ตำรวจเผยสอบปากคำ ยายล้วน วัย 80 ปี ที่ถูกลูกชายทำร้ายต่อย-ศอกจนใบหน้าเขียวช้ำ เลือดคั่งในตาซ้าย มองไม่ค่อยเห็น เรียบร้อยแล้ว รอผลพิจารณาอาการจากแพทย์
วันที่ 7 มีนาคม 2562 พ.ต.ท. ณัฎฐวร กันธายอด ร้อยเวรสอบสวน สภ.ทุ่งเสลี่ยม ได้ออกมาเปิดเผยถึงการลงบันทึกประจำวันว่า เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นางบัวไข คำบุญมี และยายล้วน คําบุญ สองแม่ลูก ว่าโดนนายวิลัย คำมูลมี ลูกชาย อายุ 45 ปี ทำร้ายร่างกาย โดยชกที่คาง และศอกที่เบ้าตาซ้าย ในวันเกิดเหตุทางร้อยเวรกำลังสอบถามรายละเอียดอยู่นั้น เห็นอาการของนางล้วนบาดเจ็บจึงให้นำส่งโรงพยาบาลทุ่งเสลี่ยม เพื่อตรวจร่างกาย แต่ขณะที่ให้ปากคำสอบสวนอยู่นั้นนางล้วนมีอาการอ่อนเพลียขอหยุดพักการสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นัดหมายให้มาอีกครั้งในวันที่ 6 มีนาคม และได้มีการให้ปากคำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ล่า
จากกรณีที่ลูกชายทรพี เมาเหล้าหนัก ใช้แม่วัย 80 ปี ให้ไปซื้อมาม่าให้กิน
แต่แม่ป่วยเพิ่งกลับจากโรงพยาบาลไม่มีแรงไป จึงโมโหต่อยแม่ฟันหักเลือดกบปาก
ศอกใส่เบ้าตาเขียวช้ำ
จนผู้เป็นแม่ต้องหนีไปบ้านลูกสาวเพื่อขอความช่วยเหลือ (อ่านข่าว : ชั่วช้า !
ลูกทรพีฉุนแม่ป่วยวัย 80 ไม่ยอมไปซื้อมาม่าให้ กระทืบฟันหัก-เจ็บสาหัส)
วันที่ 7 มีนาคม 2562 พ.ต.ท. ณัฎฐวร กันธายอด ร้อยเวรสอบสวน สภ.ทุ่งเสลี่ยม ได้ออกมาเปิดเผยถึงการลงบันทึกประจำวันว่า เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นางบัวไข คำบุญมี และยายล้วน คําบุญ สองแม่ลูก ว่าโดนนายวิลัย คำมูลมี ลูกชาย อายุ 45 ปี ทำร้ายร่างกาย โดยชกที่คาง และศอกที่เบ้าตาซ้าย ในวันเกิดเหตุทางร้อยเวรกำลังสอบถามรายละเอียดอยู่นั้น เห็นอาการของนางล้วนบาดเจ็บจึงให้นำส่งโรงพยาบาลทุ่งเสลี่ยม เพื่อตรวจร่างกาย แต่ขณะที่ให้ปากคำสอบสวนอยู่นั้นนางล้วนมีอาการอ่อนเพลียขอหยุดพักการสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นัดหมายให้มาอีกครั้งในวันที่ 6 มีนาคม และได้มีการให้ปากคำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พ.ต.อ. อภิปรัชญ์ พัฒนาดี
ผกก.สภ.ทุ่งเสลี่ยม กล่าวว่า ยายล้วนมีอาการเจ็บที่โหนกแก้ม
เมื่อกดแล้วรู้สึกเหมือนกระดูกโหนกแก้มได้รับการกระแทกอย่างหนัก
และเลือดที่คั่งในตาซ้ายก็แดงมากขึ้น
จึงให้นำตัวเข้ารับการตรวจเฉพาะทางด้านสายตาเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย
เนื่องจากทางโรงพยาบาลทุ่งเสลี่ยมไม่มีแพทย์เฉพาะทางด้านสายตา
ด้านคดีความนั้นคงจะต้องรอการพิจารณาอาการป่วยจากแพทย์ที่ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัยอีกครั้ง
หากผลออกมาเป็นการทำร้ายร่างกายจนได้รับอันตรายต่อบุพการี
หรือเป็นการทำร้ายร่างกายให้เกิดอาการบาดเจ็บสาหัส
จะส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดชุดสายสืบและชุดตรวจการ
จัดเวรยามออกตรวจสอบและดูแลความปลอดภัยให้แก่ครอบครัวของยายล้วนและญาติ ส่วนตัวผู้ต้องหานั้นก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จับตามองอยู่โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีการหลบหนี
หรือกลับมาทำร้ายคนในครอบครัวได้อีก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ล่า
ทางด้าน พล.ต.ต. สุวิชาญ
ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.สุโขทัย ได้กำชับให้เร่งดำเนินคดีตามกฎหมายให้เรียบร้อยอย่างเคร่งครัด และกล่าวว่า
คดีนี้จะเป็นอุทาหรณ์ต่อการทำร้ายร่างกายบุพการี และเป็นคดีที่สะเทือนใจที่เจ้าหน้าที่ต้องพิจารณาด้วยความรัดกุม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ล่า