x close

ภัยแล้งส่อแวววิกฤตหนัก เตรียมขุดเจาะน้ำบาดาล 269 จุด

เขื่อนน้ำแห้ง

          ส่อแววภัยแล้งหนักสุดในรอบ 10 กว่าปี เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนลําตะคอง เขื่อนเจ้าพระยา ระดับน้ำลดลงอย่างมาก เตรียมขุดเจาะน้ำบาดาล 269 จุด ต้านภัยแล้ง ขณะที่ ครม. เร่งประชุมหารือการแก้ปัญหาภัยแล้งวันนี้ (24 มิ.ย.58)


          วันนี้ (24 มิถุนายน 2558) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานสถานการณ์น่าเป็นห่วงของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ว่าระดับน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ขณะนี้ มีน้ำอยู่ประมาณ 77.40 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 7.6% ของความจุของอ่างเก็บน้ำเท่านั้น และจะอยู่ได้ถึงประมาณปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ภัยแล้งหนักที่สุดในรอบ 10 ปี และหากยังไม่มีปริมาณน้ำฝนเพิ่มลงไปในอ่างเก็บน้ำคาดว่าน้ำจะหมดเขื่อนอย่างแน่นอน

เขื่อนน้ำแห้ง

          ทั้งนี้บริเวณจุดชมวิวของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่เคยมีน้ำสูงประมาณ 10 เมตร ขณะนี้ระดับน้ำลดลงจนสามารถมองเห็นผิวดิน รวมทั้งซากปรักหักพังที่เคยเป็นหมู่บ้านเก่าก่อนสร้างเขื่อนก็โผล่ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด โดยที่ทางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ออกมายอมรับว่า การระบายน้ำเพื่อการชลประทานอาจจะสามารถหล่อเลี้ยงได้เฉพาะส่วนของ จ.ลพบุรีตอนบน คือ อ.พัฒนานิคม, อ.ท่าหลวง, ชัยบาดาล และ อ.ลำสนธิ ส่วนที่อยู่นอกเขตระบบชลประทานนั้นจะได้รับความเสียหายบ้าง

          อีกทั้งในส่วนของพื้นที่ภาคอีสานอย่างเขื่อนลําตะคอง ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ก็ประสบปัญหาหนักเช่นกัน เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนไม่เพียงพอที่จะนำเอาไปทำน้ำประปา รวมทั้งระดับน้ำที่ลดลงทำให้มองเห็นถนนมิตรภาพสายเก่าที่โผล่ขึ้นมากลางอ่างเก็บน้ำ ทำให้ชาวบ้านสามารถนำรถมาขับขี่สัญจรได้

          ขณะที่ทางเขื่อนเจ้าพระยาซึ่งเป็นเขื่อนทดน้ำขนาดใหญ่ใน ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ขณะนี้มีระดับน้ำอยู่ที่ 13.85 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งต่ำกว่าระดับน้ำที่เหมาะสมคือ 16.5 เมตร ทำให้เขื่อนมีระดับน้ำต่ำที่สุดในรอบ 30 ปี และเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องเร่งแก้ปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะการขุดเจาะน้ำบาดาล

เขื่อนน้ำแห้ง

          ทางด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ปริมาณน้ำในเขื่อนยังลดลงต่อเนื่อง โดยมีระดับน้ำในเขื่อนล่าสุดเหลือน้ำเพียง 127.67 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณน้ำที่สามารถรับได้ 939 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเพียง 13.60 % จากความจุของเขื่อน มีน้ำที่สามารถใช้การได้เพียง 84.67 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 9.02 % เท่านั้น โดย นายสมหวัง ปานสุขสาร ผู้อำนวยการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน คาดว่าปริมาณในเขื่อนแควน้อยจะเพียงพอให้สามารถใช้การได้อีกเพียง 48 วันเท่านั้น

          ทางด้าน พล.อ. ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยแล้งนี้ว่า เบื้องต้นทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะใช้งบที่เหลือของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จำนวน 51 ล้านบาท นำไปขุดเจาะน้ำบาดาลให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะในที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก โดยวันที่ 24 มิถุนายนนี้ จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธาน ให้รับทราบและพิจารณาและจะดำเนินการทันที

          สำหรับการขุดเจาะน้ำบาดาล ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันขุดเจาะ โดยเบื้องต้นมีพื้นที่ที่เหมาะสมสามารถขุดเจาะได้ทันที 269 แห่ง ซึ่งต้องมีการประเมินสถานการณ์ร่วมกันก่อนและการขุดเจาะน้ำบาดาลก็เป็นทางหนึ่งในการแก้ปัญหาภัยแล้ง

เขื่อนน้ำแห้ง

          อีกทั้ง นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ครม.เศรษฐกิจจะเสนอมาตรการแก้ปัญหาภัยแล้งรองรับระยะสั้น ตั้งแต่การปลูกพืชทดแทนรวมถึงเงินช่วยเหลือเกษตรกร ชาวไร่ชาวนา แต่ยอมรับว่าเงินช่วยเหลืออาจไม่มาก เพราะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ไร่ละ 1 พันบาท และจะมีการพิจารณาปรับโครงสร้างการชลประทานใหม่จากเดิมที่เป็นระบบเปิดก็จะปรับเปลี่ยนการจัดการบริหารน้ำใหม่ โดยจะมี พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน


ภาพจาก phitsanulokhotnews.com

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
,phitsanulokhotnews.com




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ภัยแล้งส่อแวววิกฤตหนัก เตรียมขุดเจาะน้ำบาดาล 269 จุด อัปเดตล่าสุด 24 มิถุนายน 2558 เวลา 16:08:25 11,287 อ่าน
TOP