ปิยบุตร หวั่นเก้าอี้หาย จี้ กกต. ยึดสูตร ม.91 เคาะปาร์ตี้ลิสต์ 7.1 หมื่นคะแนน

          ปิยบุตร จี้ กกต. คำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ตามมาตรา 91 ขู่ใช้สูตร 27 พรรค อาจขัดรัฐธรรมนูญ แจงปมศาลรัฐธรรมนูญ ตีความ พ.ร.ป. 128 ขัดกับมาตรา 91 คนละเรื่องกับสูตรคำนวณของ กกต. 

          นายปิยบุตร แสงกนกกุล
ภาพจาก Workpoint News

        วันที่ 7 พฤษภาคม 2562 แนวหน้า รายงานว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงหลัง กกต. รับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 349 คน ว่า ตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ. เกี่ยวกับการคำนวณ มี 2 มาตรา คือ รัฐธรรมนูญ มาตรา 91 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 โดยทั้ง 2 มาตรามีใจความว่า วิธีการคำนวณต้องคิดจากจำนวน ส.ส. พึงมี ก่อนที่ 71,574.98 คะแนน หมายความว่า พรรคใดที่มี ส.ส. ในสภาได้ ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 71,000 คะแนน เว้นแต่พรรคที่มี ส.ส.เขต มากกว่า ส.ส. พึงมี นั่นคือพรรคเพื่อไทย ในส่วนของพรรคอนาคตใหม่ มีคะแนนดิบ 6,265,950 คะแนน และอาจได้เพิ่มอีกจากการเลือกตั้งซ่อมเขต 8 จ.เชียงใหม่ รวมคร่าว ๆ ประมาณ 6.3 ล้านคะแนน ซึ่งจะได้ ส.ส. ทั้งหมด 87 ที่นั่ง

          และหากพรุ่งนี้ (8 พฤษภาคม 2562) กกต. ใช้สูตรคำนวณแบบ 27 พรรค จะทำให้อนาคตใหม่มีจำนวน ส.ส. เหลือเพียง 80 คน คิดเป็นคะแนนดิบที่หายไปประมาณ 600,000 คะแนน หมายความว่า 600,000 เสียงของประชาชนที่เลือกจะหายไป ซึ่งจะส่งผลตามมาหลายประการ ได้แก่

        1. ความไม่เป็นธรรมจากคะแนนที่หายไป ทั้ง พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ เสรีรวมไทย ก็โดนเช่นกัน แต่พรรคเราโดนเยอะที่สุดถึง 7 คน

        2. เกิดความไม่เป็นธรรมระหว่างผู้สมัครแบบแบ่งเขต หลายเขตผู้สมัครได้คะแนน 30,000 ถึง 40,000 คะแนน จึงได้เป็น ส.ส. แต่ปรากฏว่าบางพรรคได้คะแนนเพียง 30,000-60,000 จากทั้งประเทศ กลับได้ ส.ส. 1 คน

        3. การจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคที่อยู่ฝ่ายต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. เสียงจะหายไปเกือบ 10 คน หมายความว่าเสียงข้างมากในสภาจะเปลี่ยนไปทันที เพราะพรรคฝ่ายประชาธิปไตยจะมีเสียงไม่ถึง 250 เสียง เกิดความไม่เป็นธรรม ซึ่ง กกต. ต้องยึดเอาตามที่ประกาศในกฎหมายล่วงหน้า


          ส่วนกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินร้องที่ศาลรัฐธรรมนูญ กรณี พ.ร.ป.ประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 128 ขัดกับ รัฐธรรมนูญ มาตรา 91 หรือไม่ กรณีดังกล่าว ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเป็นเช่นใดก็ไม่ส่งผลกระทบกับการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าการเลือกตั้งจะเป็นโมฆะ หากวินิจฉัยว่า มาตรา 128 ไม่ขัด กกต. ก็ไม่มีทางเป็นอื่น ที่จะคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ได้ อย่างไรเสียก็ต้องคำนวณจากมาตรา 91 เป็นหลัก สูตร 27 พรรคก็เกิดไม่ได้
แต่สิ่งที่กำลังขยายความกันอยู่ ทำราวกับว่าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.ป.ประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 128 ไม่ขัด จะให้ กกต. ใช้ สูตร 27 พรรคมาคำนวณได้ทันที ทั้งที่ความจริงเป็นคนละเรื่องกัน เพราะอำนาจการคำนวณสูตร เป็นอำนาจของ กกต. เว้นเสียแต่ กกต. จะคำนวณขัดกับมาตรา 91 หาก กกต. ตีความสูตรตำนวณจาก พ.ร.ป.ประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 128 แล้วตีความเอง จนเกิดสูตร 27 พรรค แต่ปรากฏว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ นี่ไม่ใช่เรื่องกฎหมายขัดกับรัฐธรรมนูญ แต่เป็นเรื่องการใช้อำนาจ กกต. ขัดกับรัฐธรรมนูญ

นายปิยบุตร แสงกนกกุล
ภาพจาก Workpoint News

          ทั้งนี้ จึงต้องการให้ทาง กกต. คำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โดยคิดจากฐานรัฐธรรมนูญ ตามที่มาตรา 91 ระบุ พรรคไหนไม่ถึง 71,000 คะแนน ก็ต้องเป็นไปตามนั้น หากการใช้อำนาจของ กกต. ทำให้พรรคอนาคตใหม่ หายไป 600,000 คะแนน และ ส.ส. 7 คน รวมถึงคะแนนเสียง และจำนวนของ ส.ส. ของพรรคอื่นที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ตนยังขอส่งสัญญาณไปว่าหากใช้อำนาจโดยไม่ชอบ จะต้องรับผิดทางกฎหมายด้วย ที่สำคัญคือจะกระทบกับทิศทางการจัดตั้งรัฐบาล และเสียงของประชาชนที่เลือกพวกเขาเหล่านี้ เรื่องนี้เขียนไว้ชัดแล้ว ต้องดำเนินตามกติกา

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปิยบุตร หวั่นเก้าอี้หาย จี้ กกต. ยึดสูตร ม.91 เคาะปาร์ตี้ลิสต์ 7.1 หมื่นคะแนน อัปเดตล่าสุด 8 พฤษภาคม 2562 เวลา 14:34:49 2,653 อ่าน
TOP
x close