ เพราะเป็นเพลงประกอบMV ที่บอกถึงคาแรกเตอร์ของป๊อปค่ะ
พอได้มาเล่นเรื่อง Roommate เหมือนทำให้เราเรียนรู้การที่จะค่อยๆ เติบโตค่ะ ค่อยๆ เรียนรู้ ทำความเข้าใจคนที่อยู่ร่วมกันกับเรา ว่าเค้ามีความต้องการยังไง เราต้องการอะไร ในบางเรื่องเราก็ต้องพูดแบบเปิดอกกันบ้าง ถ้าเก็บอะไรไว้ในใจแล้วมันอาจจะทำให้เราต้องเจ็บปวดคนเดียว ทั้งๆ ที่ถ้าเราบอกไปบางทีผลอาจจะออกมาแฮปปี้ ซึ่งก็คงเป็นเรื่องใกล้ตัวเราค่ะ
นีรนาท วิคตอเรีย โคทส์ (น้องนุช) รับบท "แอน"
Character ที่ นุชได้รับในเรื่อง Roommate เป็น แอน แอนเป็นเพื่อนของ ป๊อป ซึ่งปัจจุบันนี้ ป๊อปไปเรียนที่ เชียงใหม่ แต่ แอน เรียนอยู่ต่างประเทศ แต่ว่าในวัยที่เป็นนักเรียน ม. ปลาย แอน กับ ป๊อป นี่สนิทกันในความรู้สึกที่มากกว่าเพื่อน แล้วพอแยกกันไปก็ดูเหมือนว่า ป๊อป ก็ไม่ยอมติดต่อแอนเท่าไหร่ พอดีว่า แอน ว่างจากการเรียนภาษาอังกฤษก็เลยกลับมากรุงเทพ และ ขึ้นไปหาป๊อปที่เชียงใหม่ เพราะมีบ้านอาอยู่ที่นั่น ก็เลยจะไปถาม ป๊อป ว่า โกรธอะไร เพราเราเองก็ไม่รู้สาเหตุ ตอนที่เราเรียนจบก็ยังดีๆกันอยู่จนไปเมืองนอกมันมีความเปลี่ยนแปลง ก็เลยกลับมา โดย Character ของ แอน ก็คือ มีเป้าหมายที่จะมารื้อฟื้นความสัมพันธ์กับป๊อป
โดย Character เลย คือเป็นคนที่ร้องเพลงได้ เพราะในสมัยเด็กๆก็จะมี ป๊อป ที่เล่นดนตรี ส่วน แอน ก็จะร้องเพลง เป็นคู่เพื่อนสนิท ที่สนิท กันมากกว่าเพื่อน แล้วอีกอันนึงที่ระบุไว้ในบทก็คือ เราเป็นสาวที่ตรงสเป็คกับ โน้ต ที่เล่นโดย พี่บอล คือเห็นเขาบอกว่า สเป็คของโน้ต คือ เสียงดี สูง สวย หมวย ขาว ขายาว หน้าลูกครึ่ง และจะต้องมาเป็นนักร้องของวง พอโน้ต เจอผู้หญิงที่ตรงสเป็คแบบนี้เขาก็ชอบ และ พยายามที่จะจีบทันที ส่วนเราตั้งใจที่จะมารื้อฟื้นความสัมพันธ์กับ ป๊อป ส่วนป๊อปเมื่อแอนมาถึงแล้ว แอน กลับรู้สึกว่า ป๊อป เปลี่ยนไป แต่ไม่รู้ว่าเปลี่ยนเพราะอะไร จนท้ายๆเรื่องเราถึงมารู้ว่า ป๊อป เปลี่ยนไปเพราะรัก โน้ต เพราะฉะนั้น Character ของ แอน คือ เป็น คนที่ชอบ ป๊อป แต่ ป๊อป ไปแอบชอบโน้ต แต่ โน้ต มาชอบเรา มันก็เลยเป็นรักแบบวงกลมที่ใสๆ เด็กๆ โดยตัวเราเอง พอถูก ป๊อป ปฏิเสธว่าไม่ได้คิดเหมือนเดิมแล้ว เราก็คิดว่าไม่ได้ซิ แต่ในขณะที่ โน้ต มาจีบเรา เราก็รู้สึกดีนะได้ไปเที่ยวไหนมาไหน เป็นความรักของเด็กที่ยังไม่รู้ว่าความรักคืออะไร ตรงนี้ก็เป็นตัวที่ แอน คิดว่า เออ มันก็เป็นเหมือนเราที่ความรักเป็นอะไรที่ค้นหา และก็ แอนคิดว่าเรื่องราวเป็นเรื่องที่คิดว่าใหม่ ไม่เคยเห็นในหนังเรื่องไหนๆจะแอบรักกันแบบนี้ แต่ในรักแบบนี้ก็ไม่ได้มีอะไรที่ดูแล้วน่าเกลียด มันเป็นแค่ความรู้สึกของคำว่าเพื่อน ก็เลยคิดว่าสนุกที่จะแสดงก็ไม่ได้เกินวัยของนุช
