
นพ.เหวง โตจิราการ

นางธิดา โตจิราการ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
นพ.เหวง โตจิราการ และ นางธิดา โตจิราการ พร้อมคณะ เดินทางไปเปิดโรงเรียน นปช.ในยุโรป เผยอยากให้คนเสื้อแดงแสดงบทบาทต่อสังคมโลก พร้อมเดินหน้าเรียกร้องต่อศาลโลกเพื่อยับยั้งรัฐประหารและการทำลายประชาชน
หลังจากที่ นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนางธิดา โตจิราการ ประธาน นปช. พร้อมด้วย นายคารม พลพรกลาง ทนายความ นปช. ได้พาคณะเดินทางไปยังกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อไปให้ข้อมูลต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) กรณีเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมืองเมื่อปี พ.ศ.2553 ซึ่งกลุ่มนปช.อ้างว่า รัฐบาลไทยในสมัยนั้นปราบปรามผู้ชุมนุมจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตนั้น
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นพ.เหวง นางธิดา และคณะ ได้เดินทางไปยังเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี เพื่อไปพบปะกับกลุ่ม นปช.ที่ วัดพุทธบารมี โดยเป็นการพบปะสังสรรค์และเปิดโรงเรียน นปช. เพื่อวางรูปแบบการจัดยุทธศาสตร์และยุทธวิธีขับเคลื่อนการทำงาน ให้กลุ่ม นปช.ในยุโรปเข้มแข็ง สามารถประสานงาน และร่วมกันทำงานภายใต้เป้าหมายเดียวกัน โดยอ้างว่าตอนนี้สถานการณ์ในประเทศไทยค่อนข้างล่อแหลม และเสี่ยงที่จะเกิดการรัฐประหาร อีกทั้งยังจะเป็นการเปลี่ยนบทบาทคนเสื้อแดงในต่างประเทศจากกองเชียร์มาแสดงบทบาทให้สังคมโลกได้รับรู้และเข้าใจการต่อสู้ของคนเสื้อแดงในประเทศไทย แบบไม่มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง
โดยนางธิดา กล่าวว่า เหตุการณ์สลายการชุมนุมในช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคม พ.ศ.2553 นั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พยายามอ้างว่าผู้เสียชีวิตในวัดปทุมวนารามจำนวน 98 ศพ เป็นฝีมือของชายชุดดำ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการจับกุมชายชุดดำที่กล่าวอ้างได้ อีกทั้งจากการชันสูตรพลิกศพ พบว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 16 และ ปืนทราโว อีกทั้งศพของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม นายทหารที่เสียชีวิตบริเวณแยกคอกวัว พบว่าเป็นระเบิดแบบขว้าง เอ็ม 67 ระยะขว้างประมาณ 40-50 เมตร จึงเป็นเรื่องเหลวไหลที่จะอ้างว่าเป็นฝีมือชายชุดดำ
ด้าน นพ.เหวง ก็เปิดเผยหลังการเข้าไปชี้แจงต่อศาลโลกว่า ศาลโลกพร้อมที่จะรับเรื่องไว้พิจารณา แต่ยังติดขัดปัญหาข้อกฎหมายด้านเทคนิค เรื่องสัญชาติของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ถือสัญชาติอังกฤษ เช่น การใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งในประเทศอังกฤษ รวมทั้งหลักฐานอื่น ๆ ที่มีอยู่ ก็จะต้องส่งไปเพิ่มเติมต่อศาล
ส่วนที่กังวลว่าการกระทำดังกล่าวนี้อาจจะเข้าข่าย มาตรา 190 ที่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อนนั้น ตนเองคิดว่าเรื่องนี้ไม่เข้าข่าย และหากมีการประกาศยอมรับจากศาลโลก ก็ไม่ได้เป็นการแทรกแซงอำนาจอย่างที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก แสดงความเป็นห่วง ทั้งนี้เพราะกฎหมายอาญาระบุไว้ว่า หากกฎหมายในประเทศไทยไม่มีบทบัญญัติต่อการกระทำที่เป็นการทำลายล้างมวลมนุษยชาติ ก็สามารถนำกฎหมายสากลมาใช้ได้ ซึ่งนี่คือสาเหตุที่ทำให้ตนและกลุ่ม นปช.เข้าเรียกร้องต่อศาลโลกให้พิจารณา โดยอาศัยประมวลกฎหมายว่าด้วยการทำลายมวลมนุษยชาติของรัฐธรรมนูญกรุงโรม มาเป็นหลักประกันให้กับคนไทยว่าต่อไปจะไม่มีการใช้อาวุธมาเข่นฆ่าคนบนถนนอีก
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ นพ.เหวง นางธิดา และคณะ จะมีการเดินทางต่อไปยังกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เพื่อเปิดโรงเรียน นปช. รวมทั้งเดินทางต่อไปยังประเทศนอร์เวย์ด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
