หมอเปิดใจ เคยหันหน้าพึ่งยาไอซ์-เสพติดหนัก รับมือกับการเข้าเวรต่อเนื่อง 48 ชม.

 

             หมอเปิดใจ กลายเป็นคนติดยา หลังต้องทำงานหนัก เข้าเวรต่อเนื่อง 48 ชั่วโมง หวังใช้ยาไอซ์เพิ่มพลังงาน คิดว่าควบคุมตัวเองได้เพราะเป็นหมอ แต่กลับคิดผิด จนชีวิตหวิดพัง


หมอเปิดใจ เคยพึ่งยาไอซ์
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

            ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าการทำหน้าที่ในฐานะแพทย์นั้น นับเป็นหนึ่งในงานที่ต้องแบกรับภาระอันหนักหน่วง นอกจากการรับผิดชอบชีวิตของผู้ป่วยจำนวนมากที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ยังต้องรับมือกับการทำงานหนัก จากการเข้าเวรติดต่อกันเป็นระยะเวลาอันยาวนาน บางครั้งอาจกินเวลาข้ามวันเกินกว่า 24 ชั่วโมง

            ด้วยสภาพทำงานหนักพักผ่อนน้อยที่ต้องเผชิญ ทำให้แพทย์ชาวมาเลเซียรายหนึ่งตัดสินใจหันหน้าเข้าหายาเสพติด หวังใช้เป็นตัวช่วยในการเพิ่มพลังงาน แต่สุดท้ายเขาต้องกลายมาเป็นคนติดยา และต้องต่อสู้กับอาการติดยานี้มานานถึง 9 ปี ซึ่งเขาก็ตัดสินใจนำประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเขามาบอกเล่าผ่านทางเว็บไซต์อ็อดดิตี้เซ็นทรัล  เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2562 

            โดย ดร.ศศิธารัน อยาไน แพทย์วัย 39 ปี ซึ่งทำงานอยู่ในโรงพยาบาลรัฐ ของเมืองยะโฮร์บาห์รู ประเทศมาเลเซีย สารภาพว่า เขาเริ่มเสพติดเมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์ ตั้งแต่ 9 ปีก่อน เพียงไม่นานหลังเขาเรียนจบจากโรงเรียนแพทย์ที่รัสเซีย กลับมาทำงานยังประเทศบ้านเกิด เขาก็ต้องเข้าเวรทำงานเป็นเวลานาน บางครั้งลากยาวไปจนถึง 48 ชั่วโมง การที่ไม่มีเวลาพักผ่อนอย่างเพียงพอ ประกอบกับการต้องรักษาคนไข้จำนวนนับไม่ถ้วนที่หลั่งไหลเข้ามา ทำให้หมอหนุ่มอย่างเขาทนรับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ไหว เขาเครียดมาก และอยากจะหาหนทางในการเพิ่มพลังของตัวเอง ให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวได้ จึงตัดสินใจลองใช้ยาไอซ์ในที่สุด

            "ในใจของผมตอนนั้น ผมคิดว่าจะรอดพ้นจากการติดยา เพราะคิดว่าตัวเองเป็นหมอ ผมคงสามารถควบคุมมันได้ แต่ผมคิดผิด ยาเสพติดมันครอบงำผม และทำให้ผมใช้ยาหนักขึ้น" ดร.ศศิธารัน เผย

            เวลาผ่านไปนานถึง 3 ปี กว่า ดร.ศศิธารัน จะตระหนักได้ว่าอาการติดยาของเขาเลวร้ายแค่ไหน และเขาก็ไม่ขอทนมันอีกต่อไป ดร.ศศิธารัน ตัดสินใจเข้าไปรับการบำบัดที่ศูนย์บำบัด Rumah Pengasih ก่อนจะกลายเป็นแพทย์ประจำศูนย์แห่งนี้ ในที่สุดเขาก็เลิกยาได้ แต่ในอีกไม่กี่ปีต่อมา เขาก็ต้องยอมแพ้ให้กับยาเสพติดอีกครั้ง

            "ในปี 2560 ผมได้ออกมาจากศูนย์ เพราะพ่อของผมป่วย ในตอนนั้นมันเป็นเรื่องยากที่ผมจะปรับตัวได้ และเมื่อเวลา 6 เดือนผ่านไป อาการติดยาของผมก็กลับมาใหม่เมื่อต้องทนรับมือจากความซึมเศร้า ที่เกิดจากการดูหมิ่นจากเหล่าญาติ" ดร.ศศิธารัน กล่าว

            ทั้งนี้ ดร.ศศิธารัน เพิ่งจะกลับไปรับการบำบัดจากศูนย์อีกครั้งเมื่อ 2 เดือนก่อน และกำลังอยู่ในเส้นทางการบำบัด โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในครั้งนี้เขาจะสามารถอยู่ห่างจากยานรกเหล่านั้นได้เสียที เพราะแม้ว่ายาไอซ์จะมอบพลังงานที่เขาต้องการได้ แต่ผลข้างเคียงของมันก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเขามากเหลือเกิน ทั้งในเรื่องบุคลิกส่วนตัว การเข้าสังคม โดยเขามักรู้สึกเกรี้ยวกราดโดยไม่มีเหตุผล อารมณ์แปรปรวน และถึงขั้นยกเลิกงานแต่งงานของตัวเอง เพียง 20 วันก่อนถึงวันงาน

            ทางด้าน รามิล อับด์ ซามัด ประธานของศูนย์บำบัด เผยว่า ที่ผ่านมาเราได้รู้ว่าอาการติดยามักเกิดขึ้นในกลุ่มคนที่มีพื้นฐานทางสังคมไม่เอื้ออำนวยนัก แต่นั่นก็ไม่ใช่ทั้งหมด ในตอนนี้มีคนการศึกษาสูงจำนวนไม่น้อยที่หันหน้าพึ่งพายาเสพติด เพื่อจะให้ตัวเองทำงานได้ดียิ่งขึ้น

            ในขณะที่ก่อนหน้านี้ ยาเสพติดมักถูกนำมาใช้เพื่อผ่อนคลายจิตใจ ทำให้รู้สึกสนุกสนานหรือมึนเมาตามไนต์คลับ แต่ในทุกวันนี้มีคนมากมายที่ใช้ยาเพื่อการทำงาน เช่น เพิ่มความมั่นใจขณะนำเสนอแผนงาน หรืองานอื่น ๆ เพราะยาเสพติดยุคใหม่นั้นมีความสามารถในการเพิ่มสมาธิและพลังงานแก่ผู้ใช้ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นยาเสพติดย่อมเป็นสิ่งให้โทษ และสิ่งที่ต้องแลกมานั้นก็คือความสูญเสียที่ไม่อาจหวนกลับ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หมอเปิดใจ เคยหันหน้าพึ่งยาไอซ์-เสพติดหนัก รับมือกับการเข้าเวรต่อเนื่อง 48 ชม. อัปเดตล่าสุด 11 มิถุนายน 2562 เวลา 15:05:36 23,502 อ่าน
TOP
x close