กฎหมายแรงงาน น่ารู้ ควรรู้ สำหรับคนทำงาน

          รู้จักกฎหมายแรงงาน เรื่องน่ารู้สำหรับคนทำงาน มีประเด็นอะไรที่สำคัญบ้าง มาดูกัน
กฎหมายแรงงาน

          แม้ว่าทุกวันนี้กฎหมายแรงงานจะเป็นข้อมูลสำคัญที่คนทำงานทั้งหลายควรรู้จักและทำความเข้าใจ แต่เชื่อว่ายังมีหลายคนที่ยังไม่ทราบข้อมูลของกฎหมายแรงงานอยู่ดี ดังนั้นวันนี้ กระปุกดอทคอม จึงมีความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับกฎหมายแรงงานมาฝากกัน

เงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน
 
        เรื่องแรกที่หลายคนสงสัยและอยากรู้คงหนีไม่พ้นเรื่องสิทธิประโยชน์ในการได้รับเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน โดยมีรายละเอียดดังนี้
 
1. ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด จะได้รับเงินชดเชยดังนี้


          - ทำงานต่อเนื่องครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 ปี ได้ค่าชดเชยไม่น้อยกว่า 30 วัน  
          - ทำงานครบ 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ได้เงินชดเชยไม่น้อยกว่า 90 วัน  
          - ทำงานครบ 3 ปี แต่ไม่เกิน 6 ปี ได้เงินชดเชยไม่น้อยกว่า 180 วัน 
          - ทำงานครบ 6 ปี แต่ไม่เกิน 8 ปี ได้เงินชดเชยไม่น้อยกว่า 240 วัน  
          - ทำงานครบ 10 ปี แต่ไม่เกิน 20 ปี ได้เงินชดเชยไม่น้อยกว่า 300 วัน  
          - ทำงานครบ 20 ปีขึ้นไป ได้เงินชดเชยไม่น้อยกว่า 400 วัน 
 
2. ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง โดยไม่ได้รับเงินชดเชย มีสาเหตุดังนี้

          - ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดทางอาญาโดยเจตนาต่อนายจ้าง

          - จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย

          - ประมาทเลินเล่อ จนนายจ้างได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

          - ฝ่าฝืนกฎข้อบังคับของนายจ้าง โดยได้รับหนังสือเตือนแล้ว หรือหากเป็นกรณีร้ายแรงก็ไม่จำเป็นต้องมีหนังสือเตือน (หนังสือเตือนมีอายุ 1 ปีนับจากวันที่ทำผิด ไม่ใช่วันที่ได้รับ)

          - หยุดงานติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน โดยไม่มีเหตุอันควร (ไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ก็ตาม)

          - ได้รับโทษหรือได้รับคำพิพากษาให้จำคุก

          - การจ้างที่มีกำหนดระยะเวลา หรือสัญญาที่แน่นอน เช่น การเซ็นสัญญาจ้าง 2 ปี เป็นต้น
 
3. ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าชดเชยพิเศษ ในกรณีต่อไปนี้
         
          มีการย้ายสถานที่ทำงานซึ่งกระทบต่อการดำเนินชีวิตของลูกจ้าง (นายจ้างต้องบอกล่วงหน้า 30 วัน) ถ้าลูกจ้างไม่อยากย้าย สามารถบอกเลิกสัญญาจ้างได้ โดยจะมีสิทธิ์รับเงินชดเชยสูงสุด 400 วัน ตามหลักเกณฑ์การจ่ายค่าชดเชยเลิกจ้าง และหากไม่มีการบอกล่วงหน้า 30 วัน ลูกจ้างจะได้ค่าชดเชยพิเศษเท่ากับอัตราค่าจ้างสุดท้าย 30 วัน

          การเลิกจ้างเนื่องจากต้องการปรับปรุงหน่วยงาน และกระบวนการต่าง ๆ หรือมีการนำเครื่องจักรมาใช้แทนพนักงาน ลูกจ้างจะได้รับค่าชดเชยเท่ากับอัตราค่าจ้างสุดท้าย 60 วัน หากนายจ้างไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วัน

