แจ้งจับ"นาธาน"โกงทรัพย์เกือบ8หมื่นอีก (คมชัดลึก)
"นาธาน" เบี้ยวนัดไกล่เกลี่ยคดียักยอกทรัพย์ตามที่ "ดีเจ.เจเจ" เข้าแจ้งความพร้อมกับคู่กรณีรวม 4 ราย แต่ได้ผู้ใหญ่นำเงินมาฝากจ่ายไว้กับตำรวจตามที่ได้ตกลงกันไว้ กลับเจออดีตพนักงานบัญชีโรงพยาบาลเอกชนเข้าแจงความในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์เกือบ 8 หมื่นบาท ติดต่อเจ้าตัวบอกติดงานถ่ายหนังอยู่ในต่างประเทศ
จากกรณีที่มีผู้เสียหายหลายราย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ให้ดำเนินคดีกับ นายณธัญ โอมานันท์ หรือ "นาธาน โอมาน" อายุ 32 ปี นักร้องหนุ่มชื่อดัง ในข้อหายักยอกทรัพย์เป็นเงินสดรวมกันนับแสนบาท ตามที่นำเสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่31 ส.ค. น.ส.จามจุรี แคสเซอร์ หรือ ดีเจ.เจเจ อายุ 33 ปี ดีเจประจำคลื่นวิทยุ 105.5 เมกะเฮิร์ตซ์ และเป็นอดีตหุ้นส่วนที่เคยร่วมประกอบธุรกิจร้านกาแฟจามจุรียาร์ค ย่านซอยพระรามเก้า 60 กับ "นาธาน โอมาน" ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ประสงค์ สุมหิรัมย์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.หัวหมาก เพื่อติดตามความคืบหน้าเรื่องที่เคยแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ นาธาน โอมาน ในข้อหายักยอกเงินค่ามัดจำร้าน จำนวน 69,000 บาท และค่าเช่าร้านล่วงหน้า จำนวน 60,000 บาท รวมทั้งสิ้น 129,000 บาท ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา
น.ส.จามจุรี กล่าวว่า หลังจากได้มีการแจ้งความและนัดเจรจาไกล่เกลี่ยกันมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 27 ก.ค.52 แต่ก็ยังมีเงินบางส่วนที่ยังอยู่กับนาธาน ตนจึงอยากทวงถามร้อยเวรเจ้าของคดีว่า ทำไมคดีนี้ยังยืดเยื้ออยู่ไม่มีการนัดหมายให้คู่กรณีมาชำระเงินคืนอีก โดยก่อนหน้านี้ตนได้เคยโทรศัพท์มาสอบถามร้อยเวรแล้วแต่กลับมีการโยนกันไปมาอ้างว่าร้อยเวรคนนั้นคนนี้เป็นผู้ทำคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ น.ส.จามจุรี กำลังให้สัมภาษณ์อยู่นั้น ปรากฏว่า ได้มีกลุ่มคู่กรณีของนาธาน ประกอบด้วย น.ส.รัตติกรณ์ เลิศปลิตานนท์ อายุ 37 ปี น.ส.จารุพรรณ วีระวัฒนาเดช อายุ 31 ปี น.ส.นิพิวรรณ รัตสุทธิกุล อายุ 30 ปี และน.ส.ศรัญญา สิทธิธีรรัตน์ อายุ 31 ปี โดยทั้ง 4 ราย พากันเดินทางมาเข้าพบ ร.ต.ท.ภาสกร มณีรัตน์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.หัวหมาก เพื่อรับเงินค่าเสียหาย จำนวน 77,000 บาทคืน ก่อนจะลงลายมือชื่อในบันทึกตกลงข้อความผิดอันยอมความกันได้และไม่ประสงค์จะให้ดำเนินคดีในความผิดทางแพ่งและอาญากับนายนาธาน
ด้าน ร.ต.ท.ภาสกร พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้เสียหายทั้ง 4 ราย ได้เดินทางมาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ นาธาน โอมาน ในข้อหายักยอกเงินค่าเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศเนปาล และเรียกร้องค่าเสียหายคืนจำนวนหลายแสนบาท แต่ในเวลาต่อมาคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย สามารถตกลงกันได้ จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางญาติผู้ใหญ่ของนาธาน ก็นำเงินมาฝากไว้ให้กับผู้เสียหายทั้ง 4 ราย จำนวน 77,000 บาท แบ่งเป็นเงินชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 19,000 บาท ให้กับผู้เสียหาย 3 ราย และอีก 1 ราย ชดใช้คืนให้ จำนวน 20,000 บาท ก่อนจะลงลายมือชื่อในบันทึกยอมความไม่ดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาต่อกัน
อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกัน น.ส.อรทัย ยิ้มละม้าย อายุ 27 ปี อดีตพนักงานบัญชี โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 5 ต.คลอง 5 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ก็ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สมเจตน์ พลเหลา พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.หัวหมาก เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายนาธาน ในข้อหาฉ้อโกง เพิ่มเติมอีก 1 ราย พร้อมนำหลักฐานเป็นใบโอนเงินและสำเนาใบเสร็จรับเงิน ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มามอบให้พนักงานสอบสวนด้วย
น.ส.อรทัย อธิบายว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือน ต.ค.51 ได้พบกับนาธาน ผ่านการแนะนำของคนรู้จักอีกทอดหนึ่ง และเมื่อได้เจอกันนายนาธาน ก็อ้างว่า ตัวเขาเองสนิทสนมกับคุณรจนา เจ้าหน้าที่หน้าห้องของผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสามารถช่วยเหลือให้ตนสอบเข้าทำงานในตำแหน่ง พนักงานฝ่ายพัฒนาเศรษฐกิจต่างประเทศการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งมีเงินเดือนสูงถึง 4 หมื่นกว่าบาทได้ ทำให้ตนหลงเชื่อลาออกจากงาน แล้วโอนเงินค่าดำเนินการจำนวน 69,000 บาท และ ค่าเข้าสอบจำนวน 9,780 บาท รวมเป็นเงิน 78,880 บาท ผ่านทางธนาคารกรุงเทพ เข้าบัญชีไปให้นายนาธาน
น.ส.อรทัย กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นนายนาธาน ก็ได้นำใบเสร็จรับเงิน ซึ่งหัวกระดาษเป็นของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มาให้ตน โดยในใบเสร็จระบุว่า ได้รับเงินค่าดำเนินการและค่าเข้าสอบ จำนวน 75,600 บาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีตราประทับและลายเซ็นของเจ้าหน้าที่ปรากฏอยู่ในใบเสร็จด้วย ทั้งที่ตอนแรกตนโอนเงินไปให้นาธาน จำนวน 78,880 บาท แต่ในใบเสร็จกลับระบุมาเพียงเท่านี้ เลยทราบว่า เงินหายไป 3,200 บาท แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งตนเดินทางไปสอบเมื่อช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา แล้วรอฟังผลสอบในอีก 1 เดือนต่อมา แต่ปรากฏว่าผลออกมากลายเป็นตนสอบ "ไม่ผ่าน"
"ดิฉันเลยรีบโทรไปสอบถามนาธาน แต่เจ้าตัวตอบว่า กำลังติดงานถ่ายหนังอยู่ในต่างประเทศ หากกลับมาเมืองไทยแล้วจะรีบไปดำเนินการให้ หลังจากนั้นดิฉันก็พยายามโทรศัพท์ไปทวงถามอีกเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า จนเห็นว่ามีข่าวในเชิงเสียหายออกมาอยู่ตลอดเวลา จึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความเอาไว้ก่อน แต่ถ้านาธานสามารถหาเงินมาคืนได้ ก็พร้อมเจรจาและจะยุติเรื่องด้วยดี" น.ส.อรทัย กล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้ลงบันทึกประจำวันจากคำให้การของผู้เสียหายเอาไว้ ก่อนนำเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณา และจะติดตามนายนาธาน มาสอบปากคำต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก