
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
บช.น. เดินหน้ามาตรการยกรถในที่ห้ามทั่วกรุงแทนการล็อกล้อ เริ่ม 7 มี.ค. 57 พร้อมกับด่านตรวจเข้มวินัยจราจรเน้นความผิดจราจร 13 ข้อหาหลัก ที่ผู้ใช้รถใช้ถนนมักจะกระทำผิดมากที่สุด
เมื่อวานนี้ (5 มีนาคม 2557) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานด้านการจราจร กล่าวว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินหน้ามาตรการยกรถแทนล็อกล้อ ยกจริง จับจริง ระยะ 3 ขยายวงกว้างครอบคลุมพื้นที่ บก.น. 1- 9 และเปิดตัวโครงการสุภาพบุรุษจราจร วันที่ 7 มีนาคมนี้ ตามยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาแก้ไขปัญหาจราจรติดขัด และลดอุบัติเหตุในปีแห่งการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้ ยังรวมถึงการปฏิบัตินิยามสุภาพบุรุษจราจรผู้ที่มีหน้าที่จัดการและบริการการจราจรบนท้องถนนและควบคุมบังคับใช้กฎหมายด้วยความสุภาพอ่อนโยนให้เกิดความคล่องตัว และปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน โดยมาตรการยกรถระยะ 3 จะดำเนินการอย่างจริงจังต่อเนื่อง 88 สน. ทุกกองบังคับการ แต่เนื่องจากติดปัญหาการชุมนุมทางการเมืองจึงต้องยกเว้นใน 3 พื้นที่ บก.น. 1, 2 และ 6
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า การลดปัญหาการจราจรติดขัดและลดอุบัติเหตุจราจรบนท้องถนนเป็นนโยบายหลักของ บช.น.ที่ต้องดำเนินการเร่งด่วนให้ได้ผลชัดเจนเป็นรูปธรรม โดยสั่งการให้ฝ่ายจราจรบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังเด็ดขาด โดยเฉพาะการฝ่าฝืนจอดในที่ห้ามจอด
โดยให้ดำเนินการควบคู่ไปพร้อมกับด่านตรวจเข้มวินัยจราจรเน้นความผิดจราจร 13 ข้อหาหลัก ซึ่งเป็นข้อหาที่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนมักจะกระทำผิดมากที่สุด และเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดเข้มข้นให้ประชาชนเกิดความเกรงกลัวไม่กล้ากระทำผิดพร้อมเดินหน้าใช้เครื่องออกใบสั่งออนไลน์อิเล็กทรอนิกส์ในเดือนมีนาคมซึ่งเจ้าหน้าที่จะจับปรับผู้กระทำความผิด 13 ข้อหา ดังนี้













อย่างไรก็ตามเบื้องต้นพบว่า ภาพรวมการปฏิบัติรอบ 1 เดือนที่ผ่านมาได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
