หญิงชราชาวเยอรมันวัย 92 ปี ตายแล้วฟื้น กรีดร้องลั่นหลังตื่นมาพบตัวเองอยู่ในห้องดับจิต แพทย์เจ้าของเคสถูกฟ้องฐานประมาทเลินเล่อ
คำพูดที่มักถูกกล่าวให้ได้ยินอยู่บ่อยครั้งว่า "หากไม่ถึงฆาต ก็ยังไม่ตาย" คงจะใช้ได้จริงสำหรับกรณีของคุณทวดรายนี้ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2558 เว็บไซต์มิเรอร์ เผยเรื่องราวสุดแสนจะเหลือเชื่อจากประเทศเยอรมนีว่า เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีหญิงชราวัย 92 ปีรายหนึ่งป่วยหนักอาศัยอยู่ที่บ้านพัก จากนั้นผู้ดูแลของคุณทวดรายนี้ก็พบว่าเธอไม่หายใจและชีพจรหยุดเต้น ทางแพทย์ที่ตรวจร่างกายจึงได้ระบุว่าเธอเสียชีวิตลงแล้ว
เวลาต่อมาศพของคุณทวดคนดังกล่าวจึงถูกนำไปไว้ที่ห้องดับจิต ในเมืองเบอร์ลินเพื่อรอพิธีฝัง ทว่าจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงเจ้าหน้าที่ห้องดับจิตก็ต้องประหลาดใจเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องดังออกมาจากในห้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปนำศพออกมาจากโลงเย็นเพื่อตรวจสอบ ทันทีที่เขาเปิดซิปถุงศพออกก็ต้องตกใจสุดชีวิตเมื่อเห็นคุณทวดรายนี้จ้องเขม็งมาที่เขา และพบว่าเธอยังไม่ตาย !
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้แพทย์วัย 53 ปีเจ้าของเคสนี้ ถูกทางอัยการของเยอรมันยื่นฟ้องต่อศาลเกลเซนเคียร์เชิน ข้อหาที่เขาประมาทเลินเล่อวินิจฉัยการเสียชีวิตผิดพลาด แต่อย่างไรก็ดีเป็นที่น่าเศร้าใจว่า ถัดจากนั้น 2 วันคุณทวดวัยชรารายนี้สิ้นชีวิตลงด้วยโรคหัวใจ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้แต่อย่างใด
ทั้งนี้ เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นแล้วในประเทศโปแลนด์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนของปีที่ผ่านมา โดยหญิงชราวัย 91 ปี ถูกพบว่ายังมีชีวิตหลังจากถูกระบุว่าเสียชีวิตแล้วถึง 11 ชั่วโมง เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบว่าเธอขยับตัวขณะที่อยู่ในถุงเก็บศพภายในห้องดับจิต และสุดท้ายญาติได้นำเธอกลับไปบ้านเช่นเดิม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล