เรียบรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เทศกาลคริสต์มาส เป็นเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีของชาวคริสต์ ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศการเฉลิมฉลอง แน่นอนสิ่งที่เราจะได้เห็นคือ ภาพการรวมตัวของญาติสนิทมิตรสหายและอาหารวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะ ซึ่งการรับประทานอาหารในวันคริสต์มาส ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลนี้เลยทีเดียว ว่าแต่ตามธรรมเนียมแล้ว อาหารคริสต์มาส มีอะไรบ้าง หรือมีวิธีรับประทานแตกต่างกันไหม เรามีข้อมูลมาบอกจ้า
ช่วงเวลาในการรับประทานอาหารคริสต์มาสเทศกาลคริสต์มาสเป็นการฉลองวันประสูติของพระเยซู ชาวคริสต์จะมารวมตัวกันเพื่อร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในโบสถ์และที่บ้าน รวมถึงกิจกรรมการรับประทานอาหารวันคริสต์มาส หรือคริสต์มาสดินเนอร์ ที่ส่วนมากจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 ธันวาคมของทุกปี (หรือวันคริสต์มาสอีฟ) เนื่องจากวันที่ 25 ที่เป็นวันคริสต์มาส พวกเขาถือว่าเป็นวันหยุดพักผ่อน (ไม่ทำอะไรทั้งสิ้น) แต่ในการปฏิบัติจะขึ้นอยู่กับว่าแต่ละครอบครัวสะดวกในวันไหนมากกว่า ในเรื่องของเวลาจะเริ่มตั้งแต่หลังเที่ยงวันเป็นต้นไป ส่วนมากนิยมมีขึ้นในช่วงเวลามื้อค่ำของวันมากที่สุด
อาหารคริสต์มาส เสิร์ฟอะไรบ้าง ?พระเอกของอาหารคริสต์มาสต้องยกให้ไก่งวงยัดไส้เครื่องเทศหลากชนิด ปรุงด้วยวิธีการอบหรือย่างก็ได้ เสิร์ฟเคียงด้วยมันฝรั่งบดหรือเผาและผักต่าง ๆ แต่สำหรับชาวคริสต์ในบางประเทศหรือบางพื้นที่ อาหารจานหลักอาจไม่ใช่ไก่งวงเสมอไป แต่จะใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นนั้น เช่น หงส์ ห่าน หมูอบ ไก่ตัวใหญ่ ไส้กรอก หรือเนื้อวัวแทน ซึ่งเมื่อย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน เนื้อนกยูง ยังเคยถูกนำมาปรุงเป็นอาหารในหมู่ชาวอังกฤษมาแล้ว!!
นอกจากนี้ ยังมีของหวานอย่าง คริสต์มาสพุดดิ้ง ที่มีลักษณะคล้ายฟรุตเค้ก (ต่างกันที่พุดดิ้งจะนำไปนึ่ง) รวมถึงพายไส้ผลไม้หรือไส้เนื้อสัตว์ เค้กผลไม้ ขนมปังรูปตุ๊กตา คุ๊กกี้ ฯลฯ ต่างกันไปตามวัฒนธรรมการกินแต่ละที่ด้วย
ปิดท้ายกันที่ครื่องดื่ม ได้แก่ คริสต์มาสไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่าง แชมเปญ เหล้าหรือเอ้กน็อก(เครื่องดื่มคริสต์มาสของอเมริกา) ทั้งนี้ ไม่ใช่เหตุผลว่าเขาอยากเมากันอย่างเดียว แต่เพราะคริสต์มาสเป็นเทศกาลฤดูหนาว ชาวตะวันตกจึงนิยมดื่มเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายไปในตัวด้วย
ความต่างแต่ละประเทศบนโต๊ะอาหารคริสต์มาสเมนูอาหารคริสต์มาสในแต่ละประเทศมักได้รับอิทธิพลมาจากประเทศอังกฤษและฝรั่งเศสเป็นหลัก แต่กระนั้นก็ไม่ได้มีกฎตายตัวแต่อย่างใด โดยอาหารบนโต๊ะของแต่ละที่จะปรับเปลี่ยน หรือประยุกษ์ กันไปตามวัฒนธรรมการกินท้องถิ่น เน้นเนื้อสัตว์หรือวัตถุดิบที่หากันได้ง่ายเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีความพิเศษอย่างเช่น อาหารคริสต์มาสที่มีเฉพาะบางประเทศ หรือเฉพาะช่วงเทศกาลคริสต์มาสเท่านั้น ลองมาสำรวจอาหารแต่ละประเทศกันดีกว่า
