สงวน บานเย็น ยอดมนุษย์ไอติมแมนมืออาชีพ


สงวน บานเย็น ยอดมนุษย์ไอติมแมนมืออาชีพ ใน คนค้นฅน

สงวน บานเย็น ยอดมนุษย์ไอติมแมนมืออาชีพ ใน คนค้นฅน

สงวน บานเย็น ยอดมนุษย์ไอติมแมนมืออาชีพ ใน คนค้นฅน

สงวน บานเย็น ยอดมนุษย์ไอติมแมนมืออาชีพ ใน คนค้นฅน

สงวน บานเย็น ยอดมนุษย์ไอติมแมนมืออาชีพ ใน คนค้นฅน

สงวน บานเย็น ยอดมนุษย์ไอติมแมนมืออาชีพ ใน คนค้นฅน

สงวน บานเย็น ยอดมนุษย์ไอติมแมนมืออาชีพ ใน คนค้นฅน

สงวน บานเย็น ยอดมนุษย์ไอติมแมนมืออาชีพ ใน คนค้นฅน


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทีวีบูรพา, รายการคนค้นฅนโพสต์โดยคุณ LadyBimbettes สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

            ทุก ๆ วัน เด็ก ๆ ตามตรอก ซอกซอย และโรงเรียนในเขตอำเภอวิหารแดง และอำเภอวังน้อย จังหวัดนครนายก จะเฝ้ารอการปรากฏตัวของยอดมนุษย์ไรเดอร์ ที่ไม่ได้มาพร้อมกับยานพาหนะเท่ ๆ หากแต่เขามาพร้อมกับรถมอเตอร์ไซค์คู่ชีพคันเก่า ๆ ที่พรางด้วยกิ่งไม้รอบคัน และถังไอติมที่บรรทุกอยู่บนเบาะหลัง


สงวน บานเย็น ยอดมนุษย์ไอติมแมนมืออาชีพ ใน คนค้นฅน


            "แปลงร่าง"..."แปลงร่าง"...เสียงนี้บอกให้รู้ว่า "สงวน บานเย็น" ภายใต้หน้ากากยอดมนุษย์ได้ปรากฏตัวต่อหน้าเด็ก ๆ แล้ว เขาเป็นหนุ่มวัย 40 ต้น ๆ ที่พรางหน้าดำเหมือนอยู่ในสนามรบ หากดูเฉพาะการแต่งตัวของเขาคงไม่มีใครรู้แน่ว่า สงวน เป็นคนขายไอติมที่หาเลี้ยงชีพจากอาชีพนี้มานานกว่า 18 ปีแล้ว

            สงวน เล่าให้ฟังว่า เขาเป็นชาวอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ตลอด 18 ปีที่ผ่านมา เขาทำงานขายไอศกรีมมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีมของบริษัทต่าง ๆ, ไอติมตักโบราณ, หรือไอติมรถจักรยานยนต์พ่วง เรียกได้ว่าเป็นคนขายไอติมมืออาชีพเลยก็ว่าได้ แต่การขายไอติมของเขาก็ปกติทั่ว ๆ ไป ไม่ได้แต่งกายแปลก ๆ ไม่มีลูกเล่นอะไรหวือหวา ๆ เหมือนตอนนี้ ซึ่งก็พอหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว อันประกอบด้วยภรรยา และลูกสาวอีก 2 คนได้


สงวน บานเย็น ยอดมนุษย์ไอติมแมนมืออาชีพ ใน คนค้นฅน


            แต่ทว่า...เงินจากขายไอศกรีมส่วนหนึ่งกลับถูกนำไปใช้ซื้อเหล้า เพราะ สงวน เป็นคนติดเหล้ามาก ได้เงินมาเท่าไหร่ก็จะแบ่งไปซื้อเหล้า กินเหล้าไป ขายไอศกรีมไป จนวันหนึ่งรายได้ไม่เพียงที่จะเลี้ยงครอบครัว ทำให้รถไอศกรีมของเขาถูกยึด ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ สุขภาพร่างกายของเขาก็เริ่มทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ ในวันนั้น สงวน ตัดสินใจเด็ดขาดว่า จะต้องเลิกเหล้าให้ได้ และเขาก็ทำได้จริง ๆ

            เมื่อเลิกเหล้าได้สำเร็จ สงวน เริ่มต้นกลับขายไอศกรีมใหม่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ สงวน ขอคิดใหม่ ทำใหม่ ใส่ลูกเล่นเข้าไปในการขายไอศกรีม ด้วยการแปลงร่างเป็นยอดมนุษย์ขายไอศกรีม?

            โดยสงวน เผยว่า ในการคิดขายไอศกรีมด้วยการแปลงร่างนั้น มันเป็นเรื่องของความสนุกมากกว่า ได้เล่นอะไรที่มันเปิดเผยเลย ตอนนี้ก็ยังคิดว่าตัวเองเป็นไรเดอร์ ไอ้มดแดงเลย ตนชอบฮีโร่ไอ้มดแดงมาตั้งแต่เด็กแล้ว และตนก็อยากแบ่งปันความสุขให้น้อง ๆ ที่มาซื้อไอศกรีม เพราไรเดอร์นั้นเป็นฮีโร่ของเด็ก ๆ หลายคน เด็ก ๆ มองแล้วนัยน์ตาเป็นประกายและก็จะอมยิ้มอย่างมีความสุข บางครั้งก็มากระซิบข้างหูว่า "น้าน่ารักจัง" บางคนก็เข้ามากอดเลย ในทุกที่ที่สงวนไปขายไอศกรีมนั้น มักจะมีเด็ก ๆ ที่เป็นแฟนคลับมาห้อมล้อมเสมอ แล้วทุกสงวนก็จะเรียกเด็ก ๆ ทุกคนว่า คุณหนู เสมอ เพราะไรเดอร์นั้นให้ความสำคัญกับคำพูดมาก เราต้องพูดเพราะ เพื่อเป็นแบบอย่างให้เด็ก ๆ







          สงวนบอกว่า อายุงานในการเฝ้าขายไอศกรีมให้น้อง ๆ ปีนี้เป็นปีที่ 18 แล้ว แต่ระหว่างนี้ก็มีเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ตัวของตัวเอง ทุกวันเขาขายไอศกรีมโดยไม่มีเวลาหยุดพักแวะทานข้าว หรืออะไรทั้งสิ้น เพราะเขาต้องเร่งทำเวลาขายไอศกรีมให้หมด และจะกลับถึงบ้านประมาณ 1 ทุ่ม มาเจอหน้าภรรยาและลูกสาวอีก 2 คนซึ่งเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดของเขา ฝ่ายภรรยาก็เป็นผู้สนับสนุนเรื่องเสื้อผ้า เป็นคนตัดเย็บชุดต่าง ๆ ที่สงวนต้องใส่ไปขายไอศกรีม เรื่องเงินทอง รายได้ทั้งหลาย สงวนให้ศรีภรรยาเป็นคนจัดการทั้งหมด โดยสามี-ภรรยา จะมานั่งนับเงินด้วยกัน เป็นภาพที่เป็นมาอย่างนี้ตลอด 18 ปีที่ผ่านมา โดยเงินที่ได้มาแต่ละวันจะแบ่งให้ลูกคนละ 4 บาท และเก็บใส่กระปุกออมสิน 10 บาททุกวัน สงวนบอกว่า แม้เป็นเงินจำนวนไม่มาก แต่ถือเป็นการฝึกวินัย เราต้องออม เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ได้จากการออมคือ ความคิดในการออม เพื่อไม่ให้ละทิ้งคำว่า "ออม" ไป...

          ลูกสาว..อีกหนึ่งกำลังใจที่สำคัญที่สุดในชีวิตสงวน เขาไม่เคยคิดที่จะยกลูกให้ใครเลี้ยง ถึงแม้เขาจะไม่มีเงินก็ตาม เพราะเขาคิดถึงลูก และในเมื่อเรายังมีกำลังทำเพื่อลูกได้ก็จะทำให้ถึงที่สุด ตอนแรก ภรรยาบอกว่า ลูกสาวคนโตนั้นเรียนถึงปวช.ก็คงพอแล้ว เพราะไม่มีเงินส่งเรียนแล้ว แต่สงวนบอกว่า เขาจะหาเงินส่งลูกเรียนเอง ลูกอยากเรียนสูงเท่าไหร่ ขอให้บอกพ่อ







          ชีวิตของสงวนเป็นชีวิตที่เพียงพอและพอเพียงจริง ๆ ในทุกเช้าก่อนที่เขาจะออกไปขายไอศกรีม เขาจะเข้าไปสวนหลังบ้าน เพื่อทำการเก็บพืชผัก ผลไม้รากไม้ ที่เขากับภรรยาได้ช่วยกันปลูกไว้ มีบ่อปลาดุกเลี้ยงไว้ เป็นรายได้เสริมอีกส่วนหนึ่ง หรือเก็บเอาไว้กินเองก็ปลอดสารพิษ และในวันหยุด เขาก็จะเข้าสวน บุกเบิกพื้นที่ที่เคยรกร้างว่างเปล่าให้กลายเป็นต้นไม้งอกเงยขึ้นมา มีผลให้เก็บกิน นอกจากนี้ สงวนยังมีเล้าเป็ด เก็บไข่วันละ 2 ฟองไปทำอาหารได้ สงวนได้ใช้รายได้จากการขายไอศครีมที่หักค่าใช้จ่ายแล้ว มาทำสวนตรงนี้ เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการหุงหาอาหาร สงวนกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า สวนหลังบ้านเขานี่แหละ เป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด

         สำหรับแนวคิดที่สงวนนำมาประยุกต์ใช้โดยนำเงินมาลงทุน จัดการบริหารพื้นที่เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ทำประโยชน์ได้อย่างยั่งยืนนี้ สงวนบอกตามตรงเลยว่า มาจากแนวคิด"เศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง" ซึ่งเขาถือว่า ชีวิตตอนนี้ของเขา "สมบูรณ์แบบ" แล้ว เพราะเขามีทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการ แม้ไม่มีมากมีมายเหมือนใคร ๆ  แต่ที่สำคัญคือเขาได้ลงมือทำด้วยตัวเอง เพียงแค่นี้ก็เป็น "ความสุข" ที่สงวนและใครหลายคนเพียรหามาตลอดทั้งชีวิตก็เป็นได้.. และนี่ก็เป็นเรื่องราวเส้นทางการต่อสู้ชีวิตของคนต้นเรื่องที่รายการคนค้นฅน นำมาฝากพร้อมบทเรียนสอนใจให้ทุกคนได้นำไปคิด เตือนสติตัวเองว่า ในวันนี้คุณได้พบกับ "ความสุข" ที่คุณมองหาแล้วหรือยัง..














เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สงวน บานเย็น ยอดมนุษย์ไอติมแมนมืออาชีพ โพสต์เมื่อ 17 สิงหาคม 2555 เวลา 14:36:40 10,494 อ่าน
TOP
x close