พ่อใจสลาย ถูกบีบให้ต้องเลือกจะช่วยชีวิตลูกคนไหน ในเหตุระเบิดศรีลังกา ก่อนสุดท้ายจะสูญเสียไปทั้ง 2 ชีวิต หัวใจสุดปวดร้าวเกินบรรยาย
ภาพจาก ISHARA S. KODIKARA / AFP
เว็บไซต์มิเรอร์ เผยเรื่องราวดังกล่าวเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 ว่า แมทธิว ลินซีย์
วัย 62 ปี พร้อมด้วยลูกชายและลูกสาวคือ แดเนียล วัย 19 ปี กับ อมีเลีย วัย
15 ปี อยู่ในระหว่างทริปพักผ่อนของครอบครัว
มันเป็นวันสุดท้ายของการเดินทางในครั้งนี้แล้ว ตอนที่มี 2
คนร้ายบุกเข้ามาก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่ภัตตาคารภายในโรงแรมแชงกรี-ลา
ของเมืองโคลัมโบ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Amelie Linsey
พ่อลูกทั้ง 3 คนอยู่ระหว่างกินมื้อเช้าที่ภัตตาคารของโรงแรม พวกเขารอดชีวิตจากการระเบิดครั้งแรกมาได้ แต่การระเบิดทำให้โรงแรมอยู่ในความมืดมิด แมทธิวบอกไม่ได้เลยว่าสภาพของลูก ๆ นั้นเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็ได้พยายามพาทั้ง 2 คนวิ่งหนีออกมาพร้อมกับแขกคนอื่น ๆ ของโรงแรม
ทว่าตอนที่หนีมาใกล้จะถึงลิฟต์ ก็ได้เกิดเหตุระเบิดซ้ำอีกครั้ง แมทธิวถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ใบหน้าจนบาดเจ็บ แต่นั่นถือว่าไม่รุนแรงเลยเมื่อเทียบกับอาการของลูก ๆ ที่ต่างก็หมดสติไป
ในตอนนั้นหัวอกคนเป็นพ่อสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด ว่าจะต้องเลือกช่วยลูกคนไหนก่อน เด็ก ๆ บาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ แต่เขาสังเกตเห็นว่าอาการของแดเนียล ลูกชาย ดูจะเลวร้ายกว่าอมีเลีย เขาจึงตัดใจเลือกจะช่วยลูกชายที่อาการสาหัสก่อนเป็นคนแรก
"สุภาพสตรีคนหนึ่งบอกว่าเธอจะช่วยดูแลลูกสาวผม ผมเลยอุ้มลูกชายลงบันไดไปหารถพยาบาล เราพาเขาไปโรงพยาบาล ในตอนนั้นผมเฝ้าแต่ตะโกนขอให้พวกเขาช่วยชีวิตลูกชายผมด้วย" แมทธิว เผย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Daniel Linsey
ทั้งนี้ แมทธิวและลูก ๆ เป็นนักท่องเที่ยวจากลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่เนื่องจากแมทธิวนั้นมีสถานะเป็นพลเมืองอเมริกัน เขาจึงติดต่อขอความช่วยเหลือจากสถานทูตอเมริกัน จนได้รับการช่วยเหลือนำตัวส่งไปยังสหรัฐอเมริกาในที่สุดในวันที่เกิดเหตุ โดยจากนี้เขากำลังเตรียมการเพื่อประสานรับศพของลูก ๆ ทั้ง 2 คนกลับมายังบ้านเกิดในประเทศอังกฤษ
อนึ่ง ในวันที่เกิดเหตุนั้น ภรรยาของแมทธิวพร้อมลูกอีก 2 คน อยู่ที่ประเทศอังกฤษ ทำให้รอดพ้นจากภัยดังกล่าว แต่พวกเขาก็ต้องเผชิญกับความเศร้าอย่างหนัก เมื่อได้ทราบถึงข่าวการสูญเสียที่เกิดขึ้น