จากกรณีที่ผู้ปกครองพาบุตรชาย วัย 7 ขวบ เข้าแจ้งความหลังถูก นางสาวชลิดา ไพจิตประภาภร ครูผู้คุมสอบ ลงโทษรุนแรงโดยใช้ไม้พลองตีจำนวน 99 ครั้ง จนแผ่นหลังและก้นมีรอยฟกช้ำและเด็กเกิดอาการหวาดกลัวตลอดเวลา สาเหตุจากการขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำระหว่างที่สอบวิชาคณิตศาสตร์ และต่อมาทางครูผู้ก่อเหตุได้ยื่นข้อเสนอขอให้จบเรื่องด้วยเงิน 50,000 บาท ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : แม่เด็ก ป.1 เหยื่อครูใช้ไม้พลองกระหน่ำตี เผยคู่กรณียื่น 5 หมื่น หวังจบเรื่อง)
ทั้งนี้ นายวรกร พงศ์ธนากุล กรรมการสภาทนายความ เปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำความรุนแรงต่อเด็กที่กระทบต่อร่างกายและจิตใจ มีความผิดตามประมวลกฎหมายเด็ก มาตรา 26 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และมาตรา 295 ตามประมวลกฎหมายอาญา บุคคลใดที่กระทำการรุนแรง ต่อบุคคลอื่นให้ได้รับอันตรายต่อจิตใจและร่างกาย
ด้านนายพัฒนะ งามสูงเนิน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 กล่าวว่า แม้ว่าครูผู้ก่อเหตุจะลาออกจากโรงเรียนไปแล้ว แต่ก็จะเสนอให้คุรุสภาพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู เนื่องจากการกระทำครั้งนี้เข้าข่ายใช้วิธีการลงโทษนักเรียนที่ผิดระเบียบของกระทรวง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสภาพจิตใจของเด็กในขณะนี้ที่ยังคงหวาดกลัวนั้น ทางบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ปทุมธานี กรมกิจการเด็กและเยาวชน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะมีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าดูแลเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูจิตใจต่อไป
ล่าสุด นางบุญสืบ ขันทอง พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบปลัดกระทรวงศึกษาธิการเพื่อยื่นหนังสือขอให้ปลด นางสาวชลิดา ไพจิตประภาภร ออกจากวิชาชีพครู โดยมี นายประเสริฐ บุญเรือง รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ รับเรื่องแทน พร้อมเผยว่าทางกระทรวงเองไม่ได้นิ่งนอนใจและจะเร่งดำเนินการทันที ขอให้วางใจได้เลยว่ากระทรวงจะให้ความเป็นธรรมแน่นอน เนื่องจากหลักฐานที่พบแสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่ามีความรุนแรงจริง เพราะตามกฎระเบียบครูไม่สามารถลงโทษเด็กได้ การตี 1-2 ครั้งก็รุนแรงแล้ว แต่นี้ถึง 99 ครั้ง
โดยเมื่อกระบวนการสอบสวนสิ้นสุดลง และพบว่าครูผู้ก่อเหตุมีความผิดจริง จะต้องรับบทลงโทษร้ายแรงที่สุดคือไล่ออก และไม่สามารถสอบบรรจุได้อีกต่อไป
ภาพและข้อมูลจาก