นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ สั่งปลดทุกตำแหน่ง อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ล่อลวง นศ. ปี 1 มีเพศสัมพันธ์แลกเกรด และห้ามเข้าร่วมทุกกิจกรรมที่จังหวัดจัดขึ้น
สืบเนื่องจากกรณีที่อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ก่อเหตุล่อลวง น.ส.เอ (นามสมมติ) นักศึกษาชั้นปีที่ 1 เข้ารีสอร์ทเพื่อหวังมีเพศสัมพันธ์แลกเกรดโดยไม่ต้องเข้าเรียน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกช่วยเหลือออกมาได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
คืบหน้าล่าสุด วันนี้ (2 ธันวาคม 2557) นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า หลังจากที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวดังกล่าวและมีหลักฐานปรากฏชัดเจนแล้วนั้น ตนเห็นว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียต่อคุณธรรมและจริยธรรมอย่างมาก เนื่องจากอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษเป็นอาจารย์ที่จะต้องสอนคนไปเป็นครู เป็นแหล่งผลิตครูเพื่อไปสอนนักเรียน แต่อาจารย์คนดังกล่าวกลับมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับการเป็นอาจารย์ที่ดี พยายามมีเพศสัมพันธ์กับนักศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม
ทั้งนี้เพื่อไม่ให้อาจารย์คนดังกล่าวเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางสังคมทุกอย่างของทุกโครงการที่ จ.ศรีสะเกษ ได้ดำเนินการ ดังนั้นตนจึงได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการทุกส่วนของ จ.ศรีสะเกษ มาประชุม และสั่งการให้ปลดอาจารย์ ฉ ออกจากการเป็นกรรมการทุกตำแหน่ง ทุกคณะของ จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมทางคุณธรรมและจริยธรรมดังกล่าว และไม่ให้ทุกส่วนราชการเสนอแต่งตั้งอาจารย์รายนี้เข้ามาเป็นกรรมการและมีส่วนร่วมในกิจกรรมทุกอย่างที่ จ.ศรีสะเกษ จัดขึ้นอย่างเด็ดขาด
ด้าน นายวราวิทย์ เนตรพระ นายกสโมสรอาจารย์และเจ้าหน้าที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการที่ ผศ.ดร.ประกาศิต อานุภาพแสนยากร อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยกับ อาจารย์ ฉ โดยได้เชิญตนและผู้ที่เกี่ยวข้องไปให้ปากคำในฐานะพยานแล้วนั้น ตนเห็นว่าการสอบสวนดังกล่าว มีหลักฐานพยานทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุ คือ คลิปข่าวและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปให้การช่วยเหลือนักศึกษาร่วมกับตน ซึ่งเป็นหลักฐานพยานที่ชัดเจนมาก ตนจึงขอวอนไปยังคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ให้ทำการสอบสวนอย่างตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นด้วย เพราะว่าเรื่องนี้กระทบต่อภาพลักษณ์ที่ดีงามของมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษเป็นอย่างมาก หากผลการสอบสวนออกมาเป็นมวยล้มต้มคนดู และขัดต่อความรู้สึกของสังคมและประชาชนทั้งประเทศ อาจจะเป็นผลด้านลบกับการบริหารงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษเป็นอย่างมาก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
