หญิงอังกฤษเสียชีวิต เพราะไปหาหมอกว่า 50 ครั้ง หมอไม่รู้เป็นมะเร็ง
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก malaysia-chronicle
หญิงอังกฤษเสียชีวิต เพราะไปหาหมอกว่า 50 ครั้ง ตลอด 6 ปี แต่หมอไม่รู้เป็นมะเร็ง ด้านน้องสาวชี้แพทย์ไม่ใส่ใจ-ประมาท เตรียมร้องเรียนเอาเรื่องถึงที่สุด
วันที่ 20 ตุลาคม 2557 เว็บไซต์เดลี่เมล มีรายงานว่า ครอบครัวของคุณแม่ลูกสองรายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวสุดสลด เมื่อพวกเขาต้องเสีย ลุยซา เกียร์รา วัย 35 ปี จากเมืองเคนท์ ประเทศอังกฤษ ไปเนื่องจากความประมาทของแพทย์ที่ไม่ให้การตรวจวินิจฉัยเธออย่างเหมาะสมและทันท่วงที จนกว่าจะรู้ตัวก็สายเกินกว่าจะรักษา เพราะมะเร็งได้แพร่กระจายไปทั่วร่างของเธอเสียแล้ว
รายงานระบุว่า ลุยซา คุณแม่ยังสาวรายนี้จากโลกไปด้วยวัยเพียง 35 ปี เนื่องจากโรคมะเร็งปากมดลูก ทั้ง ๆ ที่เธอเคยไปพบแพทย์มามากกว่า 50 ครั้งภายใน 6 ปี แต่แพทย์กลับตรวจไม่พบต้นเหตุของโรคที่แท้จริง โดยเมื่อ 6 ปี ก่อน ลุยซาที่มีอาการปวดหลังอย่างรุนแรง ปวดศีรษะ และมีเลือดออกผิดปกติ ได้ไปพบแพทย์ที่ศูนย์การแพทย์ City Way Surgery ซึ่งอยู่ในเมืองของเธอ แต่กลับได้รับการวินิจฉัยว่าอาการดังกล่าวเกิดจากความเครียด และการเริ่มเข้าสู่วัยทอง ก่อนที่แพทย์จะจ่ายยาพาราเซตามอลให้แก่เธอ
เป็นเวลานานถึง 3 ปี ที่เธอยังคงวนเวียนกลับไปพบแพทย์ครั้งแล้วครั้งเล่า เนื่องจากอาการปวดที่แย่ลงเรื่อย ๆ แต่ก็ยังได้รับการวินิจฉัยเช่นเดิม ครอบครัวของเธอเผยว่าตลอดเวลาเหล่านั้น ลุยซาไม่เคยได้รับการตรวจแปปสเมียร์ เพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูก แม้ผู้หญิงที่อายุเกิน 25 ปีมีโอกาสที่จะเป็นโรคนี้ก็ตาม
กระทั่งปี 2553 ในขณะที่ลุยซามีอายุ 31 ปี เธอก็ยอมจ่ายเงิน 300 ปอนด์ (ราว 15,500 บาท) เพื่อเข้ารับคำปรึกษาที่คลินิกเอกชน และในตอนนั้นเองที่เธอพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งปากมดลูก ลุยซาเริ่มเข้ารับการบำบัดด้วยยาและทำเคมีบำบัดในเดือนมิถุนายน 2554 กระทั่งเดือนธันวาคมปีเดียวกันมะเร็งในตัวเธอก็หายไป
อย่างไรก็ตามลุยซาต้องกลับไปยัง City Way Surgery เมื่อเริ่มมีอาการปวดหลังอีกครั้ง ลุยซาได้พบกับแพทย์คนเดิมที่เพิกเฉยต่ออาการของเธอ แล้วเพียงแค่จ่ายมอร์ฟีนมาเพื่อไล่อาการเจ็บปวดแก่เธอเท่านั้น และในตอนที่ลุยซาเข้ารับการตรวจร่างกายในอีก 10 เดือนต่อมา แพทย์ก็ได้แจ้งให้ทราบว่าเธอมีเนื้องอกขนาดเท่าลูกเทนนิสที่ต่อมน้ำเหลือง มีมะเร็งที่ลำคอและลำไส้ ซึ่งนั่นก็สายเกินไปแล้ว เธอเสียชีวิตลงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ในขณะนี้ทางครอบครัวของลุยซากำลังอยู่ระหว่างการร้องเรียนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเหตุดังกล่าวจะได้รับการสอบสวนโดย NHS Trust ในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ ทางด้าน ไดอานา น้องสาวของลุยซาเผยว่า พี่สาวของเธออาจจะรอดชีวิต หากแพทย์ทำหน้าที่ของเขาได้เร็วกว่านี้ เธอเสียใจที่สูญเสียพี่สาวไป และการได้รู้ว่าลุยซาอาจจไม่ตายหากแพทย์รักษาเธออย่างจริงจัง ก็ทำให้เธอโกรธมาก
"พวกเขามีโอกาสมากกว่า 50 ครั้ง ตลอด 6 ปี ที่จะช่วยเธอ แต่พวกเขาไม่เคยทำมันเลย" ไดอานา กล่าว
นอกจากนี้ เทเรซ่า วัย 43 ปี ป้าของลุยซายังเล่าวว่า เธอเคยปวดท้องจนต้องไปพบแพทย์ที่ศูนย์การแพทย์ดังกล่าว แต่ก็ได้รับเพียงวิตามินกลับมาเท่านั้น เธอต้องขอร้องแพทย์เป็นเวลาถึง 6 เดือนให้ทำการรักษา ก่อนจะถูกพบว่ามีนิ่วในถุงน้ำดีและได้รับการผ่าตัดออกในที่สุด แต่อาการของเธอก็ยังไม่ดีขึ้น จนได้ทราบในเวลาต่อมาว่าเธอมีก้อนในเต้านม ซึ่งนั่นทำให้เธอตัดสินใจย้ายโรงพยาบาล ก่อนได้ทราบในที่สุดว่าตัวเองเป็นมะเร็งเต้านม และยังคงต้องเข้ารับการรักษาอยู่
ทั้งนี้ไดอานาเผยว่า เธอเชื่อว่าพี่สาวและป้าของเธอไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสมจากแพทย์ เพียงเพราะว่าค่าทำ MRI และ CT scans นั้นแพงเกินกว่าที่คนไข้จะจ่ายเอง และเธอก็จะขอต่อสู้อย่างถึงที่สุด เพื่อทวงความยุติธรรมให้แก่พี่สาวของเธอ
