
นาย คัมภีร์ แก้วเจริญ
ตั้ง คัมภีร์ นั่งคตน. รื้อคดีฆ่าตัดตอนยุค ทักษิณ (ไทยโพสต์)
กระทรวงยุติธรรมตั้ง คัมภีร์ แก้วเจริญ อดีตอัยการสูงสุด นั่งปธ.คตน.รื้อคดีฆ่าตัดตอน 1,200 คน พีระพันธุ์ยันไม่กลั่นแกล้ง
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีแนวคิดให้กระทรวงยุติธรรมฟื้นคณะกรรมการฆ่าตัดตอน (คตน.) ที่มีการสรุปผลถึงสาเหตุการเสียชีวิต1,200 ศพ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนโยบายยาเสพติดหรือคดีฆ่าตัดตอนในสมัยของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ว่า คตน.ชุดเก่ายังทำงานไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล และรัฐบาลชุดต่อมาจากสมัย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ไม่ได้ตั้งคณะกรรมการชุดนี้ต่อเนื่อง การทำงานจึงไม่เสร็จสิ้น
เมื่อถามว่าในคดีนี้จะนำไปสู่กระบวนการยุติธรรมหรือไม่ถ้านโยบายนำไปสู่การฆ่าตัดตอน นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ต้องดูพยานหลักฐานที่แน่นอน อาจจะเป็นความผิดตามพยานหลักฐาน ซึ่งบางเรื่องหลักฐานอาจจะเพียงพอในการกระทำหลายเรื่องหลายตอน ทั้งนี้ต้องรอบทสรุปก่อนเร่งสอบสวนให้เสร็จโดยเร็ว คาดว่าใช้เวลาไม่นาน เพราะขณะนี้คณะทำงานชุดเก่าได้ทำงานเสร็จไปพอสมควรแล้ว
เมื่อถามว่าจะใช้กรอบเวลานานแค่ไหน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า คงต้องให้ท่านนายกฯ เป็นผู้พิจารณา ส่วนสัปดาห์หน้าจะเสนอคณะกรรมการให้ท่านนายกฯ ครบเลยหรือไม่ ตนเข้าใจว่านายกฯ คงจะให้ครม.เป็นผู้แต่งตั้งชุดเก่า แต่ว่าเบื้องต้นต้องให้นายกฯ ได้พิจารณารายชื่อบุคคลก่อน
อีกทั้ง รมว.ยุติธรรม ยังเผยอีกว่า ที่สำคัญคือคนที่จะเป็นประธาน ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ทางด้านของกฎหมายและมีความเป็นกลาง และที่สำคัญต้องไม่เคยมีความยุ่งเกี่ยวกับทางการเมือง เพื่อจะได้เป็นที่เชื่อถือได้ ซึ่งก็ได้ นายคัมภีร์ แก้วเจริญ อดีตอัยการสูงสุด มาเป็นประธานแทนนายคณิต ณ นคร ที่มาเป็นประธานสอบข้อเท็จจริงเหตุสลายชุมนุมของกลุ่มนปช.ในช่วง 12 มี.ค. - 19 พ.ค. 2553
สำหรับเรื่องเคยมีนักวิชาการหรือนักสิทธิมนุษยชนออกมาบอกว่า กรณีเรื่องฆ่าตัดตอน อาจเป็นกรณีที่สามารถส่งต่อศาลโลกได้เพื่อฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ มีแนวคิดในลักษณะนี้หรือไม่ และมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ตนขอเรียนว่ามีความคิดที่ หลากหลาย และมีผู้ที่เสนอความคิดเห็นมาที่ตนค่อนข้างเยอะพอสมควร แต่ต้องเข้าใจว่าสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้จะทำ ก็ต่อเนื่องจากการทำงานในชุดเก่า ทั้งนี้เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและความเป็นจริง
นอกจากนี้ รมว.ยุติธรรมยังกล่าวอีกว่า เราไม่ได้มีวัตถุประสงค์และเจตนาที่ จะดำเนินการในทางการเมือง กลั่นแกล้งหรือฟ้องร้องใคร แต่บทสรุปจากการสอบสวนหรือข้อเท็จจริง ก็จะนำไปสู่ประเด็นต่อเนื่องอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะมีใครที่เกี่ยวข้องและกระทำความผิดถึงกระทั่งต้องดำเนินคดีฟ้องร้อง ทั้งในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม ตนไม่สามารถตอบได้ชัดเจน ต้องรอดูบทสรุปสุดท้ายอีกครั้งหนึ่ง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก![]()






