สาวเตือนภัยฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า ทำเอาเกือบตาบอด หลังฉีดบริเวณหน้าผากแต่กลับไหลย้อยลงตา สุดทรมานผ่าตัดนานกว่า 6 ชั่วโมง
เป็นเคสอุทาหรณ์ที่ถูกแชร์กันอย่างมากในโลกออนไลน์ สำหรับกรณีของหญิงสาวรายหนึ่งที่ได้แชร์ประสบการณ์หวิดตาบอดผ่าน เฟซบุ๊ก Meaw Mee De โดยระบุว่า ตนเองต้องทนทุกข์ทรมานจากการไปฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋ารายหนึ่งบริเวณหน้าผากเพื่อให้หน้าผากโค้งมนได้รูป แต่เมื่อเวลาผ่านไปฟิลเลอร์ที่เคยฉีดไว้กลับไหลลงมาที่ตาทั้ง 2 ข้างจนเกือบปิดตาดำ ทำให้มองเห็นไม่ชัดและมีอาการหน้ามืด จนต้องเข้าผ่าตัดขูดฟิลเลอร์ออกนานกว่า 6 ชั่วโมงเพราะหากปล่อยไว้จะทำให้ตาบอด
ล่าสุด (13 สิงหาคม 2559) ทาง เดลินิวส์ออนไลน์ ได้ติดต่อไปยังหญิงสาวคนดังกล่าว ทราบชื่อคือ น.ส.ปฤชนก สุวรรณโชติ หรือ เหมี่ยว อายุ 30 ปี เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ตนกับเพื่อน ๆ ไปฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋าโดยไม่ได้ศึกษาข้อมูลให้ดี รู้เพียงว่าฉีดแล้วหน้าผากจะได้รูป เมื่อผ่านไป 2 ปี ก็ฉีกซ้ำอีก จนกระทั่งผ่านไป 4 ปี ตนเริ่มรู้สึกเคืองตาตลอดเวลา หนังตาย้อยลงมาปิดตาดำ ขณะที่เพื่อนที่ไปฉีดด้วยกันแก้มก็มีอาการย้อยลงมาแต่ไม่มากเท่าตน เนื่องจากตนต้องทำอาหารอยู่หน้าเตานานหลายชั่วโมง
น.ส.ปฤชนก กล่าวต่อว่า หลังไปพบแพทย์ ได้ให้คำแนะนำว่าต้องผ่าตัดหนังตาเอาฟิลเลอร์ออกโดยด่วน ไม่เช่นนั้นจะตาบอด ซึ่งหมอหลายรายปฏิเสธที่จะผ่าตัดเนื่องจากกลัวว่าทำออกมาแล้วจะตาบอดซ้ำ จนในที่สุดก็ได้ผ่าตัด โดยใช้เวลาในการผ่าตัดนาน 6 ชั่วโมง จากปกติใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง ตอนนั้นตนรู้สึกทรมานมากเพราะรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลาจนตนรู้สึกไม่ไหวแล้ว จึงถูกส่งตัวไปอีกโรงพยาบาลเพื่อวางยาสลบแล้วทำการผ่าตัดต่อ จนกระทั่งเย็บแผลเสร็จในช่วงสายของอีกวัน และต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลอีก 3 วัน ก่อนจะผ่าตัดอีกครั้งใน 3 เดือน ซึ่งแพทย์ไม่ให้คำตอบว่าจะออกมาเหมือนเดิมหรือไม่ ตนจึงอยากฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้คนที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ศึกษาข้อมูล ให้ดีก่อน
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Meaw Mee De