
นางหลี่และลูก ๆ ของเธอ
นางหลี่ไปรับลูก ๆ กลับจากโรงเรียน
บริเวณบ้านของนางหลี่ที่ขึงราวเพื่อตากเสื้อผ้าของลูก ๆ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก news.xkb.com.cn
อาจเพราะจีนเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก
ทำให้จำนวนประชากรเด็กที่ถูกพ่อแม่แท้ ๆ ของตนทอดทิ้งมากตามไปด้วย
เนื่องความอัตคัดขัดสนที่ไม่อาจหาเลี้ยงจุนเจือสมาชิกตัวน้อยได้
ยิ่งเป็นเด็กที่มีความผิดปกติแต่กำเนิดยิ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูสูงขึ้นเป็นเท่าตัวแต่ที่หมู่บ้านเหยาพู่ มณฑลชานซี ทางตอนเหนือของประเทศจีน
ยังมีหญิงน้ำใจงามคนหนึ่งที่คอยรับเลี้ยงดูเด็ก ๆ เหล่านี้โดยไม่ปริปากบ่น
โดยเธอเป็นแม่ของเหล่าเด็ก ๆ ที่ถูกทอดทิ้งกว่า 80 คนเลยทีเดียว
สำนักข่าวซินหัว ประเทศจีน รายงานว่า นาง
"หลี่ เหยียน ผิง" ชาวมณฑลชานซี วัย
45 ปี เริ่มรับเลี้ยงดูเด็กกำพร้ามาตั้งแต่ปี 2532 หลังจากที่สามีของเธอเก็บเด็กที่ถูกทิ้งคนหนึ่งกลับมาบ้าน
แถมเด็กน้อยคนนี้ยังเจ็บกระเสาะกระแสะไม่แข็งแรง
การตัดสินใจรับเลี้ยงเด็กกำพร้าคนแรกของครอบครัวหลี่
ทำให้ทั้งคู่ต้องก้าวเข้าสู่การตัดสินใจครั้งใหญ่
เมื่อนางหลี่นั้นก็เพิ่งคลอดลูกชายของตนเองออกมา
และด้วยความยากจนของทั้งคู่ที่มีอาชีพเป็นชาวไร่ชาวสวน
จึงไม่สามารถหาเงินมาซื้อนมเพื่อเลี้ยงดูทารกทั้งสองไปพร้อม ๆ กันได้
ในที่สุดนายและนางหลี่ตัดสินใจยกลูกชายคนเดียวของตนเองให้คนอื่นเลี้ยงดูแทน
และเลือกเก็บเด็กน้อยกำพร้าที่สุขภาพไม่แข็งแรงเอาไว้
ด้วยเหตุผลที่ว่าลูกชายของเธอเป็นเด็กแข็งแรงสุขภาพดี
อย่างไรเสียก็ต้องมีคนเอ็นดูรับไปเลี้ยง ไม่เหมือนกับเด็กน้อยที่อมโรคอีกคนที่ใคร
ๆ ก็คงไม่อยากเลี้ยงดูฟูมฟัก
การตัดสินใจครั้งนี้ของเธอทำให้สามีภรรยาใจบุญถูกติฉินว่ากล่าวจากเหล่าญาติ
ๆ อยู่ไม่น้อย
และนับจากนั้นมาบ้านของครอบครัวหลี่จึงเป็นที่รู้จักแก่คนในละแวกใกล้เคียงว่าเป็นบ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้าและเด็กพิการ
ขนาดมูลนิธิสงเคราะห์เด็กกำพร้าก็นำเด็ก ๆ ที่ถูกทอดทิ้งมาฝากให้บ้านหลี่เลี้ยง
พร้อมทั้งให้เงินสมทบเป็นค่าเลี้ยงดู
แม้จะไม่เพียงพอกับการเลี้ยงเด็กสักคนหนึ่งให้เติบใหญ่
แต่นายและนางหลี่ก็หาทางหาเงินมาเลี้ยงดูเด็ก ๆ เหล่านั้นได้ในที่สุด
อย่างน้อยก็ทำให้เหล่าเด็ก ๆ อิ่มท้องและได้ไปโรงเรียนเฉกเช่นกับเด็กคนอื่น ๆ
จวบจนวันนี้ผ่านมา 22 ปีแล้ว
นางหลี่รับเลี้ยงเด็กกำพร้าและพิการมาแล้วถึง 80 คน
เธอกลายเป็นแม่ที่มีลูกเยอะที่สุดก็ว่าได้ และช่วง 7 ปีที่ผ่านมา
นางหลี่ต้องรับภาระหาเลี้ยงเด็ก ๆ เพียงตัวคนเดียว
เพราะสามีของเธอผู้เป็นเสาหลักในการหารายได้มาจุนเจือครอบครัวเสียชีวิตลง
ความเป็นอยู่ที่ไม่ค่อยดีอยู่แล้วจึงกลับแย่ลงไปอีก นางหลี่และเด็ก ๆ อีก 13
ชีวิต อาศัยอยู่ร่วมกันใต้ชายคาที่เก่าโทรม
เฟอร์นิเจอที่หรูหราและมีค่าที่สุดในบ้านคือโทรทัศน์จอ 29 นิ้วเก่า
ๆ และตู้เย็นเล็ก ๆ หลังหนึ่งเท่านั้น กระนั้นนางหลี่และลูก ๆ
รุ่นปัจจุบันก็อยู่ได้อย่างมีอย่างมีความสุขตามอัตภาพของตน
และตอนนี้สิ่งที่ทำให้นางหลี่เป็นกังวลที่สุดก็คือ
อนาคตของลูก ๆ รุ่นปัจจุบันที่เธอเลี้ยงดูอยู่ เพราะ 11 จาก 13
คนนั้นเป็นเด็กที่มีความผิดปกติมาตั้งแต่กำเนิดทั้งทางร่างกายและสติปัญญา
ส่วนความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนางหลี่ผู้ใจบุญก็คือ
การเปิดสถานเลี้ยงเด็กแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งจะทำให้เธอสามารถรับเลี้ยงช่วยเหลือเด็ก ๆ
ที่ถูกทอดทิ้งได้มากขึ้น
ซึ่งนับว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นปัญหาสังคมที่ยิ่งใหญ่และสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับประเทศที่มีความเจริญแบบก้าวกระโดดอยางจีนนั่นเอง






