ช้างแคระบอร์เนียว ถูกพรานล่าเอางา กระหน่ำยิงใส่กว่า 70 นัด จนพรุนทั่วร่างตายสลด เผยเป็นช้างป่าหายากใกล้สูญพันธุ์ แทบไม่เหลือในป่าเพราะฝีมือมนุษย์
ภาพจาก Sabah Wildlife Department
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2562 เว็บไซต์ยาฮูสิงค์โปร์ รายงานข้อมูลอ้างอิงจากสำนักข่าวเอเอฟพี ระบุว่า ช้างแคระบอร์เนียว หนึ่งในสายพันธุ์ช้างหายาก ถูกนายพรานยิงตาย ภายในพื้นที่รัฐซาบาห์ เขตแดนของมาเลเซียบนเกาะบอร์เนียว เจ้าหน้าที่พบซากช้างเพศผู้ตัวนี้ตายลอยในน้ำ มันมีเชือกผูกรัดคอลามกับต้นไม้ริมฝั่ง งาถูกตัดเอาไป และตามลำตัวมีร่องรอยถูกกระสุนยิงทั่วร่าง
ข้อมูลจากองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลระบุว่า ช้างแคระบอร์เนียวเป็นสายพันธุ์ช้างเอเชียที่มีขนาดเล็กที่สุด ลักษณะเด่นของพวกมันคือมีรูปร่างและใบหน้าเหมือนกับลูกช้าง มันมีใบหูที่ใหญ่กว้าง ท้องกลม มีหางที่ยาวมาก และมีงาที่ค่อนข้างยาว
ช้างแคระบอร์เนียวอาศัยกระจัดกระจายอยู่บนเกาะบอร์เนียว ปัจจุบันช้างแคระบอร์เนียวถูกจัดอยู่กลุ่มสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ มีจำนวนเหลืออยู่ในธรรมชาติเพียง 1,500 ตัว เท่านั้น และมีสถานะเป็นสัตว์สงวนตามกฎหมายมาเลเซีย
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชากรช้างแคระบอร์เนียวลดลงอย่างน่าตกใจ คือ
มนุษย์ โดยที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติถูกรุกรานเพื่อทำการเกษตร
และพวกมันยังตกเป็นเหยื่อของเหล่านายพรานล่าสัตว์ที่ตามล่าและฆ่ามันเพื่อเอางา
ภาพจาก Sabah Wildlife Department
คาดว่านายพรานผู้ก่อเหตุน่าจะมีประมาณ 5-6 คน ซึ่งใช้ปืนกึ่งอัตโนมัติกระหน่ำยิงใส่ช้างตัวนี้ในระยะใกล้ ส่งผลให้ร่างของมันโดนกระสุนเจาะพรุนทั่วร่าง นับรอยกระสุนได้มากกว่า 70 รอย เบื้องต้นสันนิษฐานว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นคนในพื้นที่
ด้าน เอลิซาเบธ จอห์น เจ้าหน้าที่หน่วยเฝ้าระวังสัตว์ป่าสากล กล่าว นับตั้งแต่ปี 2561 สถิติการล่าช้างแคระบอร์เนียวเพิ่มสูงขึ้นมาก และมันอยู่ในสถานการณ์ที่น่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง ทางการท้องถิ่นไม่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายผู้ก่อเหตุได้เลย
ทางองค์กรคาดหวังให้เจ้าหน้าที่พื้นที่เร่งสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามล่าตัวกลุ่มคนร้ายผู้ก่อเหตุให้ได้ การจับกุมคนร้ายเหล่านี้ นอกจากจะเป็นผลดีต่อช้างแล้ว ยังอาจสืบสวนสอบสวนขยายผลไปยังขบวนแก๊งล่าสัตว์อื่น ๆ ได้อีก