ทหารยศ พ.อ. ร้องสื่อ แม่ป่วยอัลไซเมอร์ถูก 3 พี่สาวบุกอุ้มไปขังไว้ที่บ้าน ย่านรามคำแหง ผ่านไป 12 วันไร้การติดต่อ หวั่นเอาไปอ้างรับมรดกแม่ 300 ล้าน
![ศึกชิงมรดก 300 ล้าน]( "ศึกชิงมรดก 300 ล้าน")
โดย พ.อ. โยธิน เล่าว่า ตนและภรรยาดูแลแม่มากว่า 10 ปี ส่วนพี่สาวไม่ได้ดูแลแต่จะแวะมาเยี่ยมเดือนละ 3 ครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้พี่สาวแอบไปเดินเรื่องขอเป็นผู้อนุบาลแม่ และศาลแต่งตั้งให้เป็นผู้อนุบาลตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ก็ 5 เดือนแล้ว แต่พี่สาวก็ไม่เคยมาแจ้งกับตนว่าเป็นผู้อนุบาล ประกอบกับแม่มีคดีที่ต้องต่อสู้ ถ้าชนะคดีจะได้ทรัพย์สิน 200-300 ล้านบาท ดังนั้นการเป็นผู้อนุบาลจะได้บริหารทรัพย์สินทั้งหมด ซึ่งตนได้แจ้งความที่ สน.บางชัน ไว้แล้วเนื่องจากตนอยากรับแม่กลับมาอยู่ด้วย แต่ไม่กล้าเข้าไปช่วยออกมา เพราะกลัวโดนพี่สาวแจ้งข้อหาบุกรุก นอกจากนี้ ตนเตรียมไปร้องเรียนที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ให้ช่วยเหลือด้วย
![ศึกชิงมรดก 300 ล้าน]( "ศึกชิงมรดก 300 ล้าน")
นอกจากนี้วันเกิดเหตุนั้นตรงกับวันที่ศาลมีการนัดอ่านคำพิพากษาเกี่ยวกับคดีมรดกของแม่อีกด้วย ส่วนตัวไม่ทราบว่ามารับแม่ไปด้วยสาเหตุนี้หรือไม่ โดยสามีพยายามติดต่อหาฝ่ายพี่สาวแล้ว แต่ก็ไม่รับสาย ซึ่งตนยืนยันว่าแม่สามีร่างกายแข็งแรง ไม่ได้ป่วย ไม่ใช่ผู้ป่วยติดเตียง ตนไม่รู้ว่ากลุ่มพี่สะใภ้ต้องการอะไร ทำไปเพื่ออะไร สิ่งที่ฝ่ายตนห่วงที่สุดคือสุขภาพของแม่ และอยากบอกไปถึงคนที่ทำเช่นนี้กับแม่ ขอให้หยุดทำเพราะมันเป็นกรรม
![ศึกชิงมรดก 300 ล้าน]( "ศึกชิงมรดก 300 ล้าน")
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
วันที่ 25 กรกฎาคม 2562 อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า พ.อ.
โยธิน อัศวเมธ ร้องเรียนว่า พี่สาว 3 คน ลักพาตัวแม่อายุ 86 ปี
ซึ่งป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ ไปกักขังหน่วงเหนี่ยวที่บ้านหลังหนึ่ง
ย่านรามคำแหง
โดยรู้มาว่าทางพี่สาวหวังเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินและมรดกของแม่จำนวนหลายร้อยล้าน
โดย พ.อ. โยธิน เล่าว่า ตนและภรรยาดูแลแม่มากว่า 10 ปี ส่วนพี่สาวไม่ได้ดูแลแต่จะแวะมาเยี่ยมเดือนละ 3 ครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้พี่สาวแอบไปเดินเรื่องขอเป็นผู้อนุบาลแม่ และศาลแต่งตั้งให้เป็นผู้อนุบาลตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ก็ 5 เดือนแล้ว แต่พี่สาวก็ไม่เคยมาแจ้งกับตนว่าเป็นผู้อนุบาล ประกอบกับแม่มีคดีที่ต้องต่อสู้ ถ้าชนะคดีจะได้ทรัพย์สิน 200-300 ล้านบาท ดังนั้นการเป็นผู้อนุบาลจะได้บริหารทรัพย์สินทั้งหมด ซึ่งตนได้แจ้งความที่ สน.บางชัน ไว้แล้วเนื่องจากตนอยากรับแม่กลับมาอยู่ด้วย แต่ไม่กล้าเข้าไปช่วยออกมา เพราะกลัวโดนพี่สาวแจ้งข้อหาบุกรุก นอกจากนี้ ตนเตรียมไปร้องเรียนที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ให้ช่วยเหลือด้วย
ด้านนางศศิกานต์
ภรรยาของ พ.อ. โยธิน กล่าวว่า วันเกิดเหตุคือช่วงเที่ยงของวันที่ 12
กรกฎาคม ตนออกไปทำบุญนอกบ้าน มีเพียงคนงานที่บ้านคอยดูแลแม่สามีอยู่
ระหว่างนั้นพี่สาวของสามี 3 คน เดินทางมาที่บ้าน
ทำทีมาเยี่ยมแม่และบอกกับคนงานว่า แม่ตัวร้อนจะพาไปโรงพยาบาล
และเรียกรถกู้ชีพมารับแม่ไป เมื่อตนกลับมาบ้านจึงสอบถามคนงาน ทราบว่า
วันดังกล่าวพี่สาวของสามี 1 คน มีการเดินเข้าเดินออกบ้าน
และโทรศัพท์อยู่ตลอด คล้ายกังวลว่าตนและสามีจะกลับมา
อีกทั้งแม่สามีขณะนั้นกำลังทำธุระอยู่ในห้องน้ำ
พี่สาวคนหนึ่งก็เร่งให้แม่รีบใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ โดยไม่ต้องล้างก้น
ให้รีบออกไป จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลา 12 วันแล้วที่ยังไม่พาแม่กลับมา
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
นอกจากนี้วันเกิดเหตุนั้นตรงกับวันที่ศาลมีการนัดอ่านคำพิพากษาเกี่ยวกับคดีมรดกของแม่อีกด้วย ส่วนตัวไม่ทราบว่ามารับแม่ไปด้วยสาเหตุนี้หรือไม่ โดยสามีพยายามติดต่อหาฝ่ายพี่สาวแล้ว แต่ก็ไม่รับสาย ซึ่งตนยืนยันว่าแม่สามีร่างกายแข็งแรง ไม่ได้ป่วย ไม่ใช่ผู้ป่วยติดเตียง ตนไม่รู้ว่ากลุ่มพี่สะใภ้ต้องการอะไร ทำไปเพื่ออะไร สิ่งที่ฝ่ายตนห่วงที่สุดคือสุขภาพของแม่ และอยากบอกไปถึงคนที่ทำเช่นนี้กับแม่ ขอให้หยุดทำเพราะมันเป็นกรรม
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
