เปิดชีวิตหลังลูกกรง ของ นพ.วิสุทธิ์ มือฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร


เปิดชีวิตหลังลูกกรง ของ นพ.วิสุทธิ์ มือฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร

เปิดชีวิตหลังลูกกรง ของ นพ.วิสุทธิ์ มือฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร


ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  รายการตีสิบ โพสต์โดย เว็บไซต์ socialvio.com

          เมื่อ 11 ปีที่แล้ว (พ.ศ. 2544) คดีฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ อดีตสูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลบุรฉัตรไชยากร ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้วงการแพทย์อีกครั้ง จนกลายเป็นอีกหนึ่งคดีอาชญากรรมในตำนานที่ผู้คนจดจำได้ เมื่อผู้ที่ลงมือสังหาร พญ.ผัสพร คือ คู่ชีวิตของเธอที่ถูกยกให้เป็นสูตินรีแพทย์ฝีมือดีระดับเอเชีย...ผศ.นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ อดีตสูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

          คดีดังกล่าวได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามลำดับชั้นมาเป็นเวลาหลายปี ตั้งแต่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ จนถึงศาลฎีกา ซึ่งทุกศาลก็เห็นพ้องพิพากษาให้ประหารชีวิต นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ฐานกระทำความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้ตายให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และฐานฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากคดีฆ่าชำแหละศพ และอำพรางศพภรรยาของตัวเอง

เปิดชีวิตหลังลูกกรง ของ นพ.วิสุทธิ์ มือฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร

          ระหว่างที่กระบวนการต่าง ๆ ดำเนินไป นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ แทบไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเลย กระทั่งถึงวันนี้ นพ.วิสุทธิ์ ถูกจองจำอยู่ในเรือนจำบางขวางเป็นเวลา 9 ปีแล้ว และพร้อมที่จะเปิดใจถึงชีวิตภายใต้กำแพงสูงแห่งนี้ ในฐานะ "นักโทษชาย" ผ่านรายการตีสิบ เมื่อคืนวันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555

          หลังจากถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำบางขวางมา 9 ปี วันนี้ นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ในวัย 60 ปี ได้รับพระราชทานอภัยโทษจนเหลือเพียงจำคุก ซึ่งตอนนี้ก็เหลือเวลาต้องรับโทษอีก 17 ปี โดย นพ.วิสุทธิ์ เข้ามาในเรือนจำบางขวางเมื่อปี พ.ศ. 2546 ก่อนจะได้รับพระราชอภัยโทษครั้งแรกจากประหารชีวิตเหลือจำคุกตลอดชีวิตในปี พ.ศ. 2550 และในปีต่อ ๆ มา ก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษในอีกหลายครั้ง

เปิดชีวิตหลังลูกกรง ของ นพ.วิสุทธิ์ มือฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร

          เป็นเวลา 4 ปีเต็ม ๆ กว่าที่ นพ.วิสุทธิ์ จะปลดคำว่า "นักโทษประหารชีวิต" ออกจากตัวเองได้ ซึ่ง นพ.วิสุทธิ์ บอกว่า การเข้ามาอยู่ในคุกช่วงแรก ๆ เหมือนตกนรกทั้งเป็น เพราะเหมือนสูญเสียทุกอย่าง โดยเฉพาะอิสรภาพที่ต้องถูกล่ามโซ่ตรวน และเข้ามาอยู่ในแดนประหาร ซึ่งมีกฎเกณฑ์เข้มงวดที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นต้องคอยลุ้นทุกวันว่าจะถึงตาเราหรือยังที่จะได้รับโทษ ทำให้ชีวิตในคุกปีแรกได้รับความทรมานที่สุด

          อดีตแพทย์สูตินรีเวชที่ปัจจุบันเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ยอมรับว่า ตัวเองรู้สึกเครียดมากในช่วงแรก ๆ กระทั่งวันที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษให้เหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต เหมือนกับตายแล้วเกิดใหม่ และทำให้เขาได้ไตร่ตรองว่า ต้องใช้ชีวิตอย่างไรให้ดีที่สุด เพราะชีวิตที่ได้คืนมาคือสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าเดิม ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ชีวิตอย่างประมาท โดยปล่อยให้ความโลภ ความโกรธ ความหลงมาครอบงำ ทำให้ชีวิตไร้คุณค่า นพ.วิสุทธิ์ บอกว่า ปัจจุบัน เขากลายเป็นคนที่มีความโกรธน้อยลง และให้อภัยง่ายขึ้น