และในเรื่องนุชก็ต้องเป็นนักร้อง แต่นุช ไม่เคยร้องเพลงมาก่อน ก็ได้มาเรียนเพิ่มเติมกับกับ ครู นิค ที่มีฟ้า เรียนอยู่ประมาณ 7 ชั่วโมง ไปเรียนอยู่ 4-5 วัน แล้วก็เข้าห้องอัดเลยก็ได้ ครู อิน บูโดกันมา Coach ในการร้องและก็มี ครู เต๋า ที่มาช่วย Coach ในการร้องได้เรียนเท่านั้นแล้วก็ร้องเลย และ พี่เขาก็เอามาใช้จริงในหนังเลย
การทำงานหนังกับการเป็นนางแบบมันก็แตกต่างกันนะ นุชว่าเป็นนางแบบเราก็เหมือนไม้แขวนเสื้อ เอาไว้โชว์ชุดสวยๆ ของดีไซน์เนอร์ แต่งานหนังมันเหมือนต้องเข้าไปเป็นตัวแทนของวัยรุ่นกลุ่มนึง แล้วก็แสดงออกมาให้ทุกคนเห็นค่ะ ก็ค่อนข้างต่างกันมากๆ
พอนุชได้มาเล่นเรื่อง รูมเมท เรื่องนี้มันทำให้นุชเหมือนได้เรียนรู้ว่าการมีชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่นเป็นยังไง มันเหมือนได้ใช้ชีวิตอิสระ แต่จริงๆ แล้วมันก็ยังมีข้อจำกัดในการเป็นเพื่อนร่วมบ้านด้วย คือมันต้องมีกฎกติกาในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน มันจะต้องทำยังไงไม่ให้ผิดใจกัน อะไรประมาณนี้ค่ะ
มัฒธณิตาศ์ เศวตวิทยะธาดากุล (เอ็มมี่) รับบท "โม"
ในเรื่องรูมเมท รับบทเป็น "แตงโม" เป็นมือเบส เป็นคนที่ดูห้าว ค่อนข้างโวยวาย แต่จริงๆ แล้วเป็นผู้หญิงที่ต้องการ ความรัก อยากได้ความรักจากคนรอบข้าง เป็นคนค่อนข้างโรแมนติก มีความฝันว่าอยากนอนบนกองกุหลาบเหมือนเรื่อง American Beauty ก็มีพูดเกริ่นๆ กับ "นนน์" ที่เล่นเป็น "อี๊ด" แต่เค้าก็แกล้งทำไม่รู้ คือในเรื่อง "แตงโม" เป็นรุ่นพี่ปี 3 รุ่นเดียวกับ อี๊ด ซึ่งเป็นหัวหน้าวงรูมเมทและเป็นมือกลอง พวกเราค่อนข้างสนิทกัน เพราะจะว่าไปเราเคยอยู่ในวงรูมเมทนี้มาแล้ว แต่ตอนนี้นักดนตรีที่เคยเล่นดนตรีกับพวกเราแยกทางกันไป พวกเราสองคนก็เลยรับหน้าที่ทำวงรูมเมทขึ้นใหม่ และกำลังตามหาลูกทีมที่จะมาเล่นดนตรีร่วมกัน จนได้พบ "โน้ต" รับบทโดย บอล Season Change เป็นมือกีต้าร์ และ "อลิซ" ที่รับบทเป็น "ป๊อป" เป็นมือคีย์บอร์ด เลยชวนให้มาอยู่วงเดียวกัน และให้ย้ายเข้ามาร่วมบ้านกัน เพราะกฏของวงรูมเมทคือทุกคนจะต้องย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเดียวกัน แตงโม ในเรื่องจะเป็นเหมือนเจ๊ใหญ่ประจำบ้าน คอยดูแลความเรียบร้อย และในตอนหลังก็ได้สมาชิกเพิ่มมาอีกคน คือ "แอน" รับบทโดยน้องนุช ซึ่งเป็นนักร้องนำประจำวงรูมเมทของเรา
