ชายอเมริกัน วัย 59 ปี โดนจับฐานลักขโมยของจากซูเปอร์มาร์เกต ราคาไม่ถึงหมื่น พบเป็นมหาเศรษฐี มีบ้านหรูในย่านคนรวย แถมเพิ่งซื้อเกาะส่วนตัว 254 ล้าน
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจอเมริกันได้จับกุมชายวัย 59 ปี
ที่ชื่อ แอนดริว ฟรานซิส ลิปปี้ ในข้อหาลักทรัพย์
หลังจากที่เขาซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาเกตแห่งหนึ่ง
แล้วเอากล่องมาคืนเพื่อทำเรื่องขอคืนเงิน
แต่ภายในกล่องกลับไม่ใช่สินค้าเดิม
สินค้าที่เขาซื้อไปประกอบด้วยเครื่องทำกาแฟ 2 เครื่อง 2 ยี่ห้อ หลอดไฟ 8
หลอด และผ้าปูที่นอน 1 ผืน รวมมูลค่าทั้งหมด 300.59 ดอลลาร์สหรัฐ
หรือประมาณ 9,555 บาท หลังจากถูกจับกุม
แอนดริวก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี
แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ยอมรับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป
และในระหว่างสอบสวนสืบสวนนั้นเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ค้นพบความจริงที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจ เพราะผู้ต้องหารายนี้เป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมาก และเพิ่งควักกระเป๋าซื้อเกาะส่วนตัวไปในราคา 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 254 ล้านบาท !!
ภาพจาก Monroe County Sheriff's Office
ข้าวของที่แอนดริวบรรจุลงไปในกล่อง ไม่ใช่สินค้าเดิม โดยเครื่องทำกาแฟเครื่องหนึ่งถูกแทนที่ด้วยลูกบาส เครื่องทำกาแฟอีกเครื่องถูกแทนที่ด้วยเครื่องรุ่นเก่า กล่องหลอดไฟ 8 หลอด ก็แทนที่ด้วยหลอดไฟเก่า ส่วนกล่องใส่ผ้าปูที่นอนมีการนำปลอกหมอนไปใส่แทน โดยแอนดริวอ้างว่าตอนที่เขาซื้อผ้าปูที่นอนดังกล่าวไป และเปิดออกดูเมื่อถึงบ้าน ก็พบว่าสินค้าในกล่องมันเป็นปลอกหมอนมาตั้งแต่แรกแล้ว เขาจึงเอาไปคืน
ทีมข่าวของไมอามีเฮอรัลด์ได้ติดต่อไปสอบถามแอนดริวเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขายินดีพูดคุยด้วย แต่ก็ปฏิเสธ ไม่ขออธิบายถึงรายละเอียดของคดี อย่างไรก็ตาม แอนดริวกล่าวว่าเขาประทับใจในการทำงานของตำรวจมาก เจ้าหน้าที่ทุกคนรับมือกับสถานการณ์ได้ดีมาก ๆ อีกทั้งยังใจดีและปฏิบัติกับเขาเป็นอย่างดีตลอดกระบวนการสืบสวน เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยทำงานด้วย
เมื่อถูกถามว่าเขาได้ขโมยของจริงหรือไม่ แอนดริวกล่าวว่ามันเป็นเรื่องที่ซับซ้อน และเขาคงไม่เอาตัวเองไปยุ่งกับอะไรแบบนั้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวแอนดริวไปโดยไม่ตั้งวงเงินประกันตัว และเขาจะถูกนำตัวขึ้นพิจาณาคดีในชั้นศาลในวันที่ 18 เมษายน นี้