ปล่อย อริสมันต์-อดิศร หลังรับ 3 เงื่อนไข (คมชัดลึก)
(27เม.ย.) เวลา 13.30 น. พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้สอบปากคำ นายอดิศร เพียงเกษ และ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำเสื้อแดงที่เข้ามอบตัวตามหมายจับเป็นความผิดที่เกิดขึ้นก่อน และระหว่างที่มีการประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามมาตรา 11 (1) เป็นบุคคลต้องสงสัยว่า จะเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดสถานการณ์รุนแรงหรือเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความไม่สงบในบ้านเมือง ยุยงปลุกปั่นให้เกิดการจลาจล พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายภายหลังมีการเข้ามอบตัวสู้คดี
พล.ต.ต.สุพร กล่าวว่า พนักงานสอบสวนอนุญาตให้ผู้ต้องหาประกันตัวตามที่ร้องขอ แต่มีข้อห้ามต้องปฏิบัติตาม 3 ข้ออย่างเคร่งครัดคือ ห้ามออกนอกประเทศ ห้ามยุ่งเกี่ยวการชุมนุมทางการเมืองยุยงหรือปลุกระดม และห้ามยุ่งเกี่ยวกับการดำเนินการทางคดีของพนักงานสอบสวน ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองได้ยอมรับข้อห้ามทั้ง 3 แต่โดยดี ซึ่งการการดำเนินการของพนักงานสอบสวน จากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดส่งฟ้องศาลตามขึ้นตอนต่อไป
พร้อมเรียกร้องให้ผู้ต้องหาที่เหลือเข้ามอบตัวสู้คดีตำรวจยืนยันให้ความเป็นธรรม ไม่มีเลือกปฏิบัติ 2 มาตรฐานแต่อย่างใด ส่วนการดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ (เสื้อเหลือง) ที่บุกยึดทำเนียบรัฐบาล ปิดล้อมสนามบินดอนเมือง และการดำเนินคดีกับ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อดีตแกนนำผู้ชุมนุมนั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในรูปแบบของคณะกรรมการสอบสวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.40 น. วันเดียวกัน นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความกลุ่มพันธมิตรฯ เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าพบพนักงานสอบสวนยื่นเอกสารคำให้การเพิ่มเติมของผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวตามหมายจับ 21 คนก่อนหน้านี้ เป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมขอตรวจสอบรายชื่อพนักงานสอบสวนนครบาลที่ทำคดีความผิดของ 21 แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯว่า มีพนักงานสอบสวนที่เป็นตำรวจขั้วอำนาจเก่าหรือไม่ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมแจ้งต่อหัวหน้าพนักงานสอบสวนว่า จะนำตัวแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 21 คนที่เข้ามอบตัวก่อนหน้านี้มาให้ปากคำเพิ่มเติมในอีก 30 วัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด และ คมชัดลึก