คุณตาวัย 82 ปี ชาวนาอ่างทอง ถูกมิจฉาชีพหลอกตีสนิททำเป็นรู้จักคนในครอบครัว ก่อนอ้างโฉนดติดจำนองลงขันไถ่ถอน หลอกให้ไปถอนเงิน 1 แสน ก่อนเผ่นหนี
ภาพจาก สำนักข่าว INN
นายสวิด เผยต่อว่า โดยมิจฉาชีพระบุว่า ผู้ที่จะซื้อตัวจริงเป็นคุณหญิงอยู่ในกรุงเทพฯ และเมื่อตกลงซื้อขายกันทางโทรศัพท์สักครู่ ทางกลุ่มมิจฉาชีพได้บอกว่าการซื้อขายที่ดินแปลงดังกล่าวนั้นจบลงด้วยดี และได้นัดเจอจับทางคุณหญิงในวันอังคารหน้า จากนั้นได้มาส่งตนที่บ้าน ต่อมาทางผู้ชายที่อ้างเป็นเจ้าของที่ดินได้นั่งรถเก๋งมาด้วย อ้างว่ารถตัวเองเสีย ระหว่างทางมีการพูดคุยกันถึงเรื่องแบ่งเงินค่านายหน้าจะได้คนละหลายแสน ก่อนอ้างมีปัญหาติดอยู่ที่โฉนดที่ดินของชายที่พบกลางทุ่งนา ติดจำนำอยู่ที่คุณนายคนหนึ่งที่อยู่จังหวัดสิงห์บุรี ในราคา 5 แสนบาท จึงชวนกันลงขันเงินคนละแสน เพื่อไปไถ่ที่ดินและเตรียมไว้ขายให้คุณหญิง ซึ่งทุกคนทำทีนำเงินสดใส่ถุงผ้าคนละ 1 แสนบาท รวมเป็น 4 แสนบาท แต่ยังขาดอีก 1 แสนบาท จึงให้ตนไปเบิกธนาคารและออกอุบายไม่ให้บอกกับภรรยาและเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าจะนำเงินไปทำอะไร
ด้าน นางสาว ณัฐศินี ลิ่มละออ
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตำบลชัยฤทธิ์ กล่าวว่า ทางนายสวิด ใจโอบเอื้อ
นั้นเป็นชาวนา และขายที่นามีเงินเก็บอยู่จำนวนหนึ่ง
ทางมิจฉาชีพรู้ชื่อทางครอบครัวของทางนายสวิดหมดทุกคน และยังรู้ว่านายสวิด
มีเงินเก็บ นอกจากนั้นในช่วงเช้าของวันเดียวกันได้ไปหลอกหว่านล้อมนางนันทา
อายุ 71 ปี ที่เป็นครูเกษียณ แต่ทางคุณครูไม่ได้ตกหลุมพราง
เสียเงินทองแต่อย่างไร
เบื้องต้นมีผู้ถ่ายรูปรถยนต์คันที่คาดว่าผู้ต้องสงสัยมารับนายสวิด ที่บ้าน
เป็นรถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนด์เงิน ฎณ 6854 กรุงเทพ
นำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชโย
เพื่อติดตามมาตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
ภาพจาก สำนักข่าว INN
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 นายสวิด ใจโอบเอื้อ ชาวอ่างทอง เปิดเผยว่า
ตนโดนมิจฉาชีพจำนวน 3 คน ขับรถเก๋งสีบรอนด์เงิน ไม่ทราบรุ่น
และหมายเลขทะเบียน มาหาที่บ้าน ตีสนิทพูดคุยรู้จักคนในครอบครัวหลายคน
และได้วางอุบายถามทางไปดูที่นาของชาวบ้านในพื้นที่ตำบลชัยฤทธิ์
เพื่อซื้อที่ดิน โดยให้ตนนั่งไปในรถเก๋งด้วยเพื่อบอกทางไปยังที่ดินเป้าหมาย
เมื่อไปถึงกลางทุ่งนาก็ได้พบเจอผู้ชายวัยกลางคนรออยู่กลางทุ่งนา
ซึ่งตนไม่รู้จัก มิจฉาชีพได้เจรจาซื้อขายที่ดินกับทางชายคนดังกล่าว
และพูดหว่านล้อมให้ตนเป็นนายหน้า จะได้ส่วนแบ่งในการซื้อขายที่ดินครั้งนี้
นายสวิด เผยต่อว่า โดยมิจฉาชีพระบุว่า ผู้ที่จะซื้อตัวจริงเป็นคุณหญิงอยู่ในกรุงเทพฯ และเมื่อตกลงซื้อขายกันทางโทรศัพท์สักครู่ ทางกลุ่มมิจฉาชีพได้บอกว่าการซื้อขายที่ดินแปลงดังกล่าวนั้นจบลงด้วยดี และได้นัดเจอจับทางคุณหญิงในวันอังคารหน้า จากนั้นได้มาส่งตนที่บ้าน ต่อมาทางผู้ชายที่อ้างเป็นเจ้าของที่ดินได้นั่งรถเก๋งมาด้วย อ้างว่ารถตัวเองเสีย ระหว่างทางมีการพูดคุยกันถึงเรื่องแบ่งเงินค่านายหน้าจะได้คนละหลายแสน ก่อนอ้างมีปัญหาติดอยู่ที่โฉนดที่ดินของชายที่พบกลางทุ่งนา ติดจำนำอยู่ที่คุณนายคนหนึ่งที่อยู่จังหวัดสิงห์บุรี ในราคา 5 แสนบาท จึงชวนกันลงขันเงินคนละแสน เพื่อไปไถ่ที่ดินและเตรียมไว้ขายให้คุณหญิง ซึ่งทุกคนทำทีนำเงินสดใส่ถุงผ้าคนละ 1 แสนบาท รวมเป็น 4 แสนบาท แต่ยังขาดอีก 1 แสนบาท จึงให้ตนไปเบิกธนาคารและออกอุบายไม่ให้บอกกับภรรยาและเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าจะนำเงินไปทำอะไร
ทั้งนี้ตนตกหลุมพรางจึงไปถอนเงินออกมา 1 แสนบาท
โดยบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าจะนำเงินไปลงทุนทำนา เมื่อถอนเงินเสร็จ
ได้ออกมาแล้วก็มาที่นัดหมาย โดยทางมิจฉาชีพบอกว่าให้ไปแต่งตัวให้เรียบร้อย
เนื่องจะไปพบคุณนาย แล้วให้นำเงิน 1 แสนบาทใส่ถุงผ้า
รออยู่ภายในรถยนต์ที่ด้านล่างของบ้าน เมื่อตนขึ้นบ้านไปแต่งตัว
มิจฉาชีพได้ขับรถหนีออกไปทันที
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN