2 พี่น้องเดนนรก บุกกร่างงานแต่ง แค้นโดนเจ้าบ่าวไล่ ย้อนกลับมาฆ่า รุมทุบตายคางาน

 

               เจ้าบ่าวป้ายแดง ถูกฆ่าในงานแต่งงาน เผยคนร้ายเป็นสองพี่น้องแปลกหน้า บุกมาก่อกวนในงานจนโดนเจ้าบ่าวไล่ แค้นไม่พอใจ คว้าไม้เบสบอลย้อนกลับรุมทุบตีเจ้าบ่าวจนตาย
                วันที่ 18 ธันวาคม 2562 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า โจ เมลโกซา ชายหนุ่มชาวอเมริกัน วัย 30 ปี ถูกรุมทำร้ายอย่างป่าเถื่อนและเสียชีวิตสลดภายในงานเลี้ยงแต่งงานของตัวเอง หลังจากเข้าประตูวิวาห์กับหญิงคนรักไปได้ไม่ทันข้ามวัน โดยคนร้ายผู้ก่อเหตุเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่ได้รู้จักมักจี่เจ้าบ่าวเจ้าสาวมาก่อน พวกเขาเข้ามาก่อกวน สร้างความปั่นป่วนภายในงาน ก่อนจะทุบตีเจ้าบ่าวจนตาย

                เหตุการณ์สลดดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองชิโน ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยในวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม โจ ได้เข้าพิธีวิวาห์กับ เอสเธอร์ บุสตามันเต คู่หมั้นสาวที่คบหาดูใจกันมานานหลายปี และมีลูกสาว วัย 10 ขวบ เป็นพยานรัก ซึ่งเธอก็เป็นผู้ถือแหวนในงานนี้

                วันนั้นเป็นวันที่อากาศแจ่มใส พิธีในโบสถ์ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี โดยแอนดี้ น้องชายของโจ กล่าวว่า มันเป็นวันแห่งความชื่นมื่นของทุกคน หลังจากเสร็จพิธีในโบสถ์แล้ว บ่าวสาวพร้อมด้วยครอบครัวและแขกเหรื่อ ก็เดินทางกลับบ้านไปเลี้ยงฉลองงานแต่งงาน 


                ข้อมูลจากเดลี่เมล ระบุว่า หลังจากเวลาผ่านพ้นไปจนงานเลี้ยงใกล้จะจบ ชายหนุ่มสองคนที่เป็นพี่น้องกัน ได้เข้ามาในงานโดยไม่ได้รับเชิญ พวกเขาเป็นคนแปลกหน้า ไม่ได้รู้จักอะไรกับเจ้าบ่าวและเจ้าสาว แต่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ไม่ไกลจากบ้านหลังจากที่จัดงาน

                แอนดี้ เล่าว่า สังเกตเห็นชายหนุ่มสองคนนี้ แต่ไม่ทันได้เอะใจสงสัยอะไร เพราะตอนนั้นดึกมากแล้ว เหลือแต่เพื่อนฝูง ญาติพี่น้องและคนสนิท แอนดี้ไม่ได้รู้จักแขกทุกคน จึงคิดว่าสองคนนี้คงน่าจะเป็นคนรู้จักของญาติพี่น้อง

                กระทั่งเวลาต่อมา หนุ่มสองพี่น้องก็ได้เริ่มก่อกวน สร้างความปั่นป่วนภายในงาน และมีเรื่องกับแขกเหรื่อภายในงาน โจผู้เป็นเจ้าบ่าวได้เข้าไปเผชิญหน้ากับทั้งสอง แล้วเชิญให้พวกเขาออกไปจากงาน ซึ่งทั้งสองก็รับฟังคำขอร้องของเจ้าบ่าวและออกไปจากงานแต่โดยดี

                แต่หลังจากงานเลี้ยงจบลง ชายหนุ่มทั้งสองก็ย้อนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับไม้เบสบอลในมือ ทั้งสองไล่ตีคนในงาน แล้วมุ่งเป้าไปที่เจ้าบ่าว พวกเขาวิ่งไล่ตามโจ พากันใช้ไม้เบสบอลกระหน่ำทุบตีเขาอย่างรุนแรง ก่อนจะพากันหลบหนีไป

                เอสเธอร์ เล่าว่า ตัวเองรับรู้ว่าเกิดความวุ่นวายขึ้น และพบเห็นพี่ชายตนเองได้รับบาดเจ็บ จึงได้โทร. แจ้งตำรวจ เอสเธอร์ตะโกนเรียกหาโจ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ บวกกับตอนนั้นมืดมากจึงไม่มีใครรู้ว่าโจหายไปไหน

                กระทั่งเวลา 02.20 น. ของวันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาถึงที่เกิดเหตุ และพบโจนอนจมกองเลือดอยู่ในซอยหลังบ้าน เจ้าหน้าที่ได้เร่งนำตัวโจส่งโรงพยาบาล ทว่าสายเกินกว่าที่แพทย์จะยื้อชีวิตเขาเอาไว้ได้ เขาเสียชีวิตในเวลาต่อมา

                ทางด้านครอบครัวของ โจ เจ้าบ่าวผู้เสียชีวิต ก็ได้เปิดระดมทุนบนเว็บไซต์ GoFundme เพื่อหาเงินค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพให้กับเขา โดย เอสเธอร์ ผู้หัวใจสลายและต้องกลายเป็นหม้ายในคืนวันแต่งงานของตัวเอง กล่าวว่า โจคือผู้ชายแสนดี เขาเป็นพ่อที่ดีที่สุดสำหรับลูก และทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวได้อยู่ดีมีสุข โจรักเพื่อนและครอบครัวมาก

                ขณะที่ แอนดี้ กล่าวว่า พี่ชายคนนี้คือแบบอย่างในชีวิตของตน เขาช่วยเลี้ยงดูน้องชายทั้ง 4 คนจนเติบโตขึ้นมา โจเป็นคนดีมาก และไม่สมควรตายแบบนี้

                ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาไม่นานในการสืบหาตัวคนร้ายผู้ก่อเหตุ พวกเขาได้ออกหมายจับ และติดตามจับกุมทั้งสองได้ที่บ้าน ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