ประวัติบาสเกตบอล กติกาบาสเกตบอล

          กีฬาของชาวอเมริกัน มีจุดเริ่มต้นเป็นมาอย่างไร และบาสเกตบอลมีกฎกติกาการเล่นอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบ 

ประวัติกีฬาบาสเกตบอล 
          กีฬาบาสเกตบอล นับว่าเป็นกีฬาอีกชนิดหนึ่งที่เป็นกีฬายอดนิยมของคนไทย มีสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าของการแข่งขันกีฬานี้ อย่างไรก็ดี หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า กีฬาที่มีเอกลักษณ์คือการชู้ตลูกบอลลงห่วง มันมีความเป็นมาอย่างไร ใครเป็นคนคิด วันนี้เรามีคำตอบมาให้ครับ

ประวัติบาสเกตบอล


          การถือกำเนิดขึ้นของกีฬาบาสเกตบอลเกิดขึ้นที่เมืองสปริงฟีลด์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ ค.ศ. 1891 (พ.ศ. 2434) โดย ดร.เจมส์ ไนสมิธ อาจารย์พละศึกษาของโรงเรียนคนงานคริสเตียน (ปัจจุบันเป็นวิทยาลัยสปริงฟีลด์) ต้องการให้มีการแข่งขันกีฬาในร่มช่วงฤดูหนาว พร้อมกับกำหนดกติกา 5 ข้อ สำหรับการเล่น 

กติกาบาสเกตบอล


          1. ต้องใช้มือเล่นลูกบอล

          
2. แต่ห้ามถือบอลวิ่ง

          
3. ผู้เล่นสามารถยืนได้ทุกพื้นที่ของสนาม

          
4. ผู้เล่นห้ามปะทะหรือถูกตัวกัน

          
5. จะมีห่วงติดตั้งไว้เหนือพื้นสนามกับเส้นเขตสนาม สูงจากพื้นประมาณ 10 ฟุต

บาสเกตบอล

          ต่อมา ดร.ไนสมิธ ได้กำหนดหลักการเล่นเพิ่มเติม จำนวน 13 ข้อ ซึ่งกลายเป็นกติกาพื้นฐานของบาสเกตบอลในปัจจุบัน ได้แก่

          1. สามารถโยนลูกบอลไปที่อื่นด้วยมือทั้ง 2 ข้างหรือมือเดียว

          
2. สามารถตีลูกบอลได้ทั้งมือเดียวหรือ 2 มือ แต่ห้ามใช้กำปั้นทุบบอล

          
3. ห้ามถือลูกบอลวิ่ง

          
4. ต้องถือลูกบอลด้วยมือ แขน หรือลำตัว แต่ห้ามดึงลูกบอล

          
5. ห้ามดัน ผลัก ฝ่ายตรงข้าม

          
6. การกระทำตามข้อ 3-5 ถือว่าเป็นการฟาวล์

          
7. หากผู้เล่นทีมเดียวฟาวล์ติดต่อกัน 3 ครั้ง ให้นับคะแนนแก่ฝ่ายตรงข้าม

          
8. นับคะแนนเมื่อลูกบอลเข้าห่วงไปแล้ว หรือยังค้างที่ก้านห่วง แต่ถ้าผู้เล่นฝ่ายป้องกันไปสัมผัสหรือกระทบประตูก็นับคะแนนให้เช่นกัน

          
9. หากลูกบอลออกนอกสนามให้ส่งบอลเข้ามาเล่นในจุดที่บอลออก

          
10. กรรมการผู้ร่วมตัดสิน (Umpire) มีหน้าที่คอยจดบันทึกการฟาวล์ และคอยช่วยผู้ตัดสินในด้านสถิติต่าง ๆ ทำให้ตัดสินได้ถูกต้องมากขึ้น

          
11. ผู้ตัดสิน (referee) มีหน้าที่ตัดสินในสนามในจังหวะต่าง ๆ, จับเวลา, ให้คะแนนเมื่อเกิดการทำแต้ม, บันทึกคะแนน ฯลฯ

          
12. การแข่งขันแบ่งเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 5 คะแนน โดยมีเวลาพักครึ่ง 5 นาที

          
13. เมื่อจบการแข่งขัน ฝ่ายใดทำแต้มได้มากกว่าเป็นฝ่ายชนะ แต่ถ้าเสมอกันก็ต้องเล่นต่อจนกว่าจะมีฝ่ายใดทำแต้มได้

          นอกจากนี้ ดร.ไนสมิธ ยังเป็นผู้เริ่มผลักดันบาสเกตบอลให้เป็นกีฬาระดับมหาวิทยาลัย จนสามารถตั้งเป็นลีกระดับมหาวิทยาลัยได้ในปี ค.ศ. 1938 (พ.ศ. 2481) ต่อมา ค.ศ. 1946 (พ.ศ. 2489) บาสเกตบอลเอ็นบีเอ จึงได้ถือกำเนิดขึ้น ซึ่งถือเป็นการแข่งขันระดับอาชีพที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน

กฎและกติกาบาสเกตบอล 


สนามบาสเกตบอล

สนามที่ใช้ในการแข่งขัน


          มีขนาดทั้งหมด 28 คูณ 15 เมตร ขณะที่ในกรอบเขตโทษมีรัศมีเมื่อนับจากแป้นบาสยาว 6.25 เมตร

ลูกบาสเกตบอล

ลูกบาสเกตบอล


          มีเส้นรอบวงประมาณ 30 นิ้ว (76 เซนติเมตร) มีน้ำหนักประมาณ 1 ปอนด์ (600 กรัม)

แป้นบาสเกตบอลและห่วง


          10 ฟุต (3.05 เมตร) เมื่อนับจากพื้นไปถึงขอบห่วง และตัวแป้นนี้จะถัดเข้ามาจากเส้นหลัง 4 ฟุต (1.2 เมตร)

จำนวนผู้เล่น


          มีผู้เล่นฝั่งละ 5 คน ส่วนตัวสำรองสูงสุดทีมละ 7 คน ซึ่งการเปลี่ยนตัวนั้นสามารถเปลี่ยนตัวได้ไม่จำกัด โดยจะเปลี่ยนได้ในช่วงที่บอลตายเท่านั้น

บาสเกตบอล

วิธีการและข้อบังคับในการเล่น


          -  ต้องเคลื่อนที่ลูกบอลไปข้างหน้าด้วยการเลี้ยงลูกด้วยมือข้างเดียว คือให้ลูกกระเด้งพื้นขณะที่วิ่ง และมือจะต้องอยู่เหนือลูกเท่านั้น หากอยู่ในองศาอื่นถือว่าเป็นการถือลูก นอกจากนี้ยังห้ามเตะหรือชกลูกบาสเกตบอลอีกด้วย

          -  หากนำบอลขึ้นมาอยู่ในแดนฝั่งตรงข้ามได้แล้ว ห้ามส่งลูกกลับเข้าแดนตัวเอง

          -  ภายใน 8 วินาทีที่ได้บอล ผู้เล่นจะต้องนำลูกเข้าสู่แดนฝ่ายตรงข้ามให้ได้ และต้องชู้ตภายใน 24 วินาที

          -  หากผู้เล่นคนใดคนหนึ่งฟาวล์รวม 5 ครั้ง ภายในเกม ผู้เล่นคนนั้นจะไม่สามารถเล่นเกมนั้นได้อีก ต้องออกจากสนาม เรียกว่า (foul out)

เวลาที่ใช้ในการแข่งขัน


          แบ่งเป็น 4 ควอเตอร์ต่อเกม ควอเตอร์ละ 10-12 นาที แล้วแต่ประเภทของการแข่งขัน ขณะที่การแข่งขันในช่วงต่อเวลาจะมีความยาว 5 นาที ทั้งนี้ การจับเวลาของบาสเกตบอลจะหยุดเวลาเมื่อบอลตาย ดังนั้น การแข่งขันบาสเกตบอลจึงใช้เวลามากกว่า 50 นาทีต่อเกมการแข่งขัน

การนับคะแนน


          หลักการเล่นที่สำคัญที่สุดของกีฬาบาสเกตบอล นั่นคือ การทำแต้มด้วยการโยนลูกบอลเข้าห่วงของคู่แข่งให้มากกว่า และพยายามป้องกันไม่ให้คู่แข่งโยนลูกบอลเข้าห่วงของตัวเอง โดยที่การโยนลูกบอลเข้าห่วงในพื้นที่นอกเขตโทษจะได้ 3 คะแนน, ในเขตโทษได้ 2 คะแนน และจุดโทษได้ 1 คะแนน

          จากข้อมูลทั้งหมดนี้ เป็นประวัติความเป็นมาและกติกาการเล่นคร่าว ๆ ของบาสเกตบอล อย่างไรก็ตาม ด้วยกฎกติกาเช่นนี้เอง ทำให้กีฬาบาสเกตบอลมีความสนุกสนาน เพราะแต่ละทีมต้องเปิดเกมรุกใส่กันตลอด ทำให้คนดูต้องรับชมแบบตาไม่กะพริบกันเลยทีเดียว


ขอบคุณข้อมูลจาก

educatepark.com
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ประวัติบาสเกตบอล กติกาบาสเกตบอล อัปเดตล่าสุด 10 เมษายน 2567 เวลา 16:31:02 1,373,096 อ่าน
TOP
x close