โรงเรียนเกิดเหตุ เด็ก ม.1 ยิงเพื่อนตาย สั่งคุมเข้มทุกจุด นักเรียน ร.ด. นับร้อยเดินตรวจตราทั่วโรงเรียน พร้อมค้นกระเป๋านักเรียนกว่า 4,000 คน ไม่เว้นแม้แต่เด็กอนุบาล
จากกรณี นักเรียนชายชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี ก่อเหตุใช้ปืนยิงนักเรียนชาย ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นเสียชีวิต ขณะก้มถอดรองเท้าเข้าห้องเรียน โดยแรงจูงใจที่ก่อเหตุเนื่องจากผู้ตายชอบแกล้ง และชอบล้อว่าเป็นตุ๊ด เป็นเกย์ แถมโดนด่าในเกมหลังเล่นเกมแพ้อีกด้วย และจากการสอบสวนทราบว่า เด็กคนก่อเหตุเคยประกาศจะยิงเพื่อนในห้องมาแล้ว และเคยเตรียมจะแทงเพื่อน แต่ลืมเอามีดติดตัวไปนั้นอ่านข่าว : ปมลึก เด็ก ม.1 ยิงเพื่อนตาย ฟางเส้นสุดท้ายขาดมานาน วางแผนก่อการมาแล้ว แต่พลาด
ล่าสุด (19 ธันวาคม 2562)
ข่าวช่องวัน รายงานว่า โรงเรียนดังกล่าวยังเปิดตามปกติ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้นมากขึ้น มีเจ้าหน้าที่พิเศษเดินโดยรอบโรงเรียน ป้องกันไม่ให้คนนอกเดินเข้าในโรงเรียน และมีนักศึกษาวิชาทหาร (ร.ด.) นับร้อยคน เดินตรวจตราตามจุดต่าง ๆ ภายในโรงเรียน และตรวจกระเป๋าของเด็กนักเรียนมัธยมทุกคน ซึ่งวันนี้ไม่พบสิ่งผิดปกติ นอกจากนี้คุณครูได้ปิดประตูอาคารที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้คนนอกเดินขึ้นไปบนอาคาร
โดย รปภ. ของโรงเรียนแห่งนี้ เปิดเผยว่า ตนทำหน้าที่สอดส่องดูแลเด็กมาหลายปี ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้ ยอมรับว่ายังตกใจอยู่ ไม่คิดว่าเด็กอายุแค่ 10 กว่าปี จะก่อเหตุรุนแรงขนาดนี้ ที่ผ่านมาเด็กผู้ชายในโรงเรียนจะมีการแซวกันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็ถูกคอกันดี แต่สำหรับ 2 คนนี้ น่าจะล้อกันแรง จนกลายเป็นปมฝังใจและลงมือก่อเหตุดังกล่าว ส่วนประเด็นที่ว่าทำไมเด็กถึงเอาปืนเข้าโรงเรียนได้นั้น เพราะก่อนเกิดเหตุไม่มีการตรวจค้นกระเป๋า เนื่องจากจำนวนนักเรียนเยอะกว่า 4,000 คน ค้นไม่ไหว เสียเวลา แต่หลังจากนี้ทางโรงเรียนมีมาตรการเข้มข้นมากขึ้น ค้นกระเป๋ากันทุกวัน ไม่เว้นแม้เด็กอนุบาล โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ (19 ธันวาคม 2562) เพื่อหวังไม่ให้มีเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก
ขณะที่ พล.ต.ต. ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี
ระบุว่า ไม่อยากให้สื่อมวลชนขยายความลงลึกในคดีนี้
เพราะผู้ก่อเหตุยังเป็นเด็ก แต่ยืนยันได้ว่าเด็กทั้ง 2 คนไม่ถูกกัน
ส่วนจะมีการวางแผนใด ๆ มาก่อนหรือไม่นั้น ยังอยู่ในขั้นตอนสอบสวน
คดีไม่ซับซ้อนอะไร คาดว่าวันนี้ทางอัยการจะนัดสหวิชาชีพ
เข้ามาสอบปากคำผู้ก่อเหตุ ก่อนจะนำตัวไปรับโทษในสถานพินิจ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก