ผู้ช่วย ผบ.ตร. เผยหลังวันที่ 31 มีนาคม 2563 พบเด็กแว้นในพื้นที่ไหน ผกก. จะต้องรับผิดชอบ เผยสถิติลดลงอย่างเห็นได้ชัด จ่ายค่าตอบแทนให้คนแจ้งไปแล้วรวม 57,000 บาท
ภาพจาก สำนักข่าว INN
พล.ต.ท. ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ได้กำชับถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งในการแต่งตั้งระดับรอง ผบก.-สว. เมื่อ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา ให้กวดขันจับกุมเด็กแว้นในทุกพื้นที่ โดยในวันที่ 31 มีนาคม จะมีการประเมินผล หากพบว่าพื้นที่ใดยังมีผู้แชร์ข้อมูลกลุ่มเด็กแว้นรวมตัวกันลงโซเชียลมีเดีย ผกก. สถานีนั้น ต้องรับผิดชอบ
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
ภาพจาก สำนักข่าว INN
วันที่ 9 มกราคม 2563 พล.ต.ท. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.
ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง
ตร. (ศปข.ตร.)
เปิดเผยก่อนเป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนการดำเนินการตามมาตรการและนโยบายการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางฯ
ว่า การขับเคลื่อนนโยบายของศูนย์ฯ ที่ผ่านมา พบว่า
สถิติการรวมกลุ่มของเด็กแว้นทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2562
ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จาก 795 ครั้ง เหลือเพียง 274 ครั้ง
พล.ต.ท. ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ได้กำชับถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งในการแต่งตั้งระดับรอง ผบก.-สว. เมื่อ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา ให้กวดขันจับกุมเด็กแว้นในทุกพื้นที่ โดยในวันที่ 31 มีนาคม จะมีการประเมินผล หากพบว่าพื้นที่ใดยังมีผู้แชร์ข้อมูลกลุ่มเด็กแว้นรวมตัวกันลงโซเชียลมีเดีย ผกก. สถานีนั้น ต้องรับผิดชอบ
ผบ.ตร.
ได้ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน
จึงมีนโยบายมอบเงินค่าตอบแทนการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดให้แก่ประชาชน
ผลการดำเนินการจ่ายค่าตอบแทนบุคคลภายนอกผู้ให้ข้อมูลข่าวสารตั้งแต่
กันยายน 2562 - มกราคม 2563 มีประชาชนแจ้งเบาะแสการแข่งรถในทางมาทั้งสิ้น
2,576 ราย และจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้ประสงค์รับเงินไป 19 ราย ทั้งสิ้น 57,000
บาท
โดยฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสการแข่งรถในทางมาได้ที่ช่องทางสายด่วน
1599 ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191
และส่งคลิปวิดีโอแจ้งข้อมูลเบาะแสที่เกี่ยวข้องให้ตำรวจทราบในช่องทางเพจ
เฟซบุ๊ก ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.
ภาพจาก สำนักข่าว INN