ก่อนแสดงจริง ด้วยความที่พวกเราทั้ง 5 คน ยังไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน พี่ๆ ทีมงานก็เลยส่งพวกเราไป workshop กับ "ครูเงาะ" ซึ่งเป็น Acting Coach ครูเงาะให้เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เพื่อทำความรู้จักสนิทสนมกันก่อนเปิดกล้อง มีการปูพื้นฐานให้พวกเรา เพื่อเป็นการละลายพฤติกรรม และทำให้พวกเราเข้าใจในบทบาทของตัวเองมากขึ้น ซึมซับตัวละครที่เรารับบทมากขึ้น ก็ใช้เวลาอยู่กับครูเงาะประมาณ 2 เดือนค่ะ
ส่วนในเรื่องดนตรี ด้วยความที่แตงโมในเรื่องต้องเล่นเบส เอ็มมี่ก็มีการเรียนเบสตั้งแต่พื้นฐานเลย รวมไปถึงเพลงที่จะต้องเล่นทั้งหมดในเรื่อง ตอนเรียนดนตรีเริ่มแรกเค้าให้เรียนตั้งแต่การไล่คอร์ด ไล่โน้ต ฝึกสเกล ฝึกนิ้วตัวเอง แล้วก็จะมีเพลงมาให้ลองเล่น บางเพลงคอร์ดเร็วมาก ถ้าไม่ได้เรียนก็จะเล่นไม่ได้ ตอนที่ถ่ายเอ็มมี่รู้สึกว่าเพลงที่ยากน่าจะเป็นเพลง "เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม" เพราะเป็นเพลงเร็ว การจับคอร์ดก็ต้องเร็วตาม คือต้องมีการฝึกนิ้วดีๆ ไม่อย่างนั้นกดผิดคีย์ ดนตรีก็จะเพี้ยนค่ะ แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าค่อนข้างยากทุกเพลงเลย ก็ต้องพยายามฝึกและทำให้ดี เพราะในเรื่องเราเป็นเหมือนนักดนตรีอาชีพไปแล้ว ก็ต้องฝึกเล่นให้เนียนค่ะ
ในการเรื่องรูมเมท ทำให้เอ็มรู้ว่าการที่เราจะเป็นรูมเมทกันจะต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน แชร์กันได้ทุกเรื่อง เป็นคนที่เราปรึกษาได้ทุกอย่าง แต่สำหรับการเป็นรูมเมท ก็คงมีข้อห้ามเหมือนกัน นั่นคือเรื่องความรัก เพราะนั่นอาจจะทำให้เราเสียสิ่งดีๆ ที่เราเคยทำมาด้วยกันก็ได้ค่ะ
ภูดิศ สุริยวงศ์ (นนน์ ) รับบท "อี๊ด"
ที่ได้เข้ามาเล่นเรื่องนี้คงเป็นเพราะพี่เค้าถูกชะตากับเรามั้งครับ เพราะเรื่องนี้ผมไม่ได้แคสติ้ง แต่ว่ามานั่งคุยกับพวกพี่ๆ เค้าประมาณ 2-3 ชั่วโมง แล้วก็กลับ หลังจากนั้นประมาณ 2-3 วันพี่เค้าก็โทรมาให้เราไปเล่น ในเรื่องรับบทเป็น อี๊ด เป็นผู้ชายอารมณ์ดี เป็นรุ่นพี่ พี่ใหญ่ของวงดนตรี เดอะ รูมเมท เป็นหัวหน้าวง เป็นมือกลอง เรียนปศุสัตว์ คณะเกษตรที่เชียงใหม่ อี๊ดเป็นคนไม่ชอบอะไรซ้ำๆ ไม่ชอบเหมือนชาวบ้าน และเป็นคนที่ไม่ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง ในเรื่องจะอยู่บ้านรูมเมทร่วมกับ โม ที่เล่นโดยเอ็มมี่ ก็จะเล่นเหมือนแฟนกัน เป็นแฟนแบบที่ไม่ยอมรับว่าเป็นแฟน
