x close

ส่งบั้งไฟไทยไปนอก หนังอีสานทำคนญี่ปุ่นทึ่ง



 

 


          เปิดตัวไปสดๆร้อนๆกับภาพยนตร์แนวแอ็คชั่น มันส์ ฮา ที่มีกลิ่นอายพื้นบ้านอีสานบ้านเฮา อยู่เต็มเปี่ยม “คนไฟบิน” ผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับอารมณ์ดี เฉลิม วงค์พิมพ์ ที่ไปประกาศศักดาคนอีสานแท้ๆถึงประเทศญี่ปุ่น ท่ามกลางการต้อนรับสุดประทับใจ พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เร้าใจกว่าเดิมเป็น “ROCKET MAN” (ร็อคเก็ตแมน) ให้สมกับเนื้อเรื่อง

          “ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ไปประเทศญี่ปุ่น แถมไม่ได้ไปเปล่าซะด้วย ไปโปรโมทหนัง เรื่อง “คนไฟบิน” ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าหนังแอ็คชั่นของเราที่นำเอาเรื่องราวพื้นบ้านอีสานมาเป็นคอนเซ็ปต์จะไปโดนใจชาวญี่ปุ่นมากขนาดนี้ ที่โน่นเค้าทึ่งกันมากเลยครับว่าผมไปเอาไอเดียมาจากไหน เพราะไม่เคยมีใครใช้บั้งไฟมาเป็นอาวุธ ประกอบกับแอ็คชั่นมันส์ๆของ แดน ชูพงษ์ หรือเดี่ยว ชูพงษ์ของเราแล้ว ทำออกมาได้รุนแรงและมันส์อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว

          นี่ก็คงเป็นที่มาของชื่อใหม่ “ROCKET MAN” ที่เค้าตั้งให้นั่นเอง แถมเครดิตของหนังนอกจากจะมีนักแสดงหลักๆแล้ว เค้ายังให้ความสำคัญกับ “ควาย” ของเรามากๆด้วย ถึงกับขึ้นเครดิตว่าเป็นนักแสดงสำคัญเลยนะครับ” เฉลิม วงศ์พิมพ์ กล่าวอย่างอารมณ์ดี

          การไปเยือนญี่ปุ่นเพื่อโปรโมตหนังในคราวนี้ เดี่ยว ชูพงษ์ (ชาวญี่ปุ่นรู้จักในนาม แดน ชูพงษ์) ได้พกโชว์แอ็คชั่น เล็กๆ น้อยๆ ไปฝากกันด้วย แต่เนื่องจากบินเดี่ยวไม่ได้พาทีมสตั๊นท์แมนไป เลยต้องเรียกใช้บริการ สตั๊นท์สายเลือดปลาดิบมาร่วมโชว์ ซึ่งทีมสตั๊นท์ของญี่ปุ่นเองก็มีความชื่นชอบในศิลปะการต่อสู้ของไทยเป็นอย่างมาก และหวังว่าจะสามารถนำเสนอแอ็คชั่น มันส์ๆ ได้เท่าสตั๊นท์ไทย พอมาเจอพระเอกนักบู๊ของไทยเข้าไปก็เกร็งกันไม่น้อย งานนี้หนุ่มเดี่ยวเลยถ่ายทอด

          ศิลปะการต่อสู้ไทยๆ รวมไปถึงการเซฟตัวเองในการแอ็คชั่นให้ได้เรียนรู้กันไปเต็มๆ พอถึงเวลาขึ้นโชว์จึงทำออกมาได้เรียบร้อยดีเหมือนซ้อมกันมานาน

          นอกจากนี้ในรอบเปิดตัวดังกล่าวยังมีคุณวีรศักดิ์เล็ก เจ้าของค่ายมวย “WEERASAKRECK-FAIRTEX  MUAYTHAI GYM” (วีรศักดิ์เล็ก แฟร์เท็กซ์ มวยไทยยิม)
ซึ่งเป็นค่ายมวยไทยชื่อดัง และมีสาขามากถึง 8 สาขาในญี่ปุ่น มาร่วมแสดงความยินดีด้วย

          ปิดท้ายด้วยการแสดงสุดพิเศษจากนักออกแบบท่าเต้นชื่อดังของญี่ปุ่นที่ได้แรงบันดาลใจของท่าเต้นมาจากการดูหนังเรื่อง “ROCKET MAN” นั่นเอง

