พังสำรวย ช้างป่วยโคม่า ตกใจเสียงจุดพลุฉลองปีใหม่ตายแล้ว หลังทีมสัตวแพทย์ช่วยรักษาแต่ยื้อไม่ไหว นำซากช้างทำพิธีฝังที่วัดบางละมุง จ.ชลบุรี
วานนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ปุณณภา นาถพัฒน์ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ได้โพสต์ข้อความและภาพช้างสำรวย อายุ 50 ปี ที่อาศัยอยู่ในปราสาทสัจธรรม เมืองพัทยา ที่เกิดอาการป่วยหนัก โดยข้อความระบุว่า ต้องการขอความช่วยเหลือให้ช่วยหาหมอมารักษาช้างเบื้องต้น และต้องการรถเครนมายกช้างเพื่อนำไปรักษาต่อที่ จ.สุรินทร์ ส่วนสาเหตุที่ช้างล้มเป็นเพราะตกใจเสียงพลุเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา จนเกิดอาการเซื่องซึมและล้มลง
โดย น.ส.ปุณณภา ระบุว่า ช่วงค่ำที่ผ่านมาตนได้ยินวิทยุพูดถึงเรื่องช้างสำรวยป่วยหนักจนลุกไม่ได้ ตนจึงได้รีบเดินทางไปดูด้วยความสงสาร เมื่อไปถึงพบช้างสำรวยนอนหมอบอยู่กับพื้นสภาพอ่อนเพลีย ตนจึงถามนายสุริยา เจ้าของช้างสำรวยว่า ต้องการให้ช่วยอะไรบ้าง นายสุริยาบอกว่า ต้องการให้สัตวแพทย์มารักษาอาการเบื้องต้น ซึ่งตนได้โพสต์ภาพช้างสำรวยพร้อมข้อความเพื่อขอความช่วยเหลือผ่านเว็บไซต์โครงการช่วยเหลือสัตว์ยากไร้ด้อยโอกาส จากนั้นไม่นาน นายภัทรพล มณีอ่อน หรือ "หมอล็อต" นายสัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้แนะนำเบื้องต้นว่า ให้จับช้างนอนตะแคง เพราะตอนแรกช้างนอนคว่ำ จากนั้นจึงให้สัตวแพทย์หญิงชนิกา บำรุงภักดี เจ้าของ รพ.สัตว์ทองหล่อ มาให้ยาและน้ำเกลือ ก่อนโทรศัพท์ไปแจ้งให้ปศุสัตว์อำเภอบางละมุงให้ทราบเรื่อง
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่ปราสาทสัจธรรม พบเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์กำลังดูแลรักษาช้างสำรวที่มีอาการอ่อนเพลียอยู่ และพร้อมใช้รถเครนยกช้างสำรวยขึ้น เพื่อนำไปรักษาที่ จ.สุรินทร์ โดยนายฉัตร จะยะวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ชี้แจงผ่านโทรศัพท์ว่า ช้างตัวดังกล่าวเป็นช้างของควาญชาว จ.สุรินทร์ ที่มาของานทำด้วยการให้บริการนักท่องเที่ยวขี่หลังแล้วพาเดินชมสถานที่ต่าง ๆ ในปราสาทสัจธรรม แต่เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา พังสำรวยเกิดตกใจเสียงพลุที่คนจุดฉลองปีใหม่ จนนอนไม่หลับและเกิดอาการเซื่องซึมลง กระทั่งล้มแล้วลุกขึ้นเองไม่ได้ ซึ่งทางปราสาทสัจธรรมได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว และกำลังจะนำช้างขึ้นรถบรรทุกไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
ด้านนายสามารถ บุตรสะสม ปศุสัตว์ อ.บางละมุง เปิดเผยว่า หลังได้รับการประสานงานจากเจ้าของช้าง จึงนำทีมสัตวแพทย์ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบอาการป่วยของช้างค่อนข้างหนักเข้าขั้นโคม่า เพราะมีอาการแทรกซ้อน จึงให้การรักษาเบื้องต้นด้วยการ ฉีดยาปฏิชีวนะและให้น้ำเกลือ จากนั้นจึงทำหนังสือเพื่อเคลื่อนย้ายช้างไปรักษาที่สุรินทร์
ขณะที่ภรรยาของนายสุริยา เจ้าของพังสำรวย เผยว่า ตนกับสามีได้นำช้างมาขออาศัยอยู่ที่ปราสาทสัจธรรม นานหลายปีแล้ว เพื่อเป็นพาหนะบริการนักท่องเที่ยวขึ้นนั่งบนหลังพาทัวร์ชมรอบ ๆ สถานที่ แต่เกิดตกใจเสียงพลุจนล้มป่วย อาการทรุดหนักลุกขึ้นไม่ได้
รายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้พังสำรวย เคยล้มมาแล้วครั้งหนึ่งขณะกำลังพานักท่องเที่ยวชาวต่างขาติเที่ยวชมปราสาทสัจธรรม กระทั่งมาล้มอีกครั้งและไม่สามารถลุกขึ้นมายืนได้อีกเลย
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (6 กุมภาพันธ์ 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พังสำรวยได้เสียชีวิตลงแล้ว โดยนายสุริยา พร้อมภรรยาจะนำพังสำรวยไปฝังยังวัดบางละมุง โดยมีพระครูสุวัฒน์ชลธาร เจ้าอาวาสวัดบางละมุง ได้ทำพิธีกรรมทางศาสนาในการฝังช้าง และมีพระภิกษุสงฆ์ 4 รูป มาสวดบังสุกุล ตามขนมธรรมเนียมแบบการฝังศพ ก่อนนำซากพังสำรวยฝังลงในหลุมที่ขุดลึกพอประมาณ
ทั้งนี้ คนเลี้ยงช้างจะเป็นที่รู้กันว่า วัดบางละมุงเป็นวัดแห่งเดียวที่ทำการฝังศพช้าง และก่อนหน้านี้ทางวัดดังกล่าวมีพิธีขุดช้างเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ ซึ่งนานนับสิบปีจะมีการจัดพิธีดังกล่าวขึ้นสักครั้งหนึ่ง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ข่าวพัทยา Pattayanews
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