อี๊ดจะเป็นเหมือนพี่ใหญ่ในบ้าน แต่จริงๆ หน้าบ้านจริงๆ ก็เป็น โม ที่เค้าจะเป็นเหมือนหัวหน้าตัวจริง เราก็เป็นหัวหน้าในนาม โม ก็จะคอยจ้ำจี้จ้ำไชให้ทำนี่ทำโน่นทำนั่น โมก็จะทำกับข้าวมาให้เรากิน เราก็จะบ่นว่าซ้ำว่ะ ทำเหมือนเดิมทุกวัน แต่ก็กินนะ กินหมดทุกวัน แต่ก็บ่นๆ นั่นคือลักษณะของอี๊ด หรือถ้าโมเค้าจะมีความฝันอยากได้ดอกไม้เหมือนผู้หญิงทั่วไป เราก็จะบอกว่าซ้ำ ทำไมต้องทำซ้ำ เราจะรู้สึกว่าซ้ำว่ะ เรารู้สึกว่าเฮ้ย มันต้องมีอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ก็จะไปเข้าทาง โน้ต เพราะตัวของโน้ตที่บอลรับบทเนี่ยเป็นคนที่ชอบทำอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ แต่งเพลงก็ต้องแต่งไม่เหมือนใคร ทั้งๆ ที่ เรารู้สึกว่ายากเกินเหตุ แต่เราก็รู้สึกว่า เออ..ไม่ซ้ำดี เราก็เลยชอบอะไรทำนองนี้ เราก็เลยจะมีความขัดแย้งกับโมอยู่นิดๆ เพราะโม ชอบอะไรแบบว่าง่ายๆ ใช่ๆ ดีแล้วซึ่งเราก็ต้องแบบว่า ไม่ได้ ต้องเทพๆ ต้องแปลกๆ
และบุคลิกของอี๊ดอีกอันนึงก็คือขี้อาย จริงๆ ตัวเองรู้สึกชอบโม แต่ก็ไม่กล้าบอกเพราะรู้สึกมันจั๊กจี้ มันพูดไม่ได้ มันรู้สึกเหมือนเสแสร้ง รักไม่เห็นต้องพูดเลยว่ารัก คนเรามันก็รู้กันอยู่แล้วว่ารัก ถ้าจะบังคับให้เราพูดว่ารัก เราจะไม่พูด แต่ จริงๆ อี๊ดก็ชอบโม แล้วก็รู้ว่าโมชอบแต่ทั้งคู่ก็ไม่บอกกัน เพราะกลัวจะเหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น แต่ว่าไม่มีในหนังนะครับ เป็นเหมือนที่พี่เค้าเล่ามาว่าเดิมวงนี้มี 4 คน เป็นเพื่อนปี 3 เหมือนกันหมด แต่ว่าอี๊ดกับโมยังอยู่ในวง แต่เพื่อนในวง 2 คน ผู้หญิงผู้ชายเนี่ยต้องออกจากวงไป เพราะว่าเกิดปัญหาเรื่องความรัก อยู่ต่อไม่ได้ พอเรามาถึงตรงนี้ เรามา develop ความรักกันขึ้นมา คงเป็นเหตุให้อี๊ดรู้สึกว่าการบอกรักเนี่ยเป็นเรื่องไม่จริงใจแล้วเนี่ย ยังรู้สึกว่าถ้าเปิดเผยความรู้สึกไป โม มันไม่รัก เดี๋ยววงก็จะแตกอีก เพราะความรู้สึกในความเป็นหัวหน้าวง มีความรับผิดชอบอยู่ เป็นเพื่อนเป็นรูมเมทเนี่ย ถ้าเรากับโมแตกคอกันอีก ความเป็นรูมเมทคงจบไป ก็อาจจะเป็นเรื่องที่เป็นปัญหา หรือเป็น conflict ในคาแรกเตอร์ของตัวอี๊ด แต่โมก็อาจจะไม่รู้ จนในที่สุดมันก็อาจจะเป็นปัญหาว่าทำไมไม่เคยยอมรับกันซักที ซึ่งมันคงจะล้อกับชีวิตของพวกน้องๆ ที่รักกันไปรักกันมาก็บอกกันไม่ได้ มันเหมือนเป็นเรื่องของคำว่ารูมเมท รักของรูมเมท มันเป็นรักที่ถ้าเผื่อใครบอกรักไป อาจจะต้องเปลี่ยนความสัมพันธ์ของเพื่อน หรือเมื่อไหร่ที่เผลอพูดอาจจะเสียเพื่อน
