แฉสนั่น ตำรวจอ้างจับรถหรูชนแล้วหนีไม่ได้ ถามคดีนี้สำคัญตรงไหน ?

          จวกยับ รถสปอร์ตซิ่งชนมอเตอร์ไซค์รับจ้างแล้วหนี ตำรวจตามรถได้แต่อ้างจับคนขับไม่ได้ โซเชียลแฉสนั่น ผกก.สน.วังทองหลาง ถามกลับ "คดีนี้สำคัญตรงไหน ทำไมสื่อต้องให้ความสนใจ"

          กลายมาเป็นคดีชนแล้วหนีที่ได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก สำหรับกรณีที่เฟซบุ๊ก Tueanjai Loeknok ได้นำภาพบันทึกเหตุการณ์ขณะที่รถยนต์คันหนึ่งขับมาด้วยความเร็วและชนรถจักรยานรับจ้างที่มีผู้โดยสารจนล้ม ตัวคนขับมอเตอร์ไซค์ได้รับบาดเจ็บซี่โครงหัก ก่อนจะขับหนีไปอย่างไม่สนใจ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2558 เพื่อวานให้ชาวเน็ตช่วยกันตามหา โดยระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ซอยลาดพร้าว 80


          ทั้งนี้ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวได้ถูกแชร์ต่อออกไปเป็นอย่างมากทั่วโซเชียลเพื่อช่วยกันหาเบาะแสของคนร้าย โดยมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่ารถคันดังกล่าวอาจจะตั้งใจขับชนก็เป็นได้ เพราะดูแล้วไม่มีการชะลอรถ แถมหากคิดจะแซงก็แซงได้ จนในที่สุดก็ได้มีเบาะแสของรถคันที่ก่อเหตุปรากฎขึ้นในเพจ "ตู้ปณ. ข่าว3" เมื่อช่วงวานนี้ (11 กันยายน)

          โดยเพจดังกล่าวระบุว่า หลังจากที่ประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแสในที่สุดตำรวจก็ติดตามรถคันที่ก่อเหตุชนแล้วหนีจนพบ เป็นรถสปอร์ต ยี่ห้อนิสสัน GTR สีดำป้ายแดง ทะเบียน ท-9122 กรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนระบุว่ายังตามตัวคนชนไม่ได้ จึงเป็นที่น่าสนใจว่าแล้วรถคันดังกล่าวมาอยู่ที่ สน.วังทองหลาง ได้อย่างไร  แถมเมื่อนักข่าวสอบถาม ผกก.สน.วังทองหลาง เจ้าตัวก็ถามกลับว่า "คดีนี้มีความพิเศษอย่างไรทำไมสื่อถึงให้ความสนใจ"


          จากสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากจากชาวเน็ต โดยมีหลายคนที่ต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยอมให้เงินมีอำนาจเหนือการทำงานตามกระบวนการยุติธรรม ขอเพียงใช้เงินก็สามารถปิดคดีได้โดยไม่จำเป็นต้องตามคนผิด ขณะที่บางคนยังตั้งข้อสังเกตว่าเผลอ ๆ คนขับรถคันดังกล่าวอาจเป็นตัวผู้กำกับเองก็เป็นได้

          นอกจากนี้ชาวเน็ตยังเข้ามาแสดงความเห็นวิจารณ์คำพูดของตำรวจที่ว่า "คดีนี้มีความพิเศษอย่างไรทำไมสื่อถึงให้ความสนใจ" โดยชี้ว่าหากญาติของตำรวจนายดังกล่าวหรือคนใกล้ชิดเป็นผู้ถูกชน เจ้าตัวก็คงไม่พูดเช่นนี้ ขนาดคนระดับผู้บังคับบัญชายังมีคำพูดและการกระทำเช่นนี้ จึงน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่าบรรดาตำรวจชั้นผู้น้อยที่อยู่ใต้การดูแลก็คงจะไม่ต่างกันเท่าไรนัก

          หลายคนยังชี้ว่า สน. ดังกล่าวมีชื่อเสียงลือลั่นอยู่แล้วว่าเรื่องทำนองนี้ แค่จ่ายเงินก็จบ พร้อมวอนให้ชาวเน็ตช่วยกันแชร์เรื่องดังกล่าวออกไป เพื่อรอดูท่าทีหลังจากนี้ว่าจะมีใครเข้ามาดำเนินการใด ๆ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่


ภาพจาก เฟซบุ๊ก Tueanjai Loeknok, ตู้ปณ. ข่าว3