เมื่อพูดถึงห้องสมุดแล้ว หลายคนมักนึกถึงศูนย์รวมของตู้หนังสือสี่เหลี่ยมเรียงกันเป็นตับในห้องสี่เหลี่ยม พร้อมโต๊ะและเก้าอี้อ่านหนังสือแบบเรียบง่าย เมื่อหันไปทางไหนก็เจอแต่หนังสือเต็มไปหมดจนชวนเครียดกันเลย แต่วันนี้ขอให้ลืมภาพนั้นไปก่อนค่ะ แล้วมาแวะชมห้องสมุดที่ได้รับการยอมรับว่าสวยที่สุด บรรยากาศน่านั่งมากที่สุดในโลกกัน แล้วจะรู้ว่าห้องสมุดกับความสวยสดงดงาม-สบายตาชวนฝันนั้น มันสามารถอยู่ในที่ที่เดียวกันอย่างลงตัวได้จริง ๆ นะ
เว็บไซต์ Wonderlists.com รวบรวมเรื่องราวเหล่านี้มาฝากกัน ไปดูกันดีกว่าว่าห้องสมุดที่งดงามน่านั่งที่สุดในโลกนั้นจะมีบรรยากาศเป็นยังไง งดงามอลังการขนาดไหนกันเชียว
อันดับที่ 10 สำนักหอสมุดกลางบริสตอล อังกฤษ
ตั้งอยู่ที่ทิศใต้ของวิทยาลัยกรีน เมืองบริสตอล ประเทศอังกฤษ เป็นอาคารหอสมุดที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ในอดีต ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2449 ความสวยงามที่น่าทึ่งของหอสมุดแห่งนี้ คือการผสมผสานศิลปะทางสถาปัตยกรรมหลาย ๆ รูปแบบแต่ลงตัว และออกมาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนที่ใด ตัวอาคารด้านนอกมีการออกแบบโดยผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมสไตล์อังกฤษและโมเดิร์น นอกจากนี้ หอสมุดแห่งนี้ยังถูกสร้างบนพื้นที่ลาดเอียง ทำให้ฝั่งด้านหน้าของอาคารมีทั้งหมด 3 ชั้น ในขณะที่ด้านหลังของอาคารมี 5 ชั้น (รวมชั้นใต้ดิน 2 ชั้น)
อันดับที่ 9 ห้องสมุดแห่งวิทยาลัยทรินิตี้ ไอร์แลนด์
หอสมุดแห่งนี้ตั้งอยู่ในวิทยาลัยทรินิตี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยดับลิน นอกจากจะเป็นห้องสมุดแสนสวยเลอค่าแล้ว ยังได้ชื่อว่าเป็นห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในไอร์แลนด์อีกด้วย ที่นี่เป็นสถานที่รวบรวมหนังสือถูกลิขสิทธิ์ทุกเล่มของไอร์แลนด์ โดยมีกฎอยู่ว่า หากมีการตีพิมพ์หนังสือใหม่ในไอร์แลนด์แล้วละก็ จะต้องส่งฉบับลิขสิทธิ์ที่ถูกต้องมาให้ทางห้องสมุดเก็บไว้ นั่นทำให้ห้องสมุดแห่งนี้มีหนังสืออยู่มากกว่า 6 ล้านเล่ม ! หนึ่งในหนังสือที่สำคัญที่สุดคือหนังสือที่ชื่อ The Book of Kells : Turning Darkness to the Light ซึ่งเป็นหนังสือคัมภีร์โบราณ ที่ถูกเขียนขึ้นในช่วงปีคริสต์ศักราชที่ 800
อันดับที่ 8 หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย ในออสเตรีย
ตั้งอยู่ในพระราชวังฮอฟบูร์ก กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เป็นหอสมุดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ มีหนังสือมากกว่า 7.4 ล้านเล่ม หอสมุดแห่งนี้สร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 2266 บรรดารูปปั้นที่ใช้ประดับตกแต่งหอสมุดแห่งนี้เป็นฝีมือของ ลอเรนโซ แมททิเอลลี และ ปีเตอร์ สตรูเดล ยอดศิลปินแห่งยุคบารอก ส่วนจิตรกรรมฝาผนังเป็นผลงานของ เดเนียล แกรน ภายในอาคารหอสมุดยังมีสถานที่จัดแสดงพิพิธภัณฑ์อีกจำนวน 4 ห้องด้วย
อันดับที่ 7 ห้องสมุดแห่งอารามวิบลิงเกน เยอรมนี
เป็นห้องสมุดที่ตั้งอยู่ด้านเหนือของโบสถ์วิบลิงเกน ภายในประดับประดาและตกแต่งด้วยศิลปะสมัยโรโกโก ทั้งรูปปั้นหินอ่อนและจิตรกรรมฝาผนังก็อ่อนช้อยงดงาม และแฝงความหมายของห้องสมุดแห่งนี้ว่า เป็นสถานที่ขุมทรัพย์แห่งความรู้และวิทยาศาสตร์ ส่วนด้านนอกของอาคารมีข้อความจารึกเป็นภาษาละตินว่า สถานที่แห่งนี้ประกอบไปด้วยมหาสมบัติแห่งความรู้และศาสตร์ต่าง ๆ
อันดับที่ 6 หอสมุดโจอันนีน่า โปรตุเกส
หอสมุดกลางแห่งมหาวิทยาลัยโคอิมบรา ประเทศโปรตุเกส ประกอบไปด้วยอาคาร 2 หลัง และหนึ่งในนั้นก็คือ หอสมุดโจอันนีน่าแห่งนี้นั่นเอง ซึ่งในอดีต อาคารหลังนี้เคยถูกใช้งานในฐานะร้านหนังสือของมหาวิทยาลัย หอสมุดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 2260 ถึง 2271 ช่วงรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าโจอาวที่ 5 แห่งโปรตุเกส ภายในประกอบไปด้วยห้องขนาดใหญ่จำนวน 3 ห้อง ทุกห้องประดับประดาด้วยศิลปะสมัยบารอกตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ระเบียงและตู้หนังสือทั้งหมดเป็นไม้แท้โบราณของท้องถิ่น ปัจจุบันหอสมุดโจอันนีน่าได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกแห่งชาติของประเทศโปรตุเกส และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้มาเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยได้เป็นอย่างดี
อันดับที่ 5 หอสมุด เอล เอสโคเรียล แห่งสเปน
ตั้งอยู่ในพระที่นั่งซาน ลอเรนโซ แห่งกษัตริย์สเปนโบราณ ภายในประดับตกแต่งด้วยศิลปะสเปนยุคเรเนซองส์ ก่อสร้างโดยมีผู้บริจาคทุนทรัพย์รายสำคัญคือพระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปน โดยพระองค์ตั้งพระทัยว่าพระที่นั่งแห่งนี้ควรมีหอสมุดส่วนตัว มีการวาดจิตรกรรมฝาผนังบนเพดานอย่างสวยสดงดงามจำนวน 7 ภาพ สื่อความหมายถึง วาทศาสตร์ ตรรกวิทยา ดนตรี ภาษาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เรขาคณิต และดาราศาสตร์
อันดับที่ 4 หอสมุดแห่งชาติฝรั่งเศส ประเทศฝรั่งเศส
หอสมุดแห่งนี้ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ถูกต่อเติมขยายจากของเดิมในปี 2531 เพื่อรองรับการเก็บหนังสือที่มากขึ้น ภายในมีหนังสือหายากมากมายหลายล้านเล่ม โดยมีการเก็บหนังสือจากสมัยกรีกโบราณไว้กว่า 5,000 เล่ม รวมถึงยังมีการค้นพบหนังสือ ไตรภูมิ ในสมัยกรุงศรีอยุธยาของไทย ที่หอสมุดแห่งนี้ด้วย
อันดับที่ 3 หอสมุดแห่งอารามแอดมอนต์ ออสเตรีย
ถูกสร้างขึ้นในปี 2319 เป็นหอสมุดในโบสถ์ที่มีความใหญ่โตที่สุดของโลก ด้วยความยาว 70 เมตร กว้าง 14 เมตร และสูง 13 เมตร มีหนังสือในครอบครองราว 2 แสนเล่ม เป็นคัมภีร์โบราณกว่า 7 หมื่นเล่ม เพดานตกแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนัง เป็นภาพมนุษย์ผู้ใฝ่หาความรู้ หลังจากที่พระเจ้าได้ประทานศาสตร์ต่าง ๆ ให้มนุษย์ ซึ่งสื่อความหมายถึงการรู้แจ้งในศาสตร์และศิลป์ต่าง ๆ นั่นเอง
อันดับที่ 2 หอสมุดแห่งอารามสตราร์โฮฟ สาธารณรัฐเช็ก
หอสมุดแห่งนี้ตั้งอยู่ในกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ภายในประกอบด้วยห้องโถงใหญ่จำนวน 2 ห้อง ตกแต่งเพดานด้วยศิลปะปูนปั้นและจิตรกรรมฝาผนังอย่างงดงาม มีหนังสือในครอบครองจำนวน 2 แสนเล่ม และในจำนวนนั้นราว 3 พันเล่มเป็นคัมภีร์โบราณที่เขียนด้วยลายมือ พร้อมกันนี้ยังมีคัมภีร์ไบเบิลอีกมากกว่า 1 พันฉบับด้วย
อันดับที่ 1 หอสมุดแห่งโบสถ์เซนต์กาลเล็น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
อาจจะไม่ใช่หอสมุดที่เก่าแก่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ แต่เป็นหอสมุดในโบสถ์ที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ทั้งนี้เป็นเพราะหอสมุดแห่งนี้เป็นเจ้าของหนังสือสำคัญทางศาสนามากกว่า 160,000 เล่ม และส่วนใหญ่ถือกำเนิดตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 8 หอสมุดแห่งนี้ประดับตกแต่งด้วยศิลปะสมัยโรโกโก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกอีกด้วย