ฐิตินาถ เผยลูกศิษย์ พระปราโมทย์ ส่งอีเมลข่มขู่

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com , รายการเจาะใจ

         ฐิตินาถ เผยผ่านรายการเจาะใจ คนสนิทพระปราโมทย์ ส่งอีเมลข่มขู่ เตรียมหอบลูกไปเมืองนอกแล้ว ด้านทนายสวนสันติธรรมแจง เงิน 40 ล้านมีผู้บริจาคให้พระโดยตรง ไม่ได้บริจาคให้สวนสันติธรรม

         กรณีความขัดแย้งเรื่องเงินบริจาคของสำนักสวนสันติธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ยังคงไม่จบ โดยล่าสุดนางสาวฐิตินาถ ณ พัทลุง ผู้เขียนหนังสือเข็มทิศชีวิต ได้บันทึกเทปรายการเจาะใจ ระบุว่า มีกลุ่มลูกศิษย์บางคนของพระปราโมทย์ ปาโมชฺโช เจ้าสำนักสวนสันติธรรม ส่งอีเมลมาข่มขู่ตนเองตลอดเวลา จนเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา มีคนส่งอีเมลมาว่า ให้ตนระวังความปลอดภัยของลูกสาวให้ดี ซึ่งตนทราบแล้วว่า ใครเป็นผู้ส่งอีเมลมา แต่ก็กังวลมากว่าลูกจะได้รับอันตราย จึงได้ให้ทนายเข้าแจ้งความไว้แล้ว ขณะที่ตนกับลูกก็จะเดินทางไปอยู่ต่างประเทศชั่วคราว

         นางสาวฐิตินาถ กล่าวอีกว่า ตนได้พูดคุยกับดีเอสไอ พบว่า มีการตรวจพบบัญชีชื่อของนางอรนุช สันตยากร อดีตภรรยาของพระปราโมทย์ ที่บวชชีอยู่ที่สำนักสวนสันติธรรม จำนวน 15 บัญชี มีเงินหมุนเวียนกว่า 30 ล้านบาท และพันธบัตรอีกกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งประเด็นนี้ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของตน

         นอกจากนี้ยังมีเรื่องบัญชีเงินฝากที่เปิดเผยตัวเลขออกมา 7 บัญชี จำนวน 40 ล้านบาท เมื่อรวมกับที่ดินก็มูลค่าราว 100 ล้านบาท ตนเชื่อว่า หลังจากนี้ทางสวนสันติธรรมจะต้องส่งคนออกมาชี้แจงทำนองที่ว่า เงินดังกล่าวเป็นคนส่วนตัวที่มีผู้บริจาคให้แม่ชีอรนุช ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพระปราโมทย์ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ก็คงต้องให้กระบวนการทางกฎหมายเป็นผู้จัดการ

         ทั้งนี้ นางสาวฐิตินาถ ระบุว่า หลังจากตนถอนตัวออกจากสวนสันติธรรมก็ได้รับแรงกดดันจากลูกศิษย์เป็นอย่างมาก และพูดถึงตนต่อสังคมในลักษณะดิสเครดิต ทำให้ได้รับความเสื่อมเสีย อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้เกรงกลัว เพราะอยากให้สังคมอย่าหลงผิดกับไปธุรกิจแชร์นิพพาน และต้องการหยุดการกระทำของกลุ่มคนเหล่านี้ให้ได้

         ด้าน พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ เผยว่า ได้นำบัญชีเงินฝาก 15 บัญชี มูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท โดยเป็นชื่อบัญชีเงินฝากของพระปราโมทย์ 1 บัญชี และอีก 10 กว่าบัญชีเป็นชื่อของนางอรนุช ให้เจ้าหน้าที่สำนักคดีการเงิน การธนาคาร ตรวจสอบแล้ว ซึ่งยังสรุปไม่ได้ว่า มีการใช้จ่ายเงินบริจาคถูกต้องหรือไม่

         ขณะที่ นายประวิทย์ ไชยบัวแดง หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษพื้นที่ภาคตะวันออก ดีเอสไอ กล่าวว่า ขณะนี้ดีเอสไอกำลังวิเคราะห์เอกสารทางบัญชีของสำนักคดีการเงิน การธนาคารตรวจสอบ โดยได้สอบถามทนายของสวนสันติธรรมถึงเรื่องบัญชีเงินฝากทั้งหมด 15 บัญชี ได้รับคำตอบว่า เงินดังกล่าวเป็นเงินที่ชาวบ้านบริจาคให้พระเป็นการส่วนตัว ไม่ได้บริจาคให้สวนสันติธรรม ซึ่งดีเอสไอจะได้กลับไปสอบถามผู้ที่บริจาคให้ว่า มีวัตถุประสงค์อย่างไร และต้องการบริจาคให้สวนสันติธรรม หรือพระปราโมทย์ รวมทั้งตรวจสอบไปยังธนาคาร และสถาบันการเงินทุกแห่งว่า มีบัญชีในชื่อบุคคลดังกล่าว หรือบุคคลใกล้ชิดอีกหรือไม่ และเร่งตรวจสอบข้อกฎหมายระหว่างสำนักสงฆ์ ที่ยังไม่ถือเป็นวัดว่า หากมีการบริจาคเงินเข้ามา จะตกเป็นของสาธารณะหรือไม่ ซึ่งจะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุด

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก