

ดราม่ามวยหญิงไทย กรรมการให้เสมอ 2 เสียง ไทยชนะ 1 เสียง แต่จีนเข้ารอบ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก กองประชาสัมพันธ์ การกีฬาแห่งประเทศไทย
เป็นงง ! มวยหญิงไทยพบนักชกจีน 27 ก.ย. 57 กรรมการให้ชนะ 1 เสียง เสมอ 2 เสียง แต่สุดท้ายกรรมการชูมือข้างนักชกจีน พ่ายไปอย่างน่าเสียดาย ด้านนักชกมึนคิดคะแนนอย่างไร
เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทัพนักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย ลงแข่งขันศึกเอเชียนเกมส์ 2014 ทั้งหมด 3 คน ได้แก่
- มุก โสภิดา สะทุมรัมย์ รุ่น 51 กิโลกรัม
- หญิง ทัศมาลี ทองจันทร์ เหรียญเงินเอเชียนเกมส์กว่างโจว ประเทศจีน ครั้งที่แล้ว รุ่น 60 กิโลกรัม
- อภิเชษฐ์ แสงสิทธิ์
โดย มุก โสภิดา นักชกสาวไทยประเดิมขึ้นสังเวียนเป็นคนแรก มุมแดง ขึ้นต่อยกับ ซี ไห่ จวน นักชกจากจีน
ทั้งนี้ตลอดการแข่งขันทั้ง 4 ยก มุก โสภิดา เดินหน้าไล่ต่อยเข้าเป้าอย่างจังเกือบทุกยก ทำให้ทั้งสต๊าฟโค้ชรวมถึงแฟนมวยชาวไทยที่ตามเชียร์ต่างมั่นใจว่า มุก โสภิดา จะเอาชนะนักชกจีนจนสามารถเข้ารอบต่อไป แต่ปรากฏว่าหลังจากประกาศผล กรรมการชาวฟินแลนด์ให้ มุก โสภิดา ชนะ 39-37, กรรมการชาวตูนีเซีย ให้ เสมอ 38-38 และกรรมการชาวฟิลิปปินส์ให้เสมอกัน 38-38 แต่โฆษกสนามประกาศให้นักชกจีนเป็นฝ่ายชนะ ท่ามกลางความสับสนมึนงงกับการตัดสินของทางเจ้าภาพครั้งนี้
อย่างไรก็ดี ทางสต๊าฟโค้ชต่างออกมาโวยกรรมการฝ่ายเทคนิค แต่กรรมการไม่พอใจพร้อมกับโบกมือไล่ให้ออกไป ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับสต๊าฟโค้ชเป็นอย่างมาก จากนั้นทั้งหมดก็รีบดำเนินการประท้วง ซึ่งต้องทำภายใน 30 นาที แต่ทางเจ้าภาพประสานงานไม่เป็นระบบ ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่าต้องแสดงการประท้วงที่ใด
ทางด้าน มุก โสภิดา ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้เธอชกตามที่โค้ชสั่ง ไม่มีอาการเหนื่อย และเดินหน้าชกคู่ต่อสู้อย่างต่อเนื่อง โดยเธอมั่นใจว่า ยกที่ 1 และยกที่ 2 เธอต่อยถูกนักชกจีนหลายหมัด ส่วนยกที่ 3 และยกที่ 4 ก็ผลัดกันโดนอย่างสูสี และคิดว่าคะแนนสะสมที่เธอทำได้ในช่วงยกแรก ๆ น่าจะเพียงพอที่จะคว้าชัย แต่เมื่อผลออกมาเธอก็ท้อมาก ไม่รู้ว่าใช้วิธีในการตัดสินอย่างไร ทั้งนี้เธอก็ต้องขอโทษแฟนกีฬาชาวไทยด้วย ที่ไม่สามารถเก็บชัยชนะในครั้งนี้ได้
ขณะที่ แก้ว พงษ์ประยูร ฮีโร่โอลิมปิกลอนดอนเกมส์ 2012 ในฐานะผ่านเทคนิค เผยว่า ตนเห็นได้ชัดว่ามุกต่อยได้เข้าเป้ากว่า เหนือชั้นกว่า แต่ผลที่ออกมาต่างจากความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง ไม่รู้ว่ากรรมการให้คะแนนครั้งนี้ใช้มาตรฐานอะไรวัด บางครั้งนักชกถูกนับผลออกมาชนะทั้ง ๆ ที่ยกนั้นได้ 10-9 ดูแล้วค่อนข้างแปลกใจกับการตัดสินเหมือนกัน ซึ่งหลังจากนี้คงต้องกำชับนักชกไทยให้ชกแบบไฟเตอร์ ชกแบบให้ไว และออกหมัดให้หนัก ๆ ให้มากกว่าเดิม
สำหรับกฎการให้คะแนนของ สหพันธ์มวยนานาชาติ (ไอบา) มีการปรับเปลี่ยน โดยเฉพาะการให้คะแนน ซึ่งในส่วนของ มุก โสภิดา นั้น กรรมการชาวฟินแลนด์ให้คะแนนนักชกไทยชนะนักชกจีน หนึ่งเสียง และกรรมการชาวตูนีเซีย และกรรมการชาวฟิลิปปินส์ ให้ทั้งคู่เสมอกัน กฎใหม่ให้ยึดเสียงข้างมาก ซึ่งต้องไปยึดเสียงที่เสมอกัน ทำให้ทั้งสองเสมอกัน แต่สุดท้ายให้กรรมการผู้ห้ามบนเวทีเป็นผู้ตัดสินว่า จะยกมือให้ใครเป็นผู้ชนะ ซึ่งกรรมการชาวอุซเบกิสถาน ได้ชูมือให้นักชกจีนเป็นฝ่ายชนะไทยในที่สุด


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







