แม่วัย 78 เข้าร้องปวีณา หงสกุล ช่วยลูกสาว หลังถูกสามี ยศ พ.ต.ท. ทำร้ายร่างกายจนซี่โครงหัก 4 ซี่ ปอดฉีก ม้ามแตก และมีเลือดคั่งในสมอง ล่าสุด มีการตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยตำรวจนายนี้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2559 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย พล.ต.ต. สรศักดิ์ เย็นเปรม รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร เพื่อเยี่ยมดูอาการของนางสา (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี ที่นอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู หลังถูกสามีซึ่งเป็นตำรวจยศ พ.ต.ท. (พันตำรวจโท) ทำร้ายร่างกายจนซี่โครงหัก 4 ซี่ ปอดฉีก ม้ามแตก และมีเลือดคั่งในสมอง
นางปวีณา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา นางอู๊ด (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 78 ปี แม่ของผู้บาดเจ็บ ได้เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือที่มูลนิธิ เพื่อให้พามาเยี่ยมลูกสาว เพราะไม่กล้าไปเพียงลำพัง โดยนางวาว ให้ข้อมูลว่า ลูกสาวของตนอยู่กินกับสามีที่เป็นตำรวจ โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส และมีบุตรด้วยกัน 2 คน ที่ผ่านมาลูกสาวของตนเคยถูกสามีทำร้ายมาแล้ว ทั้งยังเคยเข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เมื่อประมาณกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทางมูลนิธิ ก็ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในขณะนั้น ซึ่งมีการเรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยไกล่เกลี่ย พร้อมทำบันทึกข้อตกลงกันไว้แล้วว่าจะแยกทางกัน
นอกจากนี้ มูลนิธิปวีณาฯ ยังได้ประสานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้ลูกสาวได้รับการคุ้มครอง จากนั้นประมาณปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ลูกสาวก็ถูกสามีทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก
ขณะที่ พล.ต.ต. สรศักดิ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร ก็ได้สั่งให้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุทันที ซึ่งในตอนนั้น ผู้ก่อเหตุอ้างว่าต้องดูแลภรรยาที่ป่วยหนัก จึงไม่สะดวกเข้ามาพบผู้บังคับบัญชา กระทั่งเมื่อถูกกดดันหนัก ๆ ผู้ก่อเหตุจึงได้ยอมเข้ามาพบผู้บังคับบัญชา
พล.ต.ต. สรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนได้สั่งการให้มีการสอบสวนคดีอาญา และการตั้งคณะกรรมการสอบสวนการกระทำผิดทางวินัยข้าราชการ โดยทำควบคู่กันไป เพื่อให้ผลการสอบสวนออกมาอย่างถูกต้องเป็นธรรมและรวดเร็ว
และจากการรายงานของผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน พบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนที่ทำงานได้ดี มีความรับผิดชอบ และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายเสมอ แต่เมื่ออยู่บ้านจะเป็นคนที่ชอบดื่มสุรา พอเมาก็จะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับภรรยาเป็นประจำ และมีการใช้กำลังทำร้าย
ด้านนายแพทย์รณชัย กัณหสุวรรณ แพทย์เจ้าของไข้ เปิดเผยว่า ขณะนี้อาการของนางสายังต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะสภาพยังถือว่าบาดเจ็บสาหัส คาดว่าจะต้องทำการรักษาไม่ต่ำกว่า 1 เดือน
ภาพและข้อมูลจาก
,