ศาลฎีกาฯ นักการเมือง ยกฟ้องทักษิณ คดีปล่อยกู้แบงก์กรุงไทยให้กลุ่มกฤษดามหานคร ชี้ พยานโจทก์ไม่มีน้ำหนักให้เชื่อว่า ซูเปอร์บอสนายทักษิณ
จากกรณีเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2546 - 30 เมษายน 2547 ได้อนุมัติสินเชื่อธนาคารกรุงไทย ให้นิติบุคคล ในกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ซึ่งเป็นจำเลยร่วมในคดีนี้ นำไปซื้อที่ดินโดยไม่มีการวิเคราะห์ถึงฐานะทางการเงิน และความสามารถในการชำระหนี้ โดยพวกจำเลยนำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต เป็นเหตุให้ธนาคารกรุงไทยได้รับความเสียหาย เป็นเงิน 10,054,467,480 บาท
คดีนี้นายทักษิณ
จำเลย ได้มอบอำนาจให้ทนายความร่วมโต้แย้งคดีเป็นสำนวนแรกและสำนวนเดียวที่ได้ถูกยื่นฟ้องคดีในศาลฎีกาฯ
ซึ่งวันนี้ทนายความก็ได้มาฟังคำพิพากษาด้วย
ทั้งนี้ องค์คณะพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานของอัยการโจทก์ ซึ่งเป็นอดีตกรรมการของธนาคารกรุงไทย ผู้เสียหาย เบิกความเกี่ยวกับซูเปอร์บอส หรือ บิ๊กบอส เห็นชอบและสั่งการให้อนุมัติสินเชื่อให้กับกลุ่มกฤษดามหาคร จำเลยที่ 19 ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นจำเลยที่ 1 หรือไม่ เพราะพยานได้รับฟังมาจากจำเลยที่ 2 ในคดีนี้ พยานปากนี้จึงยังไม่มีน้ำหนักว่านายทักษิณ จำเลยที่ 1 สั่งการให้จำเลยที่ 2-4 ซึ่งเป็นผู้บริหารธนาคารกรุงไทยที่มีอำนาจอนุมัติสินเชื่อให้กลุ่มกฤษดามหานคร จำเลยที่ 19 จึงพิพากษายกฟ้อง
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2562 สำนักข่าว INN รายงานว่า
ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายวิชัย
เอื้ออังคณากุล รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา 9 คน
มาฟังคำพิพากษาคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 27 ราย เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
และโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, ความผิด
พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502
และข้อหาอื่น
จากกรณีเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2546 - 30 เมษายน 2547 ได้อนุมัติสินเชื่อธนาคารกรุงไทย ให้นิติบุคคล ในกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ซึ่งเป็นจำเลยร่วมในคดีนี้ นำไปซื้อที่ดินโดยไม่มีการวิเคราะห์ถึงฐานะทางการเงิน และความสามารถในการชำระหนี้ โดยพวกจำเลยนำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต เป็นเหตุให้ธนาคารกรุงไทยได้รับความเสียหาย เป็นเงิน 10,054,467,480 บาท
ทั้งนี้ องค์คณะพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานของอัยการโจทก์ ซึ่งเป็นอดีตกรรมการของธนาคารกรุงไทย ผู้เสียหาย เบิกความเกี่ยวกับซูเปอร์บอส หรือ บิ๊กบอส เห็นชอบและสั่งการให้อนุมัติสินเชื่อให้กับกลุ่มกฤษดามหาคร จำเลยที่ 19 ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นจำเลยที่ 1 หรือไม่ เพราะพยานได้รับฟังมาจากจำเลยที่ 2 ในคดีนี้ พยานปากนี้จึงยังไม่มีน้ำหนักว่านายทักษิณ จำเลยที่ 1 สั่งการให้จำเลยที่ 2-4 ซึ่งเป็นผู้บริหารธนาคารกรุงไทยที่มีอำนาจอนุมัติสินเชื่อให้กลุ่มกฤษดามหานคร จำเลยที่ 19 จึงพิพากษายกฟ้อง
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN