โครงการคีรีมายา ส่อแววเป็นคดีแพ่ง หลังหลักฐานชี้ไม่มีเจตนาบุกรุก พร้อมแจ้งความเอาผิด เจ้าของบ้าน 3 หลัง บุกรุกที่ดิน ส.ป.ก. ใกล้ทางขึ้นอุทยานเขาใหญ่คาดฝีมือนายช่างรังวัด พร้อมส่งเรื่องตั้งคณะกรรมการสอบสวน
เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2558 พ.ต.อ. บัณฑิต เส็งประชา ผู้กำกับการ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจาก พ.ต.อ. ดุษฏี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.อ. สมหมาย บุษบา หัวหน้าคณะทำงานเพื่อความมั่นคงกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 ตำรวจภูธรภาค 3 และอีกหลายหน่วยงาน ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่ ส.ป.ก. ที่เจ้าหน้าที่รัฐนำไปออกเอกสารสิทธิ์ โครงการคีรีมายา นั้น ล่าสุดนายสุนทร กัณหาจันทร์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า นม.1 (ปากช่อง) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ได้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของบ้าน 3 หลัง ในพื้นที่กว่า 7 ไร่ ใกล้ทางขึ้นเขาใหญ่แล้ว เนื่องจากพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีลักษณะลาดชัน ซึ่งเป็นพื้นที่ของ ส.ป.ก.ที่ยังไม่ได้ทำการจัดสรรให้ใครและก็ไม่สามารถจัดสรรให้ผู้ใดได้ โดยเชื่อว่าอาจเป็นบ้านของนายช่างรังวัด ส.ป.ก.นครราชสีมา
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคำร้องทุกข์คดีอาญาดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว โดยบันทึกของเจ้าหน้าทราบว่ามีบ้านหลังดังกล่าวสร้างรุกล้ำเขตป่าไม้ และ ส.ป.ก. นอกจากนี้นายช่างรังวัดรายนี้ยังใช้ชื่อสามี นำ ส.ค.1 เลขที่ 19 หมู่ 4 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จำนวน 30 ไร่ ไปออกโฉนดทับที่ดิน ส.ป.ก. มากกว่า 130 ไร่ ขณะเดียวกันในวันที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบได้มีบุคคลนำเอกสาร ภบท.5 มาแสดงว่าเป็นเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องตรวจสอบให้ละเอียด ส่วนกรณีของคีรีมายานั้น คาดว่าขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงกำลังรวบรวมหลักฐานต่างๆ ก่อนที่จะเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งในขณะนี้ไม่มีพบว่ามีหน่วยงานมาร้องทุกข์แต่อย่างใด
ด้านนายชำนาญ กลิ่นจันทร์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงกรณีโครงการคีรีมายาที่มีการออกโฉนดทับพื้นที่ ส.ป.ก.จำนวน 644 ไร่ ว่า เบื้องต้นจะมีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ว่าได้มาอย่างไรถูกต้องหรือไม่ จากนั้น ส.ป.ก. จึงจะเข้าไปดำเนินการ ส่วนกรณีที่พบว่าเจ้าหน้าที่ของ ส.ป.ก. มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการออกโฉนดเกินจริงและรุกล้ำพื้นที่ ส.ป.ก. นั้น ขณะนี้ได้มีการรายงานให้ทางส่วนกลางพิจารณาเอาผิดทางวินัยแล้ว
ขณะที่ พล.ต.ต. ธเนษฐ สุนทรสุข รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวเพิ่มเติมกรณีคีรีมายาว่า เรื่องนี้จะต้องพิจารณาว่าโครงการดังกล่าวมีเจตนาสร้างรุกล้ำเขตป่าไม้หรือไม่ เนื่องจากการพิจารณาในคดีอาญาว่าเป็นผู้กระทำผิดหรือไม่นั้นจะดูที่เจตนาเป็นหลัก ซึ่งจากข้อมูลในขณะนี้นั้นระบุว่าทางโครงการดังกล่าวได้ซื้อที่ดินมาจากภาครัฐ และไม่มีเจตนาในการบุกรุก อย่างไรก็ตาม อาจจะมีรายละเอียดบางที่พบว่ามีความผิด เช่น เรื่องการถมหรือเปลี่ยนแปลงลำราง และปิดกั้นทางสาธารณะ ซึ่งเป็นคดีแพ่งที่จะต้องฟ้องร้อง หรือให้ทางโครงการแก้ไข อาจไม่ใช่คดีอาญา ซึ่งจะมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งเพื่อหารือแนวทางการดำเนินการคดีดังกล่าวต่อไป
เกาะติด ข่าวโบนันซ่า เขาใหญ่ แบบอัพเดททั้งหมด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







