พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง
พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยันไม่ได้คุกคามบีบคั้นหรือทำร้ายร่างกายชายชุดดำให้รับสารภาพ พร้อมขอให้ กริชสุดา คุณะแสน บินกลับมาต่อสู้คดีที่ประเทศไทยหากไม่ได้กระทำผิด
จากกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมด้วย นางธิดา ถาวรเศรษฐ และนายแพทย์เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้เดินทางเข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับชายชุดดำอย่างเป็นธรรมตามที่ได้รายงานข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด (18 กันยายน 2557) พล.ต.อ. สมยศ ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ที่ผ่านมาในการดำเนินคดีชายชุดดำไม่เคยพาดพิงถึงกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลัง เจ้าหน้าที่ได้ทำตามพยานหลักฐานและไม่เคยกล่าวว่ากลุ่มชายชุดดำที่นำมาแถลงเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ พล.อ. ร่มเกล้า ธุวธรรม เพียงแต่จับกุมในข้อหาครอบครอบอาวุธสงครามเท่านั้น เนื่องจากจุดเกิดเหตุก็อยู่คนละจุดกับที่ พล.อ. ร่มเกล้า เสียชีวิต จึงต้องแจ้งทำความเข้าใจกับทางกลุ่ม นปช. แต่ทั้งนี้หากการสอบสวนขยายผลว่ามีความเชื่อมโยงจึงจะดำเนินการ โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่นิยมการคุกคามบีบคั้นหรือทำร้ายร่างกายผู้ถูกกล่าวหาให้รับสารภาพ และพร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
พล.ต.อ. สมยศ กล่าวต่อว่า สำหรับคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมปี 2553 ส่วนใหญ่จะอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ทางสำนักงานแห่งชาติจะดูคดีที่เกี่ยวข้องกับอาวุธสงครามเท่านั้น ถ้าคดีใดมีส่วนเกี่ยวข้องดีเอสไอจะขอโอนสำนวนไป ส่วนกรณีของ น.ส.กริชสุดา คุณะแสน ที่เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับไปก่อนหน้านี้นั้น หาก น.ส.กริชสุดา ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ขอให้บินกลับมาต่อสู้คดีที่ประเทศไทย
ด้านนายจตุพร บอกว่า รู้สึกพอใจในการชี้แจงและเข้าใจการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมขอยืนยันว่า ไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อปกป้อง อีกทั้งไม่เคยรู้จักกับกลุ่มชายชุดดำด้วย และที่ออกมาในครั้งนี้มั่นใจว่าจะไม่สร้างความขัดแย้ง เพราะออกมาตามกรอบกติกาไม่เป็นการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
