สวัสดีวันเสาร์ครับท่านผู้อ่าน ผมขอแสดงความยินดีกับทีมแบดมินตันคู่ผสมของไทย นำโดยคุณสราลีย์ ทุ่งทองคำ กับคุณสุดเขต ประภากมล ที่ได้จารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นมือหนึ่งของโลก (โดยทีมผสมของจีนเป็นที่ 2) และฟุตบอลไทย (ทีมอันดับที่ 120 ของโลกจากการจัดของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ FIFA) ที่สามารถเอาชนะทีมจีน (ทีมอันดับที่ 73) 1-0 จากการพังประตูของคุณพิพัฒน์ ต้นกันยา ชัยชนะของ 2 ทีมกีฬาไทยนี้สมควรได้รับเสียงปรบมือ สำหรับทีมฟุตบอลไทย ชัยชนะเหนือจีนครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี และแน่นอนชัยชนะจากนัดนี้ย่อม กระตุ้นขวัญ และกำลังใจ ให้กับผู้เล่นทีมชาติอย่างไม่ต้องสงสัย ในประโยคภาษาอังกฤษเราจะพูดว่า
Beating China1-0is a morale-boosting win for Thailand บีท ทิ่ง ไช้ หน่า วัน-นิล อิส เอ หม่อ แรล บูส ติ่ง วิน ฝ่อ ไท้ แหล่น ชัยชนะ 1-0 เหนือจีน เปรียบเสมือน การกระตุ้นขวัญ และ กำลังใจ ต่อทีมชาติไทย
มีน้อง ๆ ถามผมว่าทำไมเดวิด เบคแฮม จึงเป็นฮีโร่ในดวงใจของหลาย ๆ คน อาจเป็นเพราะข่าวฉาวเกี่ยวกับตัวเขา ไม่ค่อยปรากฏในสื่อเลย เรื่องแฟชั่นก็เป็นอีกเหตุผลนึง โดยเฉพาะทรงผม หลายคนกล่าวเหน็บ เดวิด ว่าเปลี่ยนทรงผมปีนึง บ่อยกว่าคนธรรมดาเปลี่ยนตลอดชีวิตเสียอีก เรื่องทรงผมเนี่ยล่ะครับ กลายเป็นเรื่องฮา ๆ ที่ผมอยากมาเล่าสู่กันฟัง
เหตุเกิดขึ้นในงานประกาศผลรางวัล Sport Industry Awards ที่ประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ทั้งเดวิด และ วิคท้อเรีย ได้จ้าง เบน คุก สไตลิสต์ชื่อดังมาเซตผมให้ โดยเฉพาะ เดวิด เสียเงินค่าจัดทรง สูงถึง 80,520 บาททีเดียว กับทรงผมย้อนยุคไป 60 ปีที่สร้างความประหลาดใจต่อผู้ร่วมงาน มีทั้งเสียงชื่นชม และล้อเลียน ทั้งคู่เข้างานตอน 2 ทุ่ม
งานผ่านไปครึ่งทาง เดวิด ก็รู้ตัวว่าเสียงล้อเลียนคงมีเหตุผลที่ฟังขึ้นแน่เลย หลังสำรวจตรวจสอบทรงผมตัวเอง เขาถึงกับอุทานว่า