อังกฤษเป็นประเทศที่มีอิทธิพลเรื่องอาหารคริสต์มาสมาก โดยคริสต์มาสพุดดิ้งต้นตำหรับก็คืออังกฤษนั่นเอง ขนมสุดพิเศษนี้ ทำมากจากส่วนผสมของผลไม้แห้งและถั่ว น้ำตาลทรายแดง น้ำเชื่อม ทำให้รูปลักษณ์ออกมามีสีคล้ำและค่อนข้างหนัก การเสิร์ฟจะราดด้วยบรั่นดีและจุดไฟเพิ่มความอลังการ นอกเหนือจากนี้บางบ้านของอังกฤษ ยังมีการอบหรือย่างไก่วิธีดั้งเดิมคือ วิธีการสุมกองไฟ ด้วย
สหรัฐอเมริกาไฮไลท์ของบนโต๊ะของที่นี่คือ เอ้กน็อก เครื่องดื่มที่ทำมาจาก ครีม น้ำตาล นมสด ไข่ไก่ ปั่นรวมกัน ก่อนเติมเหล้ารัมลงไป เป็นเครื่องดื่มแก้หนาวที่น่าลองชิมดูสักครั้งจริง ๆ
ฝรั่งเศสมีขนมเอกลักษณ์เป็นเค้กรูปขอนไม้ ชื่อ Buche de Noel หรือ Yule Log ทำจากแผ่นสปันจ์เค้กที่ม้วนจนกลม ตกแต่งด้วยครีมสีน้ำตาลเป็นเปลือกไม้ ไอซิ่งแทนหิมะ เมอร์แรงแทนเห็ด เสริมความสมจริงปิดท้ายด้วย ผลราสเบอรี่และลูกสน โดยมีความต้องการที่จะจำลองให้เหมือนขอนไม้ตามธรรมชาติ นั่นเอง
เดนมาร์กRis a la mande เป็นขนมรสชาติเปรี้ยวและหวานมัน ที่ทุกบ้านในเดนมาร์กต้องกินในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ขนมชนิดนี้ทำมาจาก ข้าวเมล็ดกลมต้มกับนมจนแฉะ ต่อด้วยการเติมวิปครีมเข้าไปแล้วคนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาล, เกลือ จากนั้นทุบเมล็ดอัลมอนด์ใส่ลงไปปิดท้ายก่อนนำไปแช่เย็น รับประทานคู่กับซอสที่ทำจากน้ำเชอร์รี่
นอร์เวย์ลองมาดูของคาวกันบ้าง เป็น หัวแกะเคี่ยวน้ำซุป อาหารที่ชาวนอร์เวย์ส่งเข้าประกวด ความอร่อยปนสยิวอยู่ที่การเริ่มรับประทานจากหูและดวงตาของแกะก่อน จากนั้นค่อยแซะเนื้อจากหน้าเข้าปาก ปิดท้ายที่เขาบอกว่าอร่อยสุด ๆ อย่างลิ้นและกล้ามเนื้อตา "เมอร์รี่คริสต์มาสนะ เจ้าแกะน้อย"
ออสเตรียคริสต์มาสประเทศออสเตรีย จะมี กลูไวน์ ไม่ได้แปลว่า ไวน์ของฉันแต่อย่างใด แต่เป็นไวน์แดงอุ่นให้ร้อนและโรยเครื่องเทศลงไป บางทีก็เรียกตามคุณสมบัติว่า ฮอตไวน์ หรือไวน์ร้อน ๆ นั่นเอง
สวีเดนเครื่องดื่มที่ขายแค่ในช่วงคริสต์มาสของที่นี่นามว่า ยูลมูส ส่วนผสมประกอบไปด้วย โซดา น้ำตาล ฮ็อบ (พืชที่ใช้ในการหมักเบียร์)รสชาติรวม ๆ จึงออกมาคล้ายเบียร์ "เอ้า ชนแก้ว!"
สเปนหลายคนคาดหวังถึงสเต็กกระทิง แต่เสียใจด้วยเพราะคริสต์มาสเขาขอมาแนวของหวานที่ชื่อ ตูรอน ส่วนประกอบคือ น้ำผึ่ง ถั่ว ไข่ขาว มีหลายแบบทั้ง อัลมอนด์ เฮเซลนัทและอีกหลายถั่ว นำทั้งหมดมากวนกันจนงวดแข็ง แล้วตัดแบ่งแจกจ่ายกันให้ทั่วถึงเลย
ถึงไม่ได้เป็นชาวคริสต์แต่ก็อดตื่นเต้นไปกับเทศกาลแสนอบอุ่นอย่างคริสต์มาสไม่ได้ ยิ่งมองอาหารที่เรียงรายอยู่ด้านบนแล้ว อยากจะขอร่วมโต๊ะเป็นแขกพิเศษด้วยสักคนจริง ๆ เฉลิมฉลองกันแล้ว ก็อย่าลืมให้อยู่ในความพอดีด้วย ส่งท้ายปีนี้จะได้ปิดฉากลงอย่างสุขขี เมอร์รี่คริสต์มาสกันถ้วนหน้าจ้า
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
knowledge.truelife.com , en.wikipedia.org , foodtimeline.org , th.lifestyleasia.com