          นอกจากนี้เดี่ยว ชูพงษ์และเฉลิม วงค์พิมพ์ยังได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร เว็บไซต์และรายการโทรทัศน์ต่างๆ ของญี่ปุ่นอีกหลายสิบรายการ เรียกว่าตลอด 2 วันที่จัดให้สัมภาษณ์แทบไม่ได้พักกันเลยทีเดียว แต่ทั้งคู่ก็สู้ตาย สลับกันหยอดมุขตลอดเวลา ทำเอานักข่าวญี่ปุ่นชื่นชอบในความอารมณ์ดีและเป็นกันเองของทั้งคู่ไปตามๆ กัน

          แถมหนุ่มเดี่ยวยังแอบหยอดคำหวานอ้อนแฟนๆ ชาวญี่ปุ่นไว้อีกว่า “ครั้งนี้ก็เป็นการมาโปรโมทหนังครั้งที่สอง หลังจากผมได้มาทำความรู้จักกับ ภ.เรื่อง “เกิดมาลุย” เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ดีใจที่ได้กลับมาอีกครั้งก็อยากให้แฟนๆสนับสนุนหนังเรื่อง “ROCKET MAN” กันให้มากๆนะครับ เผื่อเรื่องหน้าเราจะได้เจอกันอีก” เล่นหยอดคำหวานขนาดนี้ทำเอานักข่าวสาวๆ ใจอ่อนไปตามๆ กัน

          พอเย็นย่ำหลังเสร็จงานในแต่ละวันก็ถึงเวลาอิ่มหนำกับอาหารญี่ปุ่นหลากหลายที่ทีมงานญี่ปุ่นดูแลเป็นอย่างดีไม่มีขาดตกบกพร่องทั้ง ราเม็น ซูชิ ปลาดิบ สาเก ฯลฯ ทำเอาน้ำหนักขึ้นไปหลายกิโลเหมือนกัน และสองหนุ่มก็ไม่ลืมมายืนโพสท่าเท่ห์ๆ ถ่ายรูปหน้าร้านอาหารไว้เป็นที่ระลึกอย่างสนุกสนาน

          แต่ที่ทำเอาทีมงานหัวใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็คงเป็นวันที่ต้องเดินทางกลับ เพราะเป็นช่วงเดียวกันกับไต้ฝุ่นกำลังจะขึ้นฝั่งที่ญี่ปุ่นพอดิบพอดี เพราะเครื่องต้องออกช้ากว่ากำหนดเกือบๆชั่วโมง ทุกคนได้แต่ภาวนาและลุ้นให้ได้กลับบ้าน และแล้วคำภาวนาก็เป็นผลที่เครื่องสามารถขึ้นบินได้ตามปกติ บินหนีไต้ฝุ่นได้สำเร็จ ทีมงานก็แอบพูดแซวกันสนุกๆ ว่าที่ไต้ฝุ่นเข้าคงเป็นเพราะบั้งไฟไทยไปจุดที่นู่นมั้ง บ้านเราน่ะได้แค่ฝน แต่ญี่ปุ่นถึงกับไต้ฝุ่นเข้ากันเลยทีเดียว

          หลังจากที่ใจหายใจคว่ำกับการบินหนีไต้ฝุ่นกลับเมืองไทยอยู่หลายชั่วโมง คงเสียพลังงานในการลุ้นไปเยอะพอขึ้นรถปุ๊บเฉลิม วงค์พิมพ์ก็โทรนัดเพื่อนพ้องผู้กำกับทั้งอ๊อด บัณฑิต เพื่อน ภาคภูมิ และทีมงานอีกหลายคนไปโซ้ย ส้มตำ ณ ร้านลาบแห่งหนึ่งต่อทันที งานนี้ปลาดิบคงแพ้บาย เพราะปลาร้าไทยถูกใจกว่าเยอะ ถือเป็นการต้อนรับกลับบ้านที่อบอุ่นไม่แพ้กัน

          ภาพยนตร์เรื่อง “คนไฟบิน” หรือ “ROCKET MAN” มีคิวจะเข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 6 ตุลาคม 2550 นี้

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

- เรื่องย่อภาพยนตร์เรื่อง "คนไฟบิน"
- ลีโอ พุฒยอมทิ้งมาด รับบทพระยาปากแหว่งในคนไฟบิน
- เดี่ยว ใส่ไม่ยั้ง ลีโอ พุฒเลือดกลบปาก บ่นเข็ดบทบู๊ไปอีกนาน
- เดี่ยวก้าวตามฝัน สตันท์เสี่ยงตาย เผยได้จา พนมเป็นแรงบันดาลใจ


 
ข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ส่งบั้งไฟไทยไปนอก หนังอีสานทำคนญี่ปุ่นทึ่ง โพสต์เมื่อ 13 กันยายน 2550 เวลา 00:00:00 3,859 อ่าน
TOP