เปิดชีวิตหลังลูกกรง ของ นพ.วิสุทธิ์ มือฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร

เปิดชีวิตหลังลูกกรง ของ นพ.วิสุทธิ์ มือฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร

          ชีวิตในเรือนจำของ นพ.วิสุทธิ์ ไม่ต่างจากนักโทษชั้นเยี่ยมคนอื่นทั่วไป ไม่ได้มีสิทธิพิเศษ เว้นแต่การได้รับมอบหมายให้ช่วยดูแลผู้ต้องขังที่ป่วย แม้ว่าเขาจะถูกยึดใบประกอบโรคศิลป์ ไม่สามารถเป็นแพทย์ได้อีก แต่ผู้อำนวยการแพทย์ก็อนุญาตให้เขาทำหน้าที่ตรงนี้ เพราะมีผู้ต้องขังจำนวนมากที่ป่วยและต้องการการดูแล ซึ่งส่วนหนึ่งก็ป่วยเป็นโรคเอดส์ และวัณโรค ที่แพร่เชื้อได้ง่ายในสภาพแวดล้อมเช่นนี้

          ขณะเดียวกัน นพ.วิสุทธิ์ ก็ได้ใช้ความรู้ทางวิชาชีพที่มีติดตัวมา เป็นคอลัมนิสต์ตอบปัญหาสุขภาพลงในหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ "ข่าวจิตต์เสรี" ซึ่งแจกภายในเรือนจำทั่วประเทศ ในนามปากกาว่า "หมอธรรมดา" พร้อมกับเขียนหนังสือ "กว่าจะฝ่าข้ามความตาย" เปิดใจหลังกำแพงเรือนจำ ที่ใช้เวลาเขียนถึง 2 ปี โดยมีเจตนาจะบอกให้คนภายนอกรู้ว่า อย่าเข้ามาในเรือนจำเลย ดังนั้น จงใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาทจะดีที่สุด

เปิดชีวิตหลังลูกกรง ของ นพ.วิสุทธิ์ มือฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร

          เมื่อถามว่าเคยเตรียมใจไว้บ้างไหม หากวันหนึ่งได้เดินออกเรือนจำนี้ไปแล้วต้องไปเผชิญกับสายตาที่คนในสังคมมองมา หรืออาจจะเผชิญกับคำถามจากคดีที่เกิดขึ้น เรื่องนี้ นพ.วิสุทธิ์ บอกว่า ก็ต้องเตรียมใจไว้ไม่ให้ผูกติดกับรัก โลภ โกรธ หลง มากนัก เพราะทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่ไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้เราท้อแท้ที่จะทำประโยชน์ต่อไป ทั้งนี้ ก็มั่นใจในการเตรียมตัวที่จะช่วยให้เรามีจิตใจที่มั่นคง มองโลกในแง่ดี จากโครงการพัฒนาจิตใจภายในเรือนจำที่มีโปรแกรมเข้ามาให้ฝึกเรื่อย ๆ ซึ่งก็ทำให้เขาได้พัฒนาตัวตนด้านในขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง

          "หากออกไปคงไม่สามารถกลับไปเป็นหมอได้เหมือนเดิม จะไปขอใบประกอบคงโรคศิลป์ไม่ได้ คงต้องไปทำสาระประโยชน์อีกแบบหนึ่ง แต่ก็ไม่ซีเรียสเรื่องนั้น เพราะก็จะใช้ชีวิตแบบคนเกษียณ ไปช่วยเหลืองานเท่าที่ช่วยเหลือได้" นพ.วิสุทธิ์ กล่าวในที่สุด








เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดชีวิตหลังลูกกรง ของ นพ.วิสุทธิ์ มือฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร โพสต์เมื่อ 10 ตุลาคม 2555 เวลา 16:42:31 29,011 อ่าน
TOP
x close