

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส
ทหารไทย-กัมพูชา ปรับลดกำลังออกจากเขาพระวิหารแล้ว ส่ง ตชด. รักษาความสงบเรียบร้อยแทน ด้านฝั่งไทยเตรียมเปิดให้เที่ยวเขาพระวิหารได้พรุ่งนี้ (20 กรกฎาคม) ขณะที่ชาวภูมิซรอลผวาหวั่นเกิดสงครามอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (18 กรกฎาคม) ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพบก ได้เดินทางมาให้โอวาทแก่พลตำรวจตระเวนชายแดนที่จะขึ้นไปประจำการบนเขาพระวิหารแทนทหารไทยที่ปรับกำลังลงมาตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม
ทั้งนี้ พล.อ.อ.สุกำพล ได้ขอให้กำลังพลทุกนายที่ขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่บนเขาพระวิหารปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยหลังจากเสร็จสิ้นการให้โอวาท ตำรวจตระเวนชายแดน 2 กองร้อย ก็ได้นำสัมภาระ อาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนขึ้นรถบรรทุก 8 คัน ออกเดินทางขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่บนเขาพระวิหารทันที
ขณะที่ฝั่งกัมพูชา มีรายงานว่า ในคืนวันที่ 17 กรกฎาคม เหล่าทหารกัมพูชาที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนเขาพระวิหารได้พากันฉลองตลอดทั้งคืน ด้วยความดีใจที่จะได้กลับบ้าน หลังจากทางการกัมพูชามีคำสั่งปรับกำลังทหารบริเวณเขาพระวิหารตามคำสั่งของศาลโลก
ทั้งนี้ หลังจากมีการปรับกำลังทหารกันทั้งสองฝ่าย และส่งตำรวจตระเวนชายแดนเข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อยแทนแล้ว สถานการณ์บริเวณเขาพระวิหารในช่วงเช้าวันนี้ (19 กรกฎาคม) ก็ยังคงเป็นปกติ โดยทั้งสองฝ่ายต่างปฏิบัติหน้าที่ที่ฐานปฏิบัติการของตัวเอง และประสานงานกันเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีรายงานด้วยว่า ชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ยังคงหวาดผวาว่าจะเกิดสงครามขึ้น เหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4-7 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554
ในส่วนของการท่องเที่ยวปราสาทพระวิหารนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่อุทยานปราสาทเขาพระวิหาร ยังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปในพื้นที่เขาผามออีแดง เพราะกำลังอยู่ในช่วงการปรับกำลังทหาร แต่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมปราสาทพระวิหาร ตั้งแต่บริเวณผามออีแดงไปจนถึงประตูเหล็ก และทางขึ้นของฝั่งไทย ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (20 กรกฎาคม) เป็นต้นไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







