เจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าสัวเบียร์ช้าง นั่งแท่นเศรษฐีอันดับ 4 ในเอเชีย


เจริญ สิริวัฒนภักดี
เจริญ สิริวัฒนภักดี

เจริญ สิริวัฒนภักดี
เจริญ สิริวัฒนภักดี

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก springnewschannel สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          เจริญ สิริวัฒนภักดี หรือเจ้าสัวเบียร์ช้าง นั่งแท่นอันดับ 4 ของเจ้าของกิจการรุ่นแรกผู้ร่ำรวยที่สุดในทวีปเอเชีย ด้วยสินทรัพย์รวมมูลค่ากว่า 1.07 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.1 แสนล้านบาท)

          เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 สำนักข่าวซีเอ็นบีซี มีรายงานว่า จากข้อมูลการจัดอันดับเจ้าของกิจการรุ่นแรกผู้ร่ำรวยที่สุดในทวีปเอเชียโดย Wealth-X โดยใช้หลักเกณฑ์การถือครองหุ้นทั้งในนามบริษัท และองค์กรสาธารณะทั่วไปจนถึงวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา พบว่า เจ้าของกิจการผู้ร่ำรวยในเอเชียทั้ง 10 อันดับแรกมีมูลค่าสินทรัพย์มากกว่า 1.1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.2 ล้านล้านบาท) โดย ลีกาซิง วัย 84 ปีเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์จากเกาะฮ่องกง ครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 ในเอเชีย ขณะที่เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี แห่งกลุ่มบริษัทไทยเบฟเวอเรจ หรือเบียร์ช้าง ในวัย 69 ปี ครองอันดับ 4 ด้วยสินทรัพย์มูลค่ากว่า 1.07 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.1 แสนล้านบาท) ขณะที่เจ้าของกิจการรุ่นแรกที่รวยที่สุดในเอเชียทั้ง 10 อันดับ ได้แก่

          1. ลีกาซิง วัย 84 ปี ชาวฮ่องกง

          2. จงชิ่งโฮ่ว วัย 67 ปี ชาวจีน

          3. ทัทพารานันดาม อนันดา คริซนัน วัย 74 ปี ชาวมาเลเซีย

          4. เจริญ สิริวัฒนภักดี วัย 69 ปี ชาวไทย

          5. เฮนรี่ ไซ ซีเนียร์ วัย 88 ปี ชาวฟิลิปปินส์

          6. มาซาโยชิ ซอน วัย 55 ปี ชาวญี่ปุ่น

          7. เหลียงเวินเกิน วัย 56 ปี ชาวจีน

          8. ไซ่ว่านไฉ วัย 83 ปี ชาวไต้หวัน

          9. ซูนิล มิททาล วัย 55 ปี ชาวอินเดีย

          10. โรบิน หลี่เยี่ยนหง วัย 44 ปี ชาวจีน

          สำหรับเจ้าสัวเจริญ ผู้ที่ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส ให้เป็นเศรษฐีผู้ร่ำรวยอันดับ 3 ในประเทศไทยนั้น ได้เริ่มก่อตั้งกิจการเบียร์ช้างขึ้นใน พ.ศ. 2538 หลังจากนั้น บริษัทไทยเบฟเวอเรจก็ได้ถูกนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์เป็นเวลานานกว่า 10 ปี และเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทไทยเบฟเวอเรจก็ได้เข้าซื้อกิจการบริษัทเอฟแอนด์เอ็น กลุ่มบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ เครือข่ายช่องทางจัดจำหน่าย และเครือข่ายอสังหาริมทรัพย์ ด้วยมูลค่าการซื้อกิจการสูงถึง 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 3.2 แสนล้านบาท ซึ่งนับเป็นการซื้อกิจการที่มีมูลค่าใหญ่ที่สุดในอาเซียนเมื่อปีที่ผ่านมา

          และนอกจากกิจการในกลุ่มบริษัทไทยเบฟเวอเรจแล้ว เจ้าสัวเจริญก็ยังถือครองกิจการส่วนตัวใน ไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น หรือทีซีซี กรุ๊ป รวมทั้งเครือข่ายโรงแรมทั้งในสิงคโปร์และนิวยอร์ก สหรัฐฯ อีกด้วย

          ขณะที่ เศรษฐีที่รวยอันดับ 1 แห่งเอเชียและฮ่องกงอย่างลีกาซิงนั้น ขึ้นแท่นเป็นเศรษฐีที่ทรงอิทธิพลด้านเครือข่ายธุรกิจที่มีมากที่สุดในเอเชีย จนได้รับชื่อเล่นว่า ซูเปอร์แมน โดยเติบโตมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 57 ปีผ่านมา ปัจจุบันเป็นประธานบริษัท เฉิง กง อินดัสทรี ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของฮ่องกง และยังทำธุรกิจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และสื่อสารไปทั่วโลกอีกด้วย

          ทั้งนี้ ตลอดช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจเอเชียได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งยังเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตของตลาดรวดเร็วที่สุดในโลก ส่งผลให้มีเหล่ามหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทวีปเอเชีย และยังกลายเป็นแหล่งทำธุรกิจของเศรษฐีมากที่สุดในโลก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าสัวเบียร์ช้าง นั่งแท่นเศรษฐีอันดับ 4 ในเอเชีย โพสต์เมื่อ 15 พฤษภาคม 2556 เวลา 15:56:25 23,782 อ่าน
TOP
x close