เปิดคดีช็อก ช่างประจำโรงเรียน หายตัวปริศนา 16 ปีก่อน ถูกพบเป็นโครงกระดูกใต้ลู่วิ่งสนามกีฬาโรงเรียน นำไปสู่การสืบสวนคดีฆาตกรรม ยิ่งสืบยิ่งทึ่ง คนมีเอี่ยวตั้งแต่ผู้มีอิทธิพล ผอ.โรงเรียน ยันข้าราชการ โดนลงทัณฑ์ยกโขยง 19 คน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
คดีนี้ถูกรื้อขึ้นมาสืบสวน หลังจากพบโครงกระดูกซุกซ่อนอยู่ใต้สนามกีฬาโรงเรียน ซึ่งในที่สุด ผู้เสียชีวิตก็ได้รับความเป็นธรรม และที่น่าเศร้าก็คือ คนที่ช่วยปกปิดเรื่องนี้ คือคนใกล้ชิดของผู้เสียชีวิต รวมทั้งลุงแท้ ๆ ของเขา
ย้อนกลับไปในปี 2546 ได้มีการรีโนเวทสนามกีฬาโรงเรียนมัธยมต้นซินหวงหมายเลข 1 ในเมืองไฮว่ไห่ มณฑลหูหนาน ทางตอนใต้ของจีน โดย เติ้งสือปิง ช่างซ่อมบำรุงของโรงเรียน ได้คอยตรวจดูการซ่อมแซมสนามกีฬาของโรงเรียน และพบว่าการก่อสร้างไม่มีคุณภาพ
เติ้งสือปิงปฏิเสธที่จะลงนามรับรองในเอกสารตรวจรับงาน และเข้าแจ้งเรื่องการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานกับหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่น และหลังจากนั้น เขาก็หายตัวไปอย่างลึกลับ ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน และไม่มีใครพบเห็นเขาอีกเลย
จนกระทั่งในเดือนมิถุนายน 2562 ทางโรงเรียนได้มีการขุดสนามกีฬา และพบโครงกระดูกมนุษย์ผู้ชายใต้ลู่วิ่งข้างสนามฟุตบอล ตำรวจสันนิษฐานว่าเจ้าของโครงกระดูกนี้คือ เติ้งสือปิง และมันนำไปสู่การสืบสวนสอบสวนคดีฆาตกรรม
เซี่ยงไฮ้อิสต์
รายงานอีกว่า จากการสืบสวนสอบสวน
รวมทั้งสอบปากคำน้องชายและลูกชายของเติ้งสือปิง นำไปสู่การจับกุม
ตู้เส้าผิง
ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นซึ่งรับหน้าที่ปรับรุงสนามกีฬาดังกล่าวเมื่อ 16
ปีก่อน และ หลัวกวางจง คนที่ตู้เส้าผิงจ้างมาช่วยงานปรับปรุงสนาม
ทั้งสองให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันฆ่า เติ้งสือปิง และได้นำศพไปซ่อนเอาไว้ภายใต้ลู่วิ่ง ผู้ที่มีส่วนสำคัญในการปกปิดเรื่องนี้คือ หวงปิงซ้ง ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวซึ่งเป็นลุงของเติ้งสือปิง ช่างหนุ่มผู้เสียชีวิต โดย ผอ. รายนี้ได้ใช้เส้นสายและอิทธิพลในการแทรกแซงการสืบสวนการหายตัวไปของเติ้งสือปิง รวมทั้งติดสินบนเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ให้ขุดคุ้ยเรื่องนี้ต่อ
หนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่รับสินบนคือ หยางจุน ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการสำนักงานความมั่นคงสาธารณะอำเภอซินหวง อดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนของ เติ้งสือปิง
ทั้ง หยางจุน และ หวงปิงซ้ง ต่างเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน ทั้งสองถูกไล่ออกจากพรรค และกำลังอยู่ในระหว่างรอการดำเนินคดี นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีก 17 คน ที่ถูกลงโทษทางวินัยพร้อมกันแบบยกขโยง