ทหารอากาศโพสต์แจงข่าวต่อยตำรวจ ไม่พอใจถูกเรียกตรวจที่ด่าน ยอมรับไม่พอใจจริง แต่ไม่ได้ต่อยจนเลือดอาบ แค่ยื้อยุดฉุดกระชากจนศีรษะตำรวจไปกระแทกขอบประตูเท่านั้น บอกไม่พอใจที่ตำรวจใช้คำหยาบคายว่าแฟนสาวก่อน วอนทุกฝ่ายให้ความเป็นธรรม
จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2558 มีข่าวว่า ร.ต.ท. สมคิด พิมพ์เงิน รองสารวัตรงานตรวจพิสูจน์ผู้ขับขี่ กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจจราจร ขับรถตามรถยนต์คันหนึ่งซึ่งพยายามจะเลี้ยวหลบหนีจุดตรวจ เพื่อเรียกให้หยุด จนทราบว่า คนขับรถยนต์คันดังกล่าวคือ พ.อ.ท. กัมปนาท จันทรเดชาคล ทั้งนี้ ร.ต.ท. สมคิด ได้สอบถามจนทราบว่า พ.อ.ท. กัมปนาท ดื่มสุรามา จึงขอให้ขับรถยนต์กลับไปที่ด่านตรวจ แต่ปรากฏว่า พ.อ.ท. กัมปนาท ลงจากรถ และให้แฟนสาวที่นั่งมาด้วยเข้ามานั่งแทนที่คนขับ ขณะที่ ร.ต.ท. สมคิด กลัวว่ารถยนต์คันดังกล่าวจะขับหลบหนี จึงเข้าไปนั่งในรถด้วยพร้อมบอกให้ขับกลับไปที่ด่านตรวจ ทำให้ พ.อ.ท. กัมปนาท ไม่พอใจ และพยายามดึงตัว ร.ต.ท. สมคิด ออกจากรถ แล้วจับศีรษะ ร.ต.ท. สมคิด ฟาดไปที่ตัวรถจนคิ้วแตก พร้อมต่อยซ้ำที่ใบหน้าของ ร.ต.ท. สมคิด อีก 2-3 ครั้ง ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจจะเข้ามาห้าม และควบคุมตัวไปดำเนินคดี ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้ว [ทหารอากาศฉุนจัด !! ต่อยตำรวจเลือดอาบ ไม่พอใจถูกเรียกตรวจที่ด่าน]
ล่าสุด (9 พฤศจิกายน 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนั้น ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งอ้างตัวว่าเป็น พ.อ.ท. กัมปนาท จันทรเดชาคล โพสต์ข้อความชี้แจงว่า ตนเป็นบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกาย ร.ต.ท. สมคิด พิมพ์เงิน โดยข่าวที่มีการนำเสนอออกไปนั้นเป็นข้อมูลที่ผิดเพี้ยนจากความเป็นจริงไปมาก ทำให้ตนต้องตกเป็นจำเลยของสังคม และทำให้กองทัพต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอันมาก
ทั้งนี้ตนขอชี้แจงว่า ในวันเกิดเหตุนั้น ตนได้ไปทานข้าวกับแฟนสาวย่านรามอินทรา และได้ดื่มเบียร์ไป 1 ขวดจริง เมื่อทานอาหารเสร็จก็ได้นั่งพักเป็นเวลานานพอสมควร ก่อนที่จะขับรถยนต์กลับบ้านพักย่านดอนเมือง ระหว่างที่เดินทางกลับ ตนรู้สึกเพลียเนื่องจากต้องตื่นเช้ามาทำงานทุกวัน จึงคุยกับแฟนสาวว่า จะไปนอนพักในโรงแรมที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร แต่เมื่อขับรถมาจนเกือบถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ก็เห็นว่ามีด่านตรวจตั้งอยู่หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เมื่อตนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจค้น ก็จอดรถยินยอมให้ตรวจค้นโดยดี พร้อมแสดงบัตรข้าราชการให้ทราบ ซึ่งขณะนั้นตนก็ไม่ได้พูดจาที่ไม่สุภาพแต่อย่างใด