ในเรื่องนี้นนน์เหมือนเป็นน้องใหม่ในการแสดงเลยครับ ก็ต้องมีการเทคคอร์สเรียนการแสดงกับครูเงาะ เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกัน เพราะในเรื่องรูมเมท เราต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 คน ต้องสนิทกันมาก สามารถแชร์ทุกอย่างได้ และอีกอย่างหนึ่งที่ครูเงาะสอนก็คือให้ผมลองคิด ทำสมาธิ ให้สามารถเข้าใจ และบอกเล่าออกมาเป็นภาพให้ได้ ไม่ใช่ท่องแบบนกแก้วนกขุนทองครับ ก็มีอยู่ไดอะลอกนึงที่ติดมากๆ แต่ครูเงาะก็อธิบายจนสามารถพูดไดอะลอกนั้นได้ครับ
เรื่องรูมเมทนี้ พอได้มาเล่นแล้วก็ทำให้รู้เลยว่า ชีวิตเด็กวัยรุ่นที่ได้ใช้ชีวิตอิสระ ได้ใช้ชีวิตกับเพื่อน ต้องตัดสินใจเอง ต้องรับผิดชอบตัวเอง ไม่มีใครมาเคี่ยวเข็ญ มีอิสระเสรีในการจะทำอะไร เมื่อไหร่ ตอนไหนก็ได้ โดยที่ไม่มีพ่อแม่มาห้าม ตี1 ตี 2 เราอาจจะอยากไปกินข้าวต้ม อยากไปแอบดูหนัง ไปเที่ยวผับ มันเป็นชีวิตรูมเมท เป็นชีวิตที่ต้องรับผิดชอบตัวเอง ต้องดูแลตัวเอง และนอกจากนั้นต้องดูแลเพื่อนๆ เพราะการเป็นรูมเมท มันไม่ใช่แค่เพื่อนเรียน มันเป็นเพื่อนอยู่ที่บ้าน มันเป็นเพื่อนที่เจอกันทั้งวันทั้งคืน มันกินข้าวหม้อเดียวกันจานเดียวกัน เราล้างจานให้มัน มันล้างจานให้เรา ฝากกันซักเสื้อผ้า ฝากกันตากเสื้อผ้า ผลัดกันล้างห้องน้ำ ผลัดกันล้างจาน มันเป็นชีวิตเหมือนหัดการเข้าอยู่สังคมเบื้องต้น บางทีเพื่อนเราถึงทีมันต้องล้างจานแต่มันไม่ล้าง ด้วยความเป็นเพื่อนเราก็ต้องไปล้างให้มัน หรือถ้าบางคนมันสกปรกมากๆ อย่างอี๊ดในเรื่องเนี่ย ก็ต้องทน แค่อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ รู้สึกชีวิตรูมเมท มันน่าจะเป็นชีวิตเหมือนกับการหัดใช้ชีวิตความเป็นผู้ใหญ่ในวัยที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ แต่ส่วนหนึ่งของการอยู่ร่วมกันเนี่ย ก็คือมันสอนให้เรารู้จักชีวิต ทั้งในแง่การเสียสละ นึกถึงผู้อื่น การมีวินัย รวมไปถึงการสอนที่จะทำให้เรารู้ว่าความรักกับความเป็นเพื่อนมันไปด้วยกันได้หรือไม่ แล้วเราควรจะปฏิบัติตัวยังไงครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
Motif Plus