สำนักข่าวทีนิวส์ แถลงจุดยืน ชี้ ธนาธร เป็นอันตราย-มีความคิดต่อต้านสถาบัน

          สำนักข่าวทีนิวส์ แถลงการณ์ยืนหยัดอุดมการณ์ทำหน้าที่ของสื่อมวลชนเต็มที่ อย่างตรงไปตรงมา ชี้ ธนาธร เป็นอันตราย มีความคิดต่อต้านสถาบันฯ-ชังเจ้า

ชี้ ธนาธร

          วันที่ 6 มีนาคม 2562 สำนักข่าวทีนิวส์ ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดยระบุว่า สำนักข่าวทีนิวส์ก่อตั้งขึ้นมาและทำหน้าที่สื่อมวลชนมาด้วยจุุดยืนที่ชัดเจน คือ การนำเสนอข่าวสารที่วางอยู่บนความคิดว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นสถาบันหลักของสังคมไทยมาอย่างช้านาน ที่ผ่านมายามประเทศไทยเราเกิดวิกฤตครั้งแล้วครั้งเล่า หากเป็นเพราะเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นหลักร่วมรวมใจของสังคม ร้อยรัดสังคมไทย คนไทย ให้ผ่านพ้นวิกฤตมานับครั้งไม่ถ้วน และแม้ว่าจะมีบางความคิด ความเห็นที่แตกต่าง แต่กระนั้นหากความคิดและความเห็นที่แตกต่างกันนั้นอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายที่มีอยู่ สังคมไทยเราก็ยอมที่จะให้สามารถแสดงความคิดและดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามกรอบของกฎหมาย

          ดังที่ผ่านมา ปรากฏการดำเนินการของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้เคยร่วมก่อตั้ง ให้ทุน สนับสนุนนิตยสาร "ฟ้าเดียวกัน" ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดว่ามีการนำเสนอเนื้อหาที่วิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์โดยเปิดเผย และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่อาศัยฐานะของนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย วิพากษ์วิจารณ์การดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ก็ยังสามารถทำได้แม้จะไม่ใช่ฉันทามติของคนในสังคมก็ตาม ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะบุคคลและกลุ่มบุคคลเหล่านี้ ต่างรู้ในข้อกฎหมาย และจงใจดำเนินการความคิดความเห็นที่แตกต่างไม่ให้ผิดกฎหมายที่มีอยู่ ทั้ง ๆ ที่โดยพื้นหลังและเจตนาแล้ว บุคคลและกลุ่มบุคคลเหล่านี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าตนเองและพวกมีจุดยืนทางการเมืองที่อยู่คนละฝั่งกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

          แม้นายธนาธร และพรรคอนาคตใหม่ จะพูดเสมอต่อสาธารณะว่ามีจุดยืน ต้องการทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย ต้องการต่อต้านเผด็จการทหาร ต้องการต่อต้านรัฐประหาร แต่ในอีกทางหนึ่ง นายธนาธรกลับสนับสนุนโดยเปิดเผยให้มีหนังสือที่มีเนื้อหา "ต่อต้าน" สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งนายธนาธรจะอ้างว่าเป็นการดำเนินการของกองบรรณาธิการ ไม่เกี่ยวกับตน แต่ถ้านายธนาธรไม่ได้มีความคิดต่อสถาบันในแนวทางเดียวกัน ทำไมถึงไม่แสดงการทักท้วง ห้ามปราม ซึ่งสามารถทำได้ในฐานะผู้ก่อตั้งและให้ทุนสนับสนุน

          ถ้านายธนาธรไม่ได้มีความคิดในทางลบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำไมถึงไม่ปฏิเสธการร่วมงานทางการเมืองกับนายปิยบุตร ที่เคยแสดงความเห็นว่า "กษัตริย์มีพระราชดำรัสสดกับประชาชนไม่ได้ สิ่งที่กษัตริย์จะตรัสต่อประชาชน ควรเป็นสิ่งที่ยกร่างโดยฝ่ายบริหาร" แต่กลับร่วมกับนายปิยบุตร ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ และนายปิยบุตรเป็นถึงเลขาธิการพรรค

          พฤติกรรมของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ เป็นที่ชัดเจนว่ามีจุดยืนอยู่คนละฝั่งกับสถาบันพระมหากษัตริย์ อยู่ตรงข้ามกับเสียงส่วนใหญ่ของสังคมไทยที่ยังรักและจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ หรืออาจเรียกง่าย ๆ ว่ามีความคิดแบบ "ต่อต้านสถาบันฯ" หรือ "ชังเจ้า" (anti-royalism) เห็นว่า การดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่เป็นมาโดยตลอดในสังคมไทย ไม่สามารถไปด้วยกันได้กับการเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง กระทั่งจะต้องมีการดำเนินการลดทอนสถานะและอำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งในทางรัฐธรรมนูญ ทางกฎหมาย และทางวัฒนธรรม (ดังที่มีความพยายามดำเนินการตลอดมา) เพื่อให้ได้มาซึ่งความเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ โดยแท้จริง