หลังจากตรวจค้นเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ปล่อยให้ตนขับรถเข้าไปภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เพื่อติดต่อที่พัก เมื่อตนสอบถามราคาที่พักของโรงแรมดังกล่าว ปรากฏว่า ราคาค่อนข้างสูง จึงตัดสินใจขับรถกลับไปนอนที่บ้านย่านดอนเมือง โดยจะขอจอดพักในบริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เพื่อดื่มน้ำ และสูบบุหรี่ให้หายอ่อนเพลียก่อน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที
ต่อมา ตนได้ขับรถออกไปทางหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ซึ่งเป็นทางเดียวกับที่ตนเข้ามา ระหว่างนั้น ตนเห็นว่า จ.ส.ต. นิยม สุขเกตุ โบกรถเพื่อให้ตนจอด และขณะที่ตนกำลังจอดรถก็ได้ยินเสียงว่า มีคนทุบรถของตนอย่างแรงหลายครั้ง พร้อมกับตะโกนบอกให้หยุดรถ ตนจึงรีบหยุดรถทันที เพราะคิดว่าขับรถชนอะไร เมื่อตนจอดรถ ร.ต.ท. สมคิด พิมพ์เงิน ซึ่งเป็นคู่กรณีได้เปิดประตูรถ และได้ให้แฟนสาวของตนลงจากรถ โดยใช้น้ำเสียงและกิริยาที่ไม่สุภาพตั้งแต่แรก ซึ่งแฟนสาวของตนก็ยอมลงจากรถ และ ร.ต.ท. สมคิด ได้เข้ามานั่งทางฝั่งผู้โดยสารแทน ซึ่งตนได้สอบถามว่า ทำไมต้องทุบรถแรงขนาดนั้น พร้อมทั้งได้แสดงตัวว่าเป็นทหาร แต่ ร.ต.ท. สมคิด ได้ใช้น้ำเสียงและกิริยาที่ไม่สุภาพกับตน โดยได้กล่าวหาว่าตนมีพิรุธ และพยายามจะขับรถหลบหนี เพื่อไม่ให้ตรวจค้น ซึ่งตนได้อธิบายเรื่องราวแต่ต้นให้ฟัง และได้บอกให้ตรวจค้นรถได้ตามสบาย แต่ทาง ร.ต.ท. สมคิด ไม่ฟังเหตุผลใด ๆ และได้นั่งอยู่ในรถของตนโดยที่ไม่ได้ทำการตรวจค้นแต่อย่างใด เป็นเหตุให้เกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ทำให้ จ.ส.ต. นิยม ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ต้องเข้ามาแยกตนกับ ร.ต.ท. สมคิด ออกจากกัน
และระหว่างนั้น จ.ส.ต. นิยม ก็ได้เข้าไปคุยกับ ร.ต.ท. สมคิด ว่าให้สงบสติอารมณ์เช่นกัน ขณะนั้นแฟนสาวของตนได้เข้ามานั่งอยู่ในฝั่งคนขับ และได้ยิน ร.ต.ท. สมคิด กล่าวว่า "กราบตีนกูถึงจะจบ" โดยที่ตนก็ได้ยินเช่นกันแต่ไม่ชัด เนื่องจากอยู่ห่างจากรถพอสมควร ซึ่งตนไม่ได้ถือสาอะไร เนื่องจากเข้าใจว่า กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธทั้งคู่ แต่ไม่จบเพียงเท่านี้ ร.ต.ท. สมคิด ยังพูดจาหยาบคายใส่แฟนสาวของตนอีกหลายครั้ง เมื่อตนเดินเข้าไปตักเตือนและต่อว่า แต่ ร.ต.ท. สมคิด ไม่ฟังทั้งยังต่อว่าแฟนสาวของตนรุนแรงมากขึ้น ทำให้ตนไม่พอใจ จึงตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อ ร.ต.ท. สมคิด โดยมีเจตนาเพื่อนำตัว ร.ต.ท. สมคิด ออกมาจากรถแต่เขาก็ไม่ได้ยินยอมที่จะออกมาจากรถโดยง่าย ทำให้เกิดการฉุดกระชากกันขึ้น เป็นเหตุให้ศีรษะของ ร.ต.ท. สมคิด ไปกระแทกกับขอบประตูรถ ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่า ไม่ได้มีการชกไปที่ใบหน้าของ ร.ต.ท. สมคิด ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thailand Police Story