          ในกรณีที่มีการเลิกจ้างเนื่องจากปรับปรุงหน่วยงาน และลูกจ้างทำงานติดต่อกันมาเกิน 6 ปีขึ้นไป นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยพิเศษเพิ่มขึ้นจากเดิม อีก 15 วันต่อการทำงานครบ 1 ปี โดยรวมแล้วไม่เกินอัตราค่าจ้างสุดท้าย 360 วัน (หากมีเศษไม่ครบ 1 ปี แต่มากกว่า 180 วัน ให้นับเป็น 1 ปี)
 
กฎหมายแรงงาน เวลาทำงาน
 
1. กำหนดเวลาในการทำงาน

 
          - กำหนดให้ลูกจ้างทำงานไม่เกิน 6 วันต่อสัปดาห์

          - เวลาทำงานปกติในสายงานทุกประเภท ไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมง หรือไม่เกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

          - หากมีวันที่ทำงานน้อยกว่า 8 ชั่วโมง ให้นำเวลาไปสมทบกับวันทำงานปกติวันอื่นได้ แต่ต้องไม่เกินวันละ 9 ชั่วโมง และไม่เกิน48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
 
2. กำหนดเวลาการทำงานของสายงานเฉพาะ

 
          - งานที่อันตรายต่อสุขภาพตามกฎกระทรวงแรงงาน ให้ทำงานวันละไม่เกิน 7 ชั่วโมง หรือไม่เกิน 42 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

          - งานขนส่งทางบก สำหรับผู้ขับขี่ยานพาหนะ ห้ามไม่ให้มีการทำงานในวันถัดไปก่อนครบ 10 ชั่วโมงหลังจากทำงานครั้งสุดท้าย

          - งานปิโตรเคมี สามารถทำงานได้วันละไม่เกิน 12 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
 
3. กำหนดเวลาพัก
         
          - เวลาพักระหว่างวันทำงาน ต้องติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมงต่อวัน

กฎหมายคุ้มครองแรงงาน

กฎหมายแรงงาน ล่วงเวลา
 
          1. ลูกจ้างที่ต้องทำงานล่วงเวลาในวันทำงาน ต้องได้รับค่าล่วงเวลาไม่น้อยกว่า 1.5 เท่าของอัตราจ้างปกติต่อชั่วโมง

          2. ลูกจ้างที่ต้องทำงานในวันหยุด ต้องได้รับค่าจ้างไม่น้อยกว่า 3 เท่าของอัตราจ้างปกติ

          3. ลูกจ้างที่ไม่มีสิทธิ์ได้รับค่าล่วงเวลา
          - ตำแหน่งผู้อำนวยการ ผู้จัดการ หัวหน้า
          - งานขนส่ง
          - งานขบวนจัดการถไฟ
          - งานปิด-เปิดประตูระบายน้ำ
          - งานอ่านระดับน้ำ หรืดวัดปริมาตรน้ำ
          - งานนอกสถานที่โดยสภาพของงานไม่อาจกำหนดเวลาที่แน่นอนได้

4. ห้ามนำหนี้อื่นมาหักล้างค่าล่วงเวลา เช่น นายจ้างจะหักเงินค่าล่วงเวลาแทนหนี้ที่ลูกจ้างติดค้างอยู่ไม่ได้
 
กฎหมายแรงงาน วันหยุด

 
          วันหยุดประจำสัปดาห์ จะต้องมีวันหยุดไม่น้อยกว่า 1 วันในแต่ละสัปดาห์ หรืออาจมีการตกลงกันระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างให้เลื่อนวันหยุดประจำสัปดาห์ออกไปได้ แต่ต้องไม่เกิน 4 สัปดาห์ติดต่อกัน

          วันหยุดประจำปี ต้องไม่น้อยกว่าปีละ 13 วัน รวมวันแรงงานแห่งชาติด้วย และต้องประกาศให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปี หากตรงกับวันหยุดก็ให้ชดเชยในวันทำงานถัดไป

          วันพักร้อน เมื่อลูกจ้างทำงานครบ 1 ปี ต้องได้สิทธิ์พักร้อน ไม่น้อยกว่า 6 วันทำงาน
 
กฎหมายแรงงานวันลาป่วย
 
          - ลูกจ้างสามารถลาป่วยได้เท่ากับวันที่ป่วยจริง แต่ไม่เกิน 30 วันทำงาน โดยได้รับค่าจ้าง
          - หากมีการลาป่วยติดต่อกัน 3 วัน ต้องมีใบรับรองแพทย์
          - ลาคลอดได้ไม่เกิน 90 วัน โดยได้รับค่าจ้าง 45 วัน
          - ลาเพื่อทำหมันได้ทุกครั้งที่แพทย์วินิจฉัยให้หยุด โดยได้รับค่าจ้าง

          หญิงมีครรภ์ที่ทำงานตำแหน่งเดิมไม่ไหว สามารถขอเปลี่ยนงานชั่วคราวในช่วงก่อนหรือหลังคลอดได้ โดยต้องมีใบรับรองแพทย์
 
กฎหมายแรงงาน ลากิจ

 
          - ลูกจ้างสามารถลากิจได้หากมีกิจธุระจำเป็น ได้ปีละไม่น้อยกว่า 3 วันทำงาน โดยที่ยังได้รับค่าจ้างตามปกติ
          - ลาเข้ารับราชการทหารได้ไม่เกินปีละ 60 วัน โดยได้รับค่าจ้าง
          - ลาเพื่อฝึกอบรมสามารถลาได้ตามกฎกระทรวง แต่จะไม่ได้รับค่าจ้างในวันลา
 
กฎหมายแรงงาน วันพักร้อน
 
          - ลูกจ้างที่ทำงานครบ 1 ปี จะได้รับสิทธิ์ลาพักร้อนไม่น้อยกว่า 6 วันทำงาน
          - ลูกจ้างต้องได้รับค่าจ้างในวันลาพักร้อน
          - หากทำงานยังไม่ครบ 1 ปี ลูกจ้างอาจได้รับวันหยุดตามสัดส่วนได้
          - นายจ้างและลูกจ้างสามารถตกลงกันเพื่อสะสมวันหยุดพักร้อนไปรวมกับวันหยุดได้ปีอื่นได้
 
ค่าจ้าง กฎหมายแรงงาน
 
          ค่าจ้าง หมายถึงอัตราค่าตอบแทนในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นแบบรายเดือน รายวัน รายชั่วโมง หรืออื่น ๆ โดยอาจคำนวณตามผลงานที่ทำโดยมีรายละเอียดดังนี้
 

          - ลูกจ้างต้องได้รับค่าจ้างไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งปัจจุบันกำลังปรับขึ้นเป็น 300 บาทต่อวัน

          - วันหยุดประจำปี วันหยุดประจำสัปดาห์ วันลาป่วย และวันลาพักร้อน ลูกจ้างต้องได้รับค่าจ้าง
          - วันลาอื่น ๆ ลูกจ้างจะมีสิทธิ์ได้รับค่าจ้างตามกำหนดของแต่ละชนิดวันลา เช่น ลาคลอดบุตร ได้รับค่าจ้าง 45 วันจากนายจ้างและอีก 45 วันจากประกันสังคม, ลารับราชการทหาร ได้รับค่าจ้าง 60 วัน เป็นต้น
 
กฎหมายแรงงานเด็ก

 
          - ห้ามนายจ้าง จ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นลูกจ้าง

          - หากจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นลูกจ้าง นายจ้างต้องแจ้งต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 15 วัน และเมื่อเลิกจ้างต้องแจ้งภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันที่ออกจากงาน

          - ต้องมีเวลาพัก 1 ชั่วโมง ภายใน 4 ชั่วโมงแรกของการทำงาน และมีเวลาพักย่อยตามที่นายจ้างกำหนด

          - ห้ามให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานในช่วงเวลา 22.00-06.00 น. เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี

          - เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ห้ามทำงานล่วงเวลา

เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ห้ามทำงานดังต่อไปนี้

          - งานหลอม เป่า หล่อ รีด ปั๊มโลหะ
          - งานกี่ยวกับความร้อน ความเย็น ความสั่นสะเทือน เสียง และแสงที่อาจเป็นอันตรายตามกฎกระทรวง
          - งานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย
          - งานเกี่ยวกับจุลชีวะเป็นพิษ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และอื่น ๆ
          - งานเกี่ยวกับวัตถุมีพิษ เช่น ระเบิด วัตถุไวไฟ โดยยกเว้นงานในสถานีบริการน้ำมัน
          - งานบังคับหรือยกปั้นจั่น
          - งานใช้เลื่อย
          - งานใต้ดิน ในน้ำ อุโมงค์ ถ้ำ หรือปล่องภูเขา
          - งานเกี่ยวกับกัมมันตภาพรังสี
          - งานทำความสะอาดเครื่องจักรหรือเครื่องยนต์ที่กำลังทำงาน
          - งานบนนั่งร้านสูงกว่า 10 เมตรขึ้นไป
          - งานอื่น ๆ ตามกฎกระทรวง

เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ห้ามทำงานในสถานที่ต่อไปนี้

          - โรงฆ่าสัตว์
          - สถานที่เล่นการพนัน
          - สถานที่เต้นรำ
          - สถานบริการ
          - สถานมึนเมา
          - และอื่น ๆ ตามกฎกระทรวง

          โดยค่าจ้างของแรงงานเด็กห้ามจ่ายให้กับบุคคลอื่น ห้ามนายจ้างเรียกหรือรับเงินประกันจากลูกจ้างที่เป็นเด็กและเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มีสิทธิ์ลาเพื่อทำกิจกรรมกับสถานศึกษาและได้รับค่าจ้าง โดยรวมแล้วไม่เกิน 30 วันต่อปี
 
ข้อยกเว้น กฎหมายแรงงาน
         
          แม้ว่าลูกจ้างจะต้องได้รับสิทธิ์ตามกฎหมายแรงงาน แต่ก็ยังมีข้อยกเว้นที่นายจ้างจะไม่ต้องจ่ายเงินให้กับลูกจ้าง ดังนี้

          1. ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำผิดทางอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง

          2. จงใจให้นายจ้างได้รับความเสียหาย

          3. ประมาทเลินเล่อ จนนายจ้างได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

          4. ฝ่าฝืนกฎข้อบังคับของนายจ้าง โดยได้รับหนังสือเตือนแล้ว หรือหากเป็นกรณีร้ายแรงก็ไม่จำเป็นต้องมีหนังสือเตือน (หนังสือเตือนมีอายุ 1 ปีนับจากวันที่ทำผิด ไม่ใช่วันที่ได้รับ)

          5. หยุดงานติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน โดยไม่มีเหตุอันควร (ไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ก็ตาม)

          6. ได้รับโทษหรือได้รับคำพิพากษาให้จำคุก

          7. การจ้างที่มีกำหนดระยะเวลา หรือสัญญาที่แน่นอน เช่น การเซ็นสัญญาจ้าง 2 ปี เป็นต้น

          และนี่ก็คือข้อมูลคร่าว ๆ ของกฎหมายแรงงานที่คนทำงานควรรู้ จะได้ไม่เสียสิทธิ์และเข้าใจกับนโยบายต่าง ๆ ของบริษัทที่คุณทำงานอยู่ให้มากขึ้นด้วยนะคะ ส่วนใครที่อยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปอ่านมาตราต่าง ๆ ของกฎหมายแรงงานได้ที่ labour.go.th เลยจ้า
 
อัปเดตข้อมูลล่าสุด เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
labour.go.th, ราชกิจจานุเบกษา
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กฎหมายแรงงาน น่ารู้ ควรรู้ สำหรับคนทำงาน อัปเดตล่าสุด 9 เมษายน 2562 เวลา 16:57:06 147,574 อ่าน
TOP
x close