สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ, คมชัดลึก
จากกรณีตำรวจจับกุม น.ส.ธีรนันต์ วิภูชนัน อดีตผู้บริหารหลักทรัพย์ยูบีเอส และนายคธา ปาจริยพงษ์ พนักงานบริษัทหลักทรัพย์เคที ซีมิโก้ ร่วมกันปล่อยข่าวลืออัปมงคลเพื่อทุบหุ้น โดยดักจับที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. กล่าวถึงการจับกุมผู้ทั้งต้องหา 2 ราย ว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 เบื้องต้นพบว่า มีความเชื่อมโยงกัน ในการถามตอบกระทู้ของเว็บไซต์ประชาไท และเว็บไซต์ฟ้าเดียวกัน ซึ่งพนักงานจะตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของกลางที่ยึดมาได้จากบ้านพักของผู้ต้องหาทั้ง 2 เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมตรวจสอบว่ามีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกหรือไม่ หากพบว่ามีพยานหลักฐานที่แน่ชัดเพียงพอ ก็จะขอศาลอนุมัติออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้ให้ประกัน ตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 แล้ว ใช้หลักทรัพย์ในการประกันตัวคนละ 100,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ส่วนการติดตามจับกุมตัวเว็บมาสเตอร์นั้น คงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเว็บไซต์ทั้ง 2 เว็บดังกล่าวนั้น จดทะเบียนที่ต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกผู้ต้องหาทั้ง 2 ไปรายงานตัวที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยว กับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ในวันนี้ รวมทั้งสอบปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็น
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า พนักงานสอบสวนจะเดินทางไปที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก เพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเพิ่มอีกประมาณ 3-4 คน โดยหนึ่งในจำนวนผู้ต้องหาที่ออกหมายจับเพิ่มเติมนั้นเป็นแพทย์จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ด้าน นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวถึงเรืองนี้ว่า ได้รับรายงานจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในเบื้องต้นแล้วว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคลทั้งสองไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด จึงได้มอบหมายให้ตรวจสอบในวงกว้างมากขึ้น และในส่วนของเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลนั้น ที่ผ่านมามักจะมีบทบาทเผยแพร่ข้อมูลล่อแหลม ทั้งต่อการเมืองและความมั่นคงของประเทศ และครั้งนี้ก็คงนำเสนอข้อมูลที่ผิดสังเกตจนนำไปสู่การจับกุมของตำรวจ ซึ่งน่าจะเป็นบทเรียนในอนาคต ส่วนจะถึงขั้นสั่งปิดเว็บหรือไม่ คงต้องขึ้นกับกระทรวงไอซีทีและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า การจับกุมผู้ต้องหา 2 รายนี้เพียงเพราะแปลข้อความมาลงเว็บไซต์ ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศ (บลูมเบิร์ก) รายหนึ่งนำเสนอบทวิเคราะห์จนข่าวลือแพร่สะพัด กลับไม่มีการกล่าวถึง นายกรณ์ กล่าวว่า สิ่งที่สำนักข่าวต่างประเทศทำ เป็นแค่รายงานว่ามีข่าวลือก็เหมือนกับที่สื่อไทยก็รายงานว่ามีข่าวลือจนส่งผลทำให้หุ้นตก เรื่องเหล่านี้ต้องระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้เห็นข้อความที่มีการโพสต์ลงเว็บไซต์ว่ามีการเพิ่มเติมจากข้อความเดิมที่แปลหรือไม่ เพราะถูกถอดออกไปแล้ว ซึ่งก็อยู่ในมือตำรวจแล้วทั้งหมด
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการขยายผลผู้เกี่ยวข้องกับการปล่อยข่าวลืออัปมงคลเพื่อทุบหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังตำรวจออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหาว่า คงต้องมีการสอบสวนต่อไปว่ามูลเหตุจูงใจคืออะไร และเกี่ยวข้องกับใครบ้าง
เมื่อถามว่าผู้ที่ปล่อยข่าวในอินเตอร์เน็ตได้รับประโยชน์จากการปั่นหุ้นด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ยังไม่พบตรงนั้น และยังไม่พบความเชื่อมโยงไปถึงประเด็นทางการเมือง ส่วนจะมีการโยงใยไปถึงเรื่องการซุกหุ้นด้วยหรือไม่นั้น ต้องดูตามข้อเท็จจริงในส่วนของการซื้อขายอีกครั้งหนึ่ง"
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
