หญิงชาวจีนทนทุกข์ทรมานกับอาการปวดหัวมาเป็นเวลากว่า 40 ปี ตัดสินใจสแกนสมองแล้วก็ต้องช็อก เมื่อพบเข็มเย็บผ้ายาว 2 นิ้วปักคาอยู่ในกะโหลก แพทย์ระบุว่าเข็มเล่มนี้ฝังอยู่ในหัวมานานถึง 46 ปี
วันที่ 10 กันยายน 2558 เว็บไซต์เดลี่เมล เปิดเผยว่า หญิงแซ่หลิว วัย 48 ปี ชาวมณฑลอานฮุย มีอาการปวดศีรษะมาเป็นระยะเวลานานกว่า 40 ปี และเข้า-ออกโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ แต่ไม่เคยมีแพทย์คนใดรักษาอาการปวดศีรษะได้เลย
จนกระทั่งนางหลิวได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวเป่ยเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากความเจ็บปวดทวีความรุนแรงขึ้นและยังส่งผลให้เธอรู้สึกชาที่ร่างกายบางส่วน เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติในร่างกายของนางหลิวขณะที่กำลังสแกน MRI และมีเสียงเตือนให้ระวังวัตถุโลหะตลอดเวลา
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวนางหลิวให้ทำ CT สแกน และก็ได้พบต้นตอที่แท้จริงของอาการปวดหัว นั่นก็คือ เข็มเย็บผ้า ความยาวกว่า 2 นิ้วที่ฝังอยู่ด้านบนของกะโหลกศีรษะ แพทย์ได้วินิจฉัยและระบุว่า เข็มเล่มนี้ได้ปักคาอยู่ในศีรษะของนางหลิวเป็นเวลาร่วม 46 ปีแล้ว
ด้านนางหลิวเองยังคงฉงนกับสิ่งที่เกิดขึ้นและไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าเหตุใดจึงมีเข็มปักอยู่ภายในศีรษะ แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากอุบัติเหตุตั้งแต่เธอยังเป็นทารกเลยทีเดียว
ทั้งนี้ แพทย์แนะนำให้นางหลิวเข้ารับการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะเพื่อนำวัตถุแปลกปลอมออกมา เพราะเข็มเล่มนี้อาจก่อให้เกิดอันตรายจำพวกเนื้องอกในสมองภายหลังได้ และนางหลิวก็ตกลงที่จะให้ความร่วมมือโดยดี โดยการผ่าตัดเปิดกะโหลกของนางหลิวมีขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (9 กันยายน) แต่ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานผลการผ่าตัดแต่อย่างใด
ภาพจาก sn.people.com
