ปูนบำเหน็จ 2.5 ล้าน ตำรวจถูกคนร้ายขับรถชน เมียเผยก่อนตายพูดเป็นลาง อยากพัก

 
            เตรียมเลื่อนยศ ตำรวจถูกคนร้ายขับรถชนตาย จากดาบตำรวจ เป็น พันตำรวจตรี พร้อมเยียวยาช่วยเหลือ 2.5 ล้าน เมียร่ำไห้ใจแทบขาด ทำใจไม่ได้ เผยก่อนตาย สามีพูดเป็นลาง บ่นอยากพัก



            จากกรณี ด.ต. ปุญกฤษ บัวแก้ว อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ หลังจากถูกคนร้ายขับรถพุ่งชน ขณะออกจับกุมเครือข่ายยาเสพติด โดยล่าสุด กลุ่มคนร้ายผู้ก่อเหตุได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้วนั้น (อ่านข่าว : ด.ต. สังเวยแก๊งค้ายาเสพติด หลังล่อซื้อแต่คนร้ายรู้ตัว ขับรถชนตำรวจจนตาย)

            เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (28 มิถุนายน 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า พล.ต.ต. อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ด.ต. ปุญกฤษ ปฏิบัติหน้าที่เป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติด ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี มานานกว่า 5 ปี ที่ผ่านมาเป็นคนขยันทำงานมาโดยตลอด มีความมุ่งมั่น และเคยได้รับโล่รางวัลการจับกุมยาเสพติดดีเด่น

ขับรถชนตำรวจ
            จากนี้จะมีการเลื่อนชั้นยศตำแหน่งให้ ด.ต. ปุญกฤษ จาก ดาบตำรวจ เป็น พันตำรวจตรี และให้ทายาทเข้ารับข้าราชการตำรวจได้ 1 คน เบื้องต้นได้ติดต่อแสดงความเสียใจกับครอบครัวแล้ว และจะมีการช่วยเหลือการจัดงานศพต่อไป รวมทั้งจะมอบเงินปูนบำเหน็จให้จำนวน 2.5 ล้านบาท

            ขณะที่ นายติ่ง พี่ชายนายสุรเชษฐ์ คนร้ายผู้ก่อเหตุขับรถชน ด.ต. ปุญกฤษ เปิดใจเล่าว่า ตนยอมรับว่ารู้เรื่องที่น้องชายเข้าไปพัวพันยุ่งเกี่ยวยาเสพติด ตนและครอบครัวได้พยายามห้ามปรามแล้ว แต่น้องชายก็ปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้เข้าไปมั่วสุม

ขับรถชนตำรวจ
นายติ่ง พี่ชายนายสุเชษฐ์

            ในช่วงก่อนเกิดเหตุ น้องชายได้ขอยืมรถยนต์ของอาออกไปข้างนอก อ้างว่าจะขับไปรับแฟนสาว จนกระทั่งตนมาทราบข่าวว่ามีการขับรถชนตำรวจ จึงได้รีบกลับมาบ้าน และพบว่ารถคันดังกล่าวไม่ได้อยู่ที่บ้าน ตนจึงพยายามติดต่อไปหาน้องชาย เกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัว เพราะเกรงว่าจะถูกวิสามัญ

            นายติ่ง กล่าวอีกว่า ตนและครอบครัวรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียชีวิตด้วย ทั้งนี้ตนและครอบครัวจะไม่ต่อสู้คดี ปล่อยให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป เพราะน้องชายมีความผิดจริง

ขับรถชนตำรวจ
นางอรอนงค์ ภรรยาเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียชีวิต

           ทางด้าน นางอรอนงค์ บัวแก้ว อายุ 44 ปี ภรรยาของ ด.ต. ปุญกฤษ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ ตนทราบว่าสามีออกไปปฏิบัติหน้าที่กับทีมชุดจับกุมยาเสพติด และคุยผ่านไลน์กันอยู่ตลอด จนกระทั่งสามีขาดการติดต่อไปพักใหญ่ ตนยังไม่ได้เอะใจ เพราะคิดว่ากำลังอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ จนมาทราบข่าวว่าสามีเสียชีวิต

           นางอรอนงค์ กล่าวอย่างเจ็บปวดว่า ยอมรับว่าตนเสียใจมาก ทำใจไม่ได้ เพราะสามีเป็นคนดี ขยันทำงาน รับผิดชอบหน้าที่ ดูแลครอบครัวอย่างดีมาโดยตลอด และสามีมักจะบอกกับตนเสมอว่า เป็นเมียตำรวจ ต้องอดทน

           ก่อนหน้านี้ตนเคยได้ยินว่าสามีเคยบ่นว่าเหนื่อย อยากหยุดพักบ้าง เพราะงานออกจับกุมยาเสพติดนั้นเหนื่อยล้า อีกทั้งยังเสี่ยงอันตราย ตอนนี้สามีได้เสียชีวิตไปแล้ว แม้ว่าตนจะเจ็บปวดที่เขาจากไป แต่ก็ภูมิใจที่อย่างน้อยเขาได้เสียชีวิตขณะทำงานที่เขารัก

           ขณะที่ นางโสภา บัวแก้ว อายุ 75 ปี แม่ของ ด.ต. ปุญกฤษ กล่าวว่า ลูกชายเป็นคนทำงานเก่ง ปราบโจรผู้ร้ายเก่ง ได้รับรางวัลด้านการจับกุมยาเสพติดมากมาย ที่ผ่านมายอมรับว่าหวาดระแวงและกังวลทุกครั้งที่ลูกออกไปปฏิบัติหน้าที่ ทุก ๆ คืน ตนจะคอยไหว้พระ สวดมนต์ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองลูกให้ปลอดภัย

ขับรถชนตำรวจ
นางโสภา แม่ ด.ต. ปุญกฤษ

           ในวันนี้ที่ลูกชายเสียชีวิตจากไป ตนได้รับรู้ว่ามีคนมาแสดงความเสียใจและยกย่องลูกชายเป็นจำนวนมาก ก็รู้สึกภาคภูมิใจในตัวลูกชาย และอยากให้ลูกไปสู่ภพภูมิที่ดี แต่ก็ยอมรับว่ายังคงทำใจไม่ได้ เพราะได้เสียเสาหลักของครอบครัวไปแล้ว

           ส่วนกรณีที่ทางตำรวจจะช่วยเหลือเยียวยา มอบโอกาสให้ทายาทตำรวจที่เสียชีวิตสามารถเข้ารับข้าราชการเป็นตำรวจได้ 1 คน นั้น ตนยอมรับว่าไม่อยากให้หลานชายวัย 18 ปี ไปเป็นตำรวจตามรอยพ่อ เพราะกลัวเกิดเหตุซ้ำรอย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปูนบำเหน็จ 2.5 ล้าน ตำรวจถูกคนร้ายขับรถชน เมียเผยก่อนตายพูดเป็นลาง อยากพัก อัปเดตล่าสุด 1 กรกฎาคม 2562 เวลา 18:03:13 36,629 อ่าน
TOP
x close