          ซึ่งนั่นอาจเป็นเหตุผลที่นายธนาธร นายปิยบุตร เปลี่ยนจากเดิมที่เคยเป็นเพียงนักเคลื่อนไหวทางสังคม มาเป็นนักการเมืองตั้งพรรคอนาคตใหม่ เพื่อใช้รัฐสภาเป็นช่องทางในการขับเคลื่อนความคิดของตนและกลุ่ม ซึ่งสังคมและสื่อมวลชนพึงต้องสามารถตรวจสอบและตั้งข้อสังเกตได้ต่อพฤติกรรมและความคิดต่าง ๆ ที่ "คาบลูกคาบดอก" (เช่น การบอกว่าจะสานต่อภารกิจ 2475) และที่อาจจะเป็น "อันตราย" ต่อสังคมทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต นั่นไม่นับถึงพฤติกรรม ความสัมพันธ์ การดำเนินกิจกรรมที่เคยมีกับกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรม "ล้มเจ้า" และหลบหนีคดีมาตรา 112 อยู่ที่ต่างประเทศ

ชี้ ธนาธร

          นอกจากนี้การพูดของนายธนาธรอาจเป็น "อันตราย" ในประเด็นศาสนา เพราะขาดการศึกษาและการทำความเข้าใจปัญหาสังคมอย่างลึกซึ้ง รอบด้าน ทำให้นายธนาธรได้แสดงความคิดเห็นในประเด็นที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อน โดยก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เช่น เรื่องปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่นายธนาธรกล่าวว่า "รัฐไทยไม่ควรจะอุปถัมภ์ศาสนาพุทธ เพราะมันทำให้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แก้กันไม่จบ" และ "ผู้คนที่อยู่ใน 3 จังหวัด แง่หนึ่งก็เหมือนเป็นพลเมืองชั้นสอง" ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดพลาด คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เพราะปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ได้มีสาเหตุมาจากรัฐอุปถัมภ์พุทธศาสนา และพี่น้องใน 3 จังหวัดภาคใต้ก็อยู่กันอย่างเป็นปกติสุข ไม่เคยอยู่ในสถานะพลเมืองชั้นสองแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใด ซึ่งการพูดที่ผิดพลาดในประเด็นละเอียดอ่อนเหล่านี้ของนายธนาธร อาจเป็นเหตุให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างศาสนาและอาจทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นได้ และนับได้ว่าเป็นอันตรายต่อสังคมยิ่ง

          จากจุดยืนของสำนักข่าวทีนิวส์ที่ได้กล่าวมาตั้งแต่ต้น การที่พรรคอนาคตใหม่ฟ้องสำนักข่าวทีนิวส์ว่าใส่ร้ายและหมิ่นประมาทนายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่นั้น (แม้ว่าจะเป็นการ "เลือกปฏิบัติ" อย่างชัดเจนเพราะมีความจงใจฟ้องเฉพาะสำนักข่าวทีนิวส์เพียงสำนักเดียว เพื่อไม่ให้สำนักข่าวทีนิวส์รายงานข่าวนายธนาธรต่อประชาชน) ซึ่งสำนักข่าวทีนิวส์ถือว่าได้ทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่พึงมีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างเต็มที่และตรงไปตรงมา อันเป็นเรื่องที่ดีที่ข้อเท็จจริงและความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับพฤติกรรมของนายธนาธร นายปิยบุตร และพรรคอนาคตใหม่ ที่มีเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งหมด จะได้นำเสนอในการพิจารณาในชั้นศาล และจะปรากฏต่อสาธารณะต่อไป ซึ่งสำนักข่าวทีนิวส์จะไม่เปลี่ยนแปลงในจุดยืนนี้ และจะทำหน้าที่สื่อมวลชนด้วยจุดยืนนี้ตลอดไป

          ส่วนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคอนาคตใหม่ เมื่ออาศัยอำนาจทางกฎหมายอาญา และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญเลือกตั้งในลักษณะนี้แล้ว ถึงวันนี้ก็ไม่ควรพูดความจริงเพียงด้านเดียวกับประชาชน โดยอ้างแค่อุดมการณ์อันสวยหรูของประชาธิปไตย อ้างความคิดต่อต้านเผด็จการ แต่กลับไม่พูดถึง "เจตนาแท้จริง" ของตน ว่าตนเองมีความตั้งใจต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไร ? ว่าตนเองมีความตั้งใจต่อกลุ่มบุคคลที่มีเจตนา "ล้มเจ้า" และคนที่เคยมีหมายจับมาตรา 112 ที่เคยร่วมกิจกรรมกันมาก่อนหน้านี้อย่างไร ? ก็แสดงกันให้ชัดเจนต่อสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบข้อมูลทั้งหมดก่อนวันเลือกตั้ง และจะได้ตัดสินใจว่าควรจะเลือกพรรคการเมืองที่มีจุดยืนและอุดมการณ์ที่อยู่ตรงกันข้ามกับสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สำนักข่าวทีนิวส์ แถลงจุดยืน ชี้ ธนาธร เป็นอันตราย-มีความคิดต่อต้านสถาบัน อัปเดตล่าสุด 7 มีนาคม 2562 เวลา 10:11:42 70,960 อ่าน
TOP